นี่คือไฟหน้าแบบ mass product ของ Honda CBR250RR พร้อมทั้งอัพเดทข้อมูลล่าสุด

วันนี้มาอัพเดทกันต่อเนื่องไปเลย กับทางโมเดลที่หลายต่อหลายคนเฝ้ารออย่าง Honda CBR250RR เมื่อมีการเปิดเผยภาพไฟหน้าสำหรับเวอร์ชั่นที่จะวางขายกันจริงๆ ในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะมาถึงนี้ ซึ่งหากเราพิจารณาดูแล้วมีความใกล้เคียงกันกับตัวต้นแบบมากเลยทีเดียว โดยจะมีลักษณะเป็นไฟหลบใต้หน้ากาก ที่มีดีไซน์เล็กเรียว และแน่นอนว่ามันจะต้องเป็นแบบ LED เท่านั้น

ทางรถ Honda CBR250RR หรือที่มีรหัสอย่างเป็นทางการว่า K64A นั้นจะใช้ไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED ซึ่งภาพที่เราเห็นกันนี้เป็นการเผยแพร่จากทาง motoblast.org หากจะเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ก็จะเหมือนกันกับไฟหน้าของรถ new Toyota Fortuner นั่นเอง โดยตัวรถนั้นจะมีขนาดเครื่องยนต์ที่ 250cc DOHC 2 สูบเรียง และทางสื่อของทางอินโดนีเซียที่จะเป็นฐานการผลิตนั้นได้คาดการณ์มาว่าจะมีโหมดในการขี่มาให้ดังนี้ Racing Sport, Racing และ Dynamic นั่นก็หมายความว่าโหมด Racing Sport น่าจะเป็นการเรียกประสิทธิภาพทุกอย่างของเครื่องยนต์ออกมาใช้งานอย่างเต็มที่ และลดความเซ็นซิทิฟของพวก ABS และ Engine Brake สำหรับผู้ที่ต้องการฟีลลิ่งเหมือนกับการวิ่งในสนามจริงๆ ส่วนของ Racing นั้นก็น่าจะหมายถึงโหมดปกติ (แต่ตั้งชื่อให้ดูดีกว่า standard) ที่ปรับค่าต่างๆ มาแบบสมดลุย์กลางๆ เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไป

ทีนี้คำถามสำคัญก็คือโหมดที่ 3 Dynamic นั้นจะหมายถึงอย่างไร ถ้าเราลองเทียบกับพวกรถบิ๊กไบค์รุ่นใหญ่ๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่ามันหมายถึงการปรับแต่งค่าต่างๆ เองตามความต้องการของเรา (พวกทอร์ค, แรงม้า, การทำงานของระบบเบรก ฯลฯ) ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่เราคาดการณ์กันจริงนั่นก็จะเท่ากับว่ามันมาปฏิวัฒิวงการ รถมอเตอร์ไซค์ในระดับเอนทรี่คลาสกันเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้อีกไม่นานเราก็จะได้กระจ่างกันแล้ว

และสำหรับในประเด็นเรื่องของราคานั้น ขออ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ล่าสุดที่เราเคยนำเสนอกันไปแล้วอีกครั้ง จากบทสัมภาษณ์ของทางผู้บริหารค่ายฮอนด้าที่ อินโดนีเซียหรือว่า AHM ได้ให้คำตอบที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องราคาว่า “ใช่, ผมคิดว่าเรื่องราคานั้นเป็นคำถามใหญ่สำหรับหลายๆ คนที่กำลังจับตามองโมเดลใหม่ของเราคันนี้อยู่ เราขอบอกตรงนี้เลยว่าราคาของ CBR250RR นั้นจะเซอร์ไพร์สเหล่าไบค์เกอร์ทั้งหลายอย่างแน่นอน แม้ว่าโมเดลของเราเองนั้นจะมีฟีเจอร์และออพชั่นต่างๆ ที่ติดรถมาอย่างมากมาย แต่เราเองนั้นก็ยังอยู่ในโลกของการแข่งขันที่สูงมากๆ ในปัจจุบันนี้ ดังนั้นแล้วในเรื่องของราคานั้นผู้คนจะรู้สึกว่ามันถูกมากๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราให้มา และรถคันอื่นๆ คลาสเดียวกันนี้ในท้องตลาด ขอย้ำอีกครั้งว่างานนี้มีเซอร์ไพร์สแน่นอน”

