Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-1150x250.gif
Banner-Yamaha-Fazzio-X-Fila-2024-400x300.gif

อีกหนึ่ง render ของ All New Yamaha YZF-R3 2018 ที่เผยโฉมออกมา

r33

เรียกได้ว่าช่วงนี้กระแสข่าวของ All New Yamaha YZF-R3 2018 นั้นกระหน่ำออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจากทางฝั่งญี่ปุ่นประเทศแม่ของทางค่ายเอง หรือจากทางอินโดนีเซียที่เป็นฐานการผลิตหลักของโมเดลนี้ และล่าสุดเราก็ได้มีภาพ render จากทาง Julak Sendie Design พร้อมกับข้อมูลอัพเดทล่าสุดถึงความน่าจะเป็นของตัวรถมาฝากกัน

โดยล่าสุดทิศทางในเรื่องของการออกแบบตัวรถดูเหมือนว่าจะมีความใกล้เคียงกันกับ YZF-R6 เวอร์ชั่นปัจจุบันในบางจุด รวมไปถึง YZF-R1 ด้วย นั่นเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่าทาง Yamaha นั้นจะคุมโทนในการออกแบบของรถในตระกูล YZF เจเนเรชั่นนี้ไว้ให้มีความคล้ายคลึง โดยที่โช้คอัพด้านหน้าของเจ้า R3 คันใหม่นี้จะใช้โช้คอัพของ Kayaba แบบหัวกลับ Upside Down ค่อนข้างจะแน่นอนแล้ว ทำให้มันจะมาชนกับคู่แข่งอย่าง CBR250RR อย่างจังเลยทีเดียว ส่วนระบบเบรกหน้านั้นจะเป็นแบบเรเดียลเมาท์ สำหรับก้านล้อแม็กนั้นจะมีดีไซน์ที่แตกต่างไปจากเดิมและตัวโปรโมทน่าจะเล่นสีน้ำเงินเฉดเดียวกันกับตัวรถเลย

blank

หน้ากากด้านหน้าของตัวรถนั้นจะเป็นไฟแบบหลบใต้หน้ากากที่มีดีไซน์ดุดันขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่ามันจะมาพร้อมกับระบบไฟแบบ LED รอบคัน ตัวแฟร์ริ่งนั้นเน้นการทำแอร์โร่วไดนามิกมากเป็นพิเศษ ในขณะที่ท่อรถนั้นเป็นท่อแบบใหม่ที่มีการจดรหัสอะไหล่เรียบร้อยแล้วว่า BR56 ต่อมาในส่วนของโครงรถนั้นจะเป็นแบบเฟรม tubular ที่เน้นความแข็งแรงคงทนแต่จะรีดน้ำหนักให้เบามากเป็นพิเศษ และสำหรับในส่วนของเบาะนั่งนั้นจะเห็นว่ามันมีความเฉียบบางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยังคงเป็นแบบสองตอนยกระดับอยู่เช่นเคย

blank

ในส่วนของเรื่องขุมกำลังและฟีเจอร์ต่างๆ นั้นคาดการณ์ว่ามันจะมี VVA หรือระบบวาล์วแปรผันติดรถมาให้อย่างแน่นอน ที่จะทำให้อัตราเร่งนั้นไหลลื่นในทุกย่านความเร็ว เช่นเดียวกันกับ R15 โฉมใหม่ที่ใส่มาเหมือนกัน เครื่องยนต์จะเป็นแบบ 2 สูบเรียงลูกใหม่ที่ความจุนั้นเป็นไปได้ว่าจะเพิ่มจากเดิมที่ 321cc ไปอีกประมาณหนึ่ง ซึ่งมีลุ้นเต็มตัวที่ทางค่ายเองนั้นจะใช้เครื่องยนต์แบบ Blue Core อันเป็นเอกสิทธิ์ของทางค่ายด้วย โดยรวมแล้วถือว่ามีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายจุดเลยทีเดียวสำหรับ All New Yamaha YZF-R3 คันนี้ แต่หากว่าฟีเจอร์ต่างๆ มาเต็มขนาดนี้ก็น่าสนใจในเรื่องของราคาว่าจะเซ็ทมาแบบไหน หรือไม่ทางค่ายเองนั้นก็จะตั้งตำแหน่งของผลิตภัฑ์ไว้แบบไฮเอนด์เลยก็ได้ หากตั้งใจจะให้มันเป็นรถสปอร์ตเรพลิก้าในระดับเอนทรี่คลาสอย่างเต็มตัว เรามาจับตาดูความเคลื่อนไหวในครั้งนี้กันให้ดีในปี 2018 ที่จะมาถึงนี้ ว่าตัวรถเองนั้นจะมีอะไรมาต่อกรกับคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง CBR250RR กันบ้าง

ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/JulakSendieDesign/