Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

Mv Agusta Viva Lara 800 Scrambler เมื่อความเรโทรมาอยู่กับความพรีเมี่ยม

ssc

ช่วงนี้จะต้องบอกว่าเป็นยุคแห่งรถในแนวเรโทรอย่างแท้จริง แม้ว่าจะมีรถในแนวสปอร์ตล้ำยุคทั้งหลายออกมาสู่ตลาดกันมากมาย แต่ว่ารถในแนวย้อนยุคอย่างพวกคลาสสิก, คาเฟ่ หรือสแครมเบิลนั้นก็ยังคงมีออกมาเรื่อยๆ จากหลายค่ายเสียด้วย วันนี้เราอยากจะพาไปรู้จักกันกับ Mv Agusta Viva Lara 800 Scrambler 

ทางค่ายต้นสังกัดเอง ได้คลอดเจ้า Mv Agusta Viva Lara 800 Scrambler  ซึ่งมันใช้พื้นฐานตัวเดียวกันกับเจ้า MV Agusta Brutale 800 ซึ่ง ในเวอร์ชั่นของปี 2016 นั่นเอง ซึ่งไม่บ่อยเลยที่ทางค่ายจะทำรถบิ๊กไบค์ในแนวนี้ออกมา เพราะปกติจะมีแต่พวกแนวสปอร์ต, เนกเกต หรือไม่ก็แนวทัวร์ริ่งกันเป็นหลัก ดังนั้นเมื่อทางค่ายระดับพรีเมี่ยมอย่างนี้หันมาจับรถในแนวสแครมเบิล ก็เรียกความสนใจจากเหล่าไบค์เกอร์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

VIBA Lara800 N1of23 Paris02

Mv Agusta Viva Lara 800 Scrambler   ถือ ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ทางค่าย Mv Agusta ภูมิใจสรรค์สร้างและนำเสนอมันเป็นที่สุดเช่นกัน ด้วยรูปลักษณ์และดีไซน์ที่ดูดิบๆ ดูโหด  แต่ก็ได้กลิ่นอายการออกแบบที่ไม่เหมือนใครตามแบบฉบับของค่ายต้นสังกัด  เริ่มจากด้านหน้าของตัวรถที่ดูดุดัน  ให้กลิ่นอายความเป็นบิ๊กไบค์แนวออฟโรดที่พร้อมจะลุยแบบโหดๆ ไปได้ทุกที่  เชื่อหรือไม่ว่า หากคุณนำเจ้าคันนี้ไปปรับเปลี่ยนด้วยการใส่ล้อยางแบบหนาม มันคือรถบิ๊กไบค์ที่พร้อมจะส่งให้คุณเข้าไปค้นหาผจญภัยในป่าได้ทันที

Brutale de Bako 83

ส่วนของไฟหน้า ที่ให้มาเป็นรูปแบบทรงกลม พร้อมตะแกรงตกแต่ง ถัดขึ้นไป ก็จะเป็ฯในส่วนของตัวแฮนด์บาร์และส่วนของตัวเรือนไมล์ ที่ตัวแฮนด์บาร์เอง ก็เรียกว่าจัดชุดตัวบาร์ได้กำลังพอดีมือที่จะทำให้ง่ายต่อการควบคุม เพราะมีช่วงบาร์แฮนด์ที่กว้างอยู่พอสมควร  ส่วนตัวเรือนไมล์เอง ก็จัดมาให้เป็นแบบฟูดิจิตอลกันไป มาดูกันต่อที่ส่วนของลำตัวกลางบิ๊กไบค์เจ้า Mv Agusta Viva Lara 800 Scrambler คันนี้กันต่อก็จะเป็นในส่วนของตัวถังน้ำมันที่งานนี้เรียกว่าปั้นขึ้นรูป ขึ้นมากันหมดเกือบทั้งหมด  วัสดุเลือกใช้เป็นวัสดุแบบอลูมิเนียม  และแอบสอดแทรกความเป็นบิ๊กไบค์เกรดพรีเมี่ยมเข้าไปด้วยชิ้นงานหรือวัสดุบาง ส่วนของคาร์บอนไฟเบอร์แท้ๆ ทำให้ดูสวยงามลงตัว พอที่จะทำให้ใครหลายๆ คนในที่นี้เมื่อได้เห็นก็อยากจะเข้าไปสัมผัสมันแบบตัวเป็นๆ สักหน่อย…

