Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

2015-honda-cb125f-to-arrive-in-europe-very-soon-photo-gallery_9
Honda CB125F
เป็นรถในรหัส CB-F ซึ่งเป็นตระกูลเนกเกตจากทางฮอนด้า แต่ตัวนี้ถือว่าเป็นโมเดลใหม่เลย เพราะว่าทางฮอนด้านั้นใช้โครงใหม่ ใช้ล้อแม็กส์แบบ 6 ก้านขนาด 18 นิ้ว สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานได้ในชีวิตจริง ตัวรถนั้นระบายความร้อนด้วยอากาศ ส่งกำลังได้ดีในย่านความเร็วต้นและกลาง อีกทั้งยังมีระบบ balance shaft ช่วยในการทรงตัว อีกทั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดของฮอนด้าอย่าง PGM-FI ก็ยังถูกปรับจูนมาใหม่ให้จ่ายน้ำมันได้ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งจุดประสงค์หลักทางฮอนด้าต้องการจะทำรถมอเตอร์ไซค์ในราคาประหยัดที่ให้ความคุ้มค่ามากที่สุดกับผู้ซื้อนั่นเอง

แน่นอนว่ารถ CB125F นี้เป็นรถที่อยู่ในระดับ entry-level (ระดับเริ่มต้น) สำหรับผู้ใช้งานที่มากับเครื่องยนต์ขนาด 125cc ซึ่งเป็นคลาสที่นักบิดหลายๆ คนใช้เป็นตัวเริ่มต้นในการฝึก ซึ่งแม้ว่าเจ้าตัวนี้มันจะมีขนาดเครื่องที่ไม่ใหญ่มาก แต่ว่ามันก็ให้ฟีลลิ่งในการขับขี่ที่ครบครันสำหรับที่รถบิ๊กไบค์ดีๆ สักคันพึงจะมี เช่นให้ความรู้สึกตื่นเต้น อิสระ และดึงสัญชาตญาณแห่งนักแข่งในตัวคุณออกมา และแน่นอนว่าในขณะที่มันให้ฟีลลิ่งเหล่านั้นกับคุณ แต่มันก็ถูกออกแบบมาให้เหล่ามือใหม่ใช้งานและเรียนรู้กับมันได้ง่ายอีกด้วย

blank

ทีนี้เรามาดูในเรื่องของรูปลักษณ์กันบ้าง CB125F 1 สูบ นั้นเป็นน้องเล็กของรถในตระกูลเดียวกันอย่าง CB300F (1 สูบ), CB500F (2 สูบ) และ CB650F (4 สูบ) นั่นเอง แต่ทั้งหมดนี้มันก็ถูกตั้งใจให้เกิดมาเป็นรถแบบ “สตรีทไฟท์เตอร์” โดยใช้แฮนด์บาร์ที่ยกสูงขึ้นมาและออกแนวกว้างกว่าพวกรถสปอร์ต เพื่อให้คอนโทรลได้ง่ายสำหรับการใช้งานในเมือง

blank

ตัวโครงรถนั้นใช้โครงเหล็กซึ่งมีความแข็งแกร่งสูง จุดศูนย์ถ่วงจะอยู่ค่อนข้างต่ำมาด้านล่าง ทำให้เวลาขับขี่หรือเข้าโค้งสามารถทำได้ด้วยความมั่นใจ แต่หากว่าคุณขี่รถคันใหญ่ๆ ยางโตๆ มาก่อน อาจจะต้องระวังนิดนึงในเรื่องของหน้ายางที่สัมผัสถนน เพราะว่าเจ้า CB125F นั้นให้ขนาดของยางมาที่ หน้า 80 หลัง 90 เท่านั้น โช้คหน้าใช้แบบเทเลสโคปิก แต่โช้คหลังใช้แบบคู่ซึ่งตรงนี้น่าเสียดายว่าน่าจะใช้โช้คหลังเดี่ยวตามสมัยนิยมมากกว่า ในส่วนของระบบเบรกหน้านั้นใช้แบบ ไฮโดรลิก คาลิปเปอร์ ดิสก์เบรกซึ่งช่วยให้สามารถหยุดรถได้ดั่งใจสั่ง แต่ว่าเบรกหลังนั้นใช้แบบดรัมเบรก แต่ก็พอใช้ได้กับรถขนาดแค่ 125cc คันนี้

blank

ส่วนในด้านของขุมกำลังนั้น CB125F ใช้เครื่องยนต์ขนาด 124.7cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด OHC 1 สูบ ขนาดกระบอกสูบ x ระยะช่วงชักอยู่ที่ 52.4 x 57.8mm แรงอัดอยู่ที่ 9.2:1 ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 5 สปีด ให้กำลังสูงสุดที่ 7.8KW ที่ 7,750 รอบ และทอร์ค 10.2 Nm ที่ 6,250 รอบ แม้ว่าตัวเลขที่ออกมานั้นอาจจะดูน้อยไปสักนิด แต่ก็นั่นแหล่ะครับ มันก็พอเหมาะพอดีกับรถคลาส 125cc แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือฮอนด้าเน้นในเรื่องกรใช้งานที่ง่ายสำหรับมือใหม่ไว้ก่อนอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั่นเอง

blank

blank

จากการขับขี่นั้นพบว่าแม้รูปร่างของรถจะค่อนข้างผอมเพรียว แต่ว่าการใช้งานจริงกลับไม่รู้สึกเบาหวิวยามใช้ความเร็วสูง (100 km ขึ้นไป) แต่อย่างใด ระบบกันสะเทือนถือว่าพอใช้ได้ ไม่หนึบมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับย้วย แต่โช้คหลังที่เป็นแบบสปริงคู่นั้นสามารถปรับระยะพรีโหลดได้ 5 ระดับ ซึ่งอาจจะมากเกินความจำเป็นไปนิดนึง ในส่วนของเสียงเครื่องและท่อนั้นก็เงียบตามสไตล์ของฮอนด้าเอง ในส่วนของถังน้ำมันนั้นจุอยู่ที่ 13 ลิตร และทางฮอนด้าได้เคลมอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันว่าอยู่ที่ 51.3 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งนับว่าประหยัดมากๆ เลยทีเดียว

blank

ในตอนเปิดตัวนี้ฮอนด้าได้ส่งรถมาทั้งหมด 5 สีด้วยกันคือ สีเหลืองมุก, สีน้ำเงินเมทัลลิก, สีขาวมุก และ สีแดงลูกกวาด (Candy Blazing)

blank

จากความคิดเห็นสรุปของ GreatBiker.com แล้วมองว่าเจ้า CB125F คันนี้เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับผู้ที่ไม่เคยขับรถบิ๊กไบค์มาก่อน เพราะมันให้อารมณ์และหลักการเดียวกันกับรถในคลาสที่ใหญ่กว่านี้ (พวก 250cc ขึ้นไป) แต่มันไม่เหมาะกับพวกมือเก๋า หรือคนที่เคยมีประสบการณ์ในการขับขี่มาก่อนแล้วแน่ๆ เพราะมันไม่พอมือคุณหรอกครับ ส่วนในเรื่องของสนนราคายังไม่มีการเคาะออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เราก็เชื่อได้เลยว่ามันไม่แพงแน่นอน (ตามไสตล์การตลาดของฮอนด้า)

เอาวิดีโอแบบตัวเป็นๆ ของเจ้า CB125F มาฝากกันครับ

ขอบคุณภาพประกอบจาก autoevolution.com motorcycle.com motorbox.com motorcyclespecs.co.za TMC