Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

อีกหนึ่งโมเดลที่มีลุ้นจะเข้ามาทำตลาดบ้านเรา New Suzuki GSX-250R/300R

5f6d4f3a769f83c85af7f040c17d710c23b41d15_xlarge

เชื่อว่าเพื่อนๆ ทั้งหลายน่าจะทราบกันดีว่าเจ้า New Suzuki GSX-250R คันนี้ได้เปิดตัวกันเป็นที่แรกในโลกที่ประเทศจีนไปสักช่วงประมาณเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ก็ได้ความชัดเจนจากทาง Suzuki ประเทศญี่ปุ่นแล้วว่า โมเดลนี้จะเน้นการทำตลาดในฝั่งเอเชียและยุโรปเป็นหลัก ซึ่งในฝั่งของทางเอเชียแล้วนอกเหนือไปจากโรงงานที่ประเทศจีน ทางโรงงานของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศแม่ก็จะได้ขึ้นไลน์ผลิตโมเดลรุ่นนี้ด้วย ดังนั้นแล้วหากมองจากรูปการณ์ตรงนี้ นั่นก็เท่ากับว่า Suzuki ในบ้านเราก็มีโอกาสสูงที่จะนำเข้ามาวางจำหน่ายเหมือนกับการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นในโมเดลก่อนๆ หน้านี้

http://i1.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/GSX250R-31.jpg

โดยการออกแบบนั้นยังคงอิงเอกลักษณ์จากทางตระกูล GSX รุ่นพี่ในหลายๆ จุด โดยเฉพาะไฟหน้าแบบเดี่ยวที่ไม่ได้ตามสมัยนิยมอย่างค่ายอื่น ที่ในปัจจุบันมักจะเป็นแบบสองดวงเรียวหลบใต้หน้ากาก และเส้นสายโดยรวมของตัวรถที่ไม่ได้ดุดันมากนัก แต่การวางตำแหน่งของแฟร์ริ่งโดยรวมเพื่อทำแอร์โร่วไดนามิกนั้นยังคงเชื่อใจได้อยู่ และแน่นอนว่าสีที่เปิดตัวนั้นย่อมจะเป็นสีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำของทางค่าย Suzuki นั่นเอง

http://i2.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/2017-Suzuki-GSX-250R-China-1.jpg

ต่อมาเราลองมารู้จักกันกับแหล่งกำเนิดขุมกำลังกันก่อนเลย โดยเครื่องยนต์พื้นฐานของ GSX-250R นั้นนำมาจาก Inazuma รถจากค่ายเดียวกันเอง แต่มีการปรับจูนกันให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของแรงม้าที่เพิ่มมาที่ 24.7 ตัว โดยสเปคอย่างละเอียดจะมีดังนี้ เครื่องยนต์ขนาด 248cc 2 สูบเรียง แบบ 4 จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดไฟฟ้า ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 248cc อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 11.5:1 แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 24.7 HP ที่ 8,000 รอบต่อนาที ส่วนทอร์คหรือว่าแรงบิดนั้นอยู่ที่ 23.4 Nm ที่ 6,500 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด และส่งกำลังสุดท้ายด้วยโซ่

http://i1.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/2017-Suzuki-GSX-250R-China-6.jpg

ในส่วนของโครงรถนั้นเป็นแบบ ดับเบิ้ลคราเดิลเฟรม หน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ มีการบอกสถานะต่างๆ อย่างครบครัน รวมไปถึงการบอกตำแหน่งเกียร์รถด้วย ที่ตรงนี้เองจะช่วยได้เยอะทีเดียวสำหรับผู้เริ่มต้นกับรถในแนวนี้ และยังมีการแจ้งเตือนระยะที่จะต้องเข้ารับการตรวจเช็คด้วย ตรงนี้เองทำให้เราไม่พลาดหรือเผลอลืมไป ในขณะที่ช่วงล่างนั้นด้านหน้าเป็นระบบกันสะเทือนแบบเทเลสโคปิกขนาด 37mm ส่วนด้านหลังเป็นแบบซิงเกิลโช้ค โดยสามารถปรับระยะพรีโหลดได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนเบรกหน้านั้นเป็นดิสก์เดี่ยวแบบทรงคลื่นขนาด 290mm และด้านหลังขนาด 240mm มีระบบ ABS ทั้งหน้าและหลัง ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ของ NISSIN ที่เรารู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ในส่วนของระยะห่างระหว่างล้อหน้าและล้อหลังนั้นอยู่ที่ 1,430 mm ส่วนความสูงเบาะอยู่ที่ 780 mm สำหรับน้ำหนักตัววัดได้ 178 กก. ถือว่าไม่หนักไม่เบาเกินไปสำหรับรถมีแฟร์ริ่งอย่างนี้

http://i0.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/2017-Suzuki-GSX-250R-China-9.jpg

http://i0.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2016/10/2017-Suzuki-GSX-250R-China-2.jpg

และแน่นอนว่าหากมีการทำตลาดกันในประเทศอื่นๆ ที่ไม่มีข้อจำเรื่องข้อกฏหมายกับจำนวน cc แล้ว ก็น่าจะอยู่ในคลาส 300 + – เพื่อมาต่อกรกับคู่แข่งค่ายอื่นในท้องตลาด ตรงนี้เองในช่วงปี 2017 ที่กำลังจะมาถึงนี้ก็น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นแล้วว่า ประเทศไทยเราจะมีโอกาสได้สัมผัสตัวเป็นๆ กันในช่วงเดือนไหน รวมไปถึงอีกหนึ่งโมเดลในตระกูลเดียวกันอย่าง GSX-R150 / S150 ด้วย เชื่อว่าตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในระดับเอนทรี่คลาสเองนั้นจะยังคงร้อนระอุและเรียกหาเหล่าไบค์เกอร์ใหม่ๆ เข้ามาสู่ตลาดได้อีกจำนวนมาก หากมีอะไรคืบหน้าเกี่ยวกับโมเดลนี้ ทาง GreatBiker จะรีบนำเสนอโดยเร็ว

ขอบคุณภาพจาก tmcblog.com suzuki