VIBA Lara800 N1of23 Paris03

ส่วนของตัวเบาะนั่งเอง ก็ให้มาแบบฟิลล์ลิ่งดิบๆ ไปหน่อย แต่ก็ทำอย่างไรได้ เพราะมันเป็นรถแนวสแครมเบอร์ให้มารูปแบบนี้ก็ไม่ได้ถึงกับแปลกใจอะไรเท่าไร ตัวเบาะเองเป็นสีน้ำเงิน ทำให้ดูตัดกันไปนิดกับตัวสีรถสีบรอนนั่นเอง ถัดมาที่ส่วนของบล็อกเครื่องยนต์กันบ้าง เห็นว่าทางค่ายใช้พื้นฐานเดียวกันกับเจ้า MV Agusta Brutale 800 ดังนั้นก็อาจจะมีสเปคข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ไม่ได้ต่างจากเจ้าตัว Brutale 800 นี้ สักเท่าไรอย่างแน่นอน อาจจะมีการปรับแต่งหรือจูนเครื่องยนต์ให้เหมาะกับตัวรถและลักษณะของการใช้ งาน  ซึ่งอาจจะเป็นในเรื่องของการจูนแรงม้าให้ตรอปลงมาสักหน่อย เพียงเท่านั้น ตามที่หลายๆ สื่อได้คาดการณ์เอาไว้ก็เป็นได้

VIBA Lara800 N1of23 Studio

มาดูกันต่อที่ส่วนของห้องเครื่องที่จะเห็นว่ามีส่วนของตัวเฟรมถักสี ดำที่เรียกว่าเป็นการดีไซน์ที่ลงตัวเข้ากับการวางบล็อคเครื่องยนต์แบบให้ได้ เห็นตับไตไส้พุงกันไป  เลื่อนสายตากมาอีกนิดก็จะเป็นในส่วนของคอท่อไอเสียที่เดินเส้นสายออกมาขนาบ กับตัวรถขึ้นมาด้านบนนิดหน่อย (เรียกได้ว่ารถสัญชาติยุโรปจะเลือกที่จะเดินตัวท่อแบบนี้กันเกือบทุกค่ายเลย ทีเดียวกับรถบิ๊กไบค์แนวสแครมเบอร์)

VIBA Lara800 N1of23 Topview

ส่วนระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่เจ้าคันนี้มีมาให้คงยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน เท่าที่ดูๆ แล้วในส่วนของระบบกันสเทือนที่ด้านหน้าให้มาเป็นแบบโช้คหัวกลับไซส์ขนาด ใหญ่  ส่วนระบบเบรคมาพร้อมกับคาลิเปอร์เบรคของเบอริงเกอร์ ซึ่งถ้ามองจากภาพโดยรวมแล้วถือว่ามันเป็นบิ๊กไบค์สแครมเบอร์ที่น่าขับขี่อีก ตัวหนึ่ง อยู่ที่ว่าคุณจะกล้าเอามันไปขับขี่แนวลุยบุกป่าฝ่าดงจริงๆ หรือไม่ ? เพราะแค่คิดก็ไม่อยากจะจับมันไปไหนซะแล้ว

VIBA Lara800 N1of23 Paris01 2

Mv Agusta Viva Lara 800 Scrambler รุ่นนี้ไม่ใช่งานบิ๊กไบค์แนวคัสตอมแต่โชว์สวยๆ แต่อย่างใด….แต่มันเป็นบิ๊กไบค์ที่พร้อมให้คุณได้สัมผัสและขับขี่ในแบบลิมิ เต็ดอิดิชั่น เพราะมันผลิตออกมาเพื่อจำหน่ายเพียงแค่ 23 คันเท่านั้น….

Brutale de Bako 71

งานนี้ต้องติดตามกันให้ดี กับการรีวิวสเปคของเจ้า Mv Agusta Viva Lara 800 Scrambler คันนี้กันในครั้งหน้า  ซึ่งตอนนี้หลายๆ คนเอง ก็คงอยากจะรู้ว่า เจ้า Mv Agusta Viva Lara 800 Scrambler คันนี้สนนราคาค่าตัวอยู่ที่เท่าไร ? บอกเลยว่าเจ้าคันนี้มันมีราคาค่าตัวของมันอยู่ที่ 32,310 ยูโรหรือหากจะคิดเป็นไทยเราก็ต่ออยู่ราวๆ 1,292,400 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีนะจ๊ะ) ราคานี้เป็นแค่ตัวพื้นฐานรุ่นแรกเริ่มต้นๆ เท่านั้นนะจ๊ะ  หากต้องการออฟชั่นหรือของแต่งที่โหดขึ้นไปกว่านี้ก็ต้องบวกเพิ่มกันขึ้นไป อีก!!!! โหดกันไหมละคร๊าบ ถึงบอกไงว่า หากจะถอยคันนี้มาจริงๆ คุณกล้าที่จะเอามันขับขี่แบบบ้าระห่ำจริงๆ หรือ ?

ขอบคุณภาพจาก postimg.org