ราคาจริงๆ เมื่อจะวางจำหน่ายกันในท้องตลาดของ Honda CBR250RR นี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านรูปเปีย (Rupiah 70 millions) และเมื่อแปลงค่าเป็นเงินไทยจะอยู่ที่ประมาณ 185,850 บาท ซึ่งแพงกว่าคู่แข่งอย่าง YZF-R25 และ Ninja 250R ไปประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท (ที่อินโดนีเซีย จะไม่ขายตัว 300 เนื่องจากข้อจำกัดด้านใบขับขี่) แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับมาอย่าง สวิงอาร์มแบบบานาน่าอลูมิเนียม, LED, โช๊คอัพหน้าแบบ USD (หัวกลับ), หน้าจอแสดงผลแบบ fully digital, โหมดในการขับขี่ที่สามารถเลือกได้ ฯลฯ

อีกหนึ่งคำถามสำคัญนั่นก็คือไบค์เกอร์ชาวไทยเรายังคงจะมีหวังกับโมเดลรุ่นนี้หรือไม่ ทางเราขอวิเคราะห์ดังนี้ว่า แม้จะผิดหวังมาจากตัว all new CBR150R ที่บ้านเรายังคงไม่มีแพลนจะวางขายกัน แต่สำหรับโมเดลนี้น่าจะแตกต่างออกไป เพราะเหตุผลแรกก็คือ ทางค่ายฮอนด้าอินโดฯ เองนั้นได้แจ้งออกมาแล้วว่าโมเดล CBR250RR, 300RR จะเป็นแบบโกบอลโมเดล ซึ่งหมายถึงโมเดลที่จะวางจำหน่ายกันในหลายๆ ประเทศทั่วโลก เหตุผลต่อมาคือ เคยมีข่าวหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่าทางค่ายอาจจะพิจารณาให้เจ้า CBR250RR, 300RR นั้นเข้าสู่ Big Wing ถึงแม้จะขัดกับหลักเกณฑ์ในเบื้องต้นที่เดิมกำหนดให้รถขนาด 400cc ขึ้นไปเท่านั้น แต่ในเมื่อเป็นเรื่องภายในของทางค่ายเอง การเปลี่ยงแปลงตรงนี้ก็ย่อมทำได้ไม่ยาก และเหตุผลสุดท้ายก็คือ ในประเทศไทยเรานั้นยังไม่มีโมเดลที่ทับไลน์กันอย่างชัดเจนกับ CBR250RR, 300RR ซึ่งตัว CBR300R ที่วางขายกันในตอนนี้แม้จะมี cc ใกล้เคียงกัน แต่ว่าเป็นรถ 1 สูบ ดังนั้นในเรื่องของกลุ่มเป้าหมายและราคาจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน จึงทำให้มีช่องว่างที่จะสอดแทรก CBR250RR หรือมาบ้านเราอาจจะเป็น 300RR นั้นลงได้ตรงกลางระหว่าง CBR300R และ CBR500R พอดี อย่างไรก็ตามหากเป็นไปตามคาดที่จะเปิดตัวกันในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากนั้นหากจะมีแพลนการทำตลาดในบ้านเราจริงๆ ก็น่าจะได้เห็นการขยับกันหลังจากนั้นไม่นาน ต้องติดตามกันให้ดี

ขอบคุณภาพจาก motoblast.org tmcblog.com

โก้ GreatBiker

Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience