Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Benelli TRK 251

benelli-trk-251-press-front-angle_720x540

หลังจากสร้างกระแสได้ในระดับหนึ่งในงานแสดงนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก EICMA Show 2017 ปลายปีที่ผ่านมา Benelli ก็เตรียมลุยตลาด ADV ด้วยรุ่นเล็กอย่างเจ้า Benelli TRK 251 โดยเตรียมตัวที่จะวางจำหน่ายจริงที่ประเทศอินเดียเป็นที่แรกของโลก

BEHbWN.jpg

โดยเจ้า Benelli TRK 251 นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 249 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ 4 วาล์วแบบ DOHC ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 25.4 แรงม้าที่ 9,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 21.2 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที  โดดเด่นด้วยระบบช่วงล่างที่เน้นการขับขี่ทางเรียบ ด้วยระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside-Down ขนาด 41 มิลลิเมตร และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Monoshock ชิลด์หน้าขนาดใหญ่ป้องกันการปะทะของลมกับผู้ขับขี่ ระบบไฟ LED รอบคัน ระบบเบรกแบบ Wave Disc หน้าหลัง พร้อมด้วยวงล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว สวมยางขนาด 110/70-ZR17 และ 150/60-ZR17

BEHoeS.jpg
BEHAkn.jpg
BEHlAQ.jpg

นอกจากนี้เจ้า Benelli TRK 251 ยังมีขนาดถังน้ำมันที่ใหญ่สะใจจุได้สูงสุดถึง 17 ลิตร โดยทางค่ายได้ออกมาเคลมเรื่องอัตราสิ้นเปลืองไว้ว่าน้ำมันเต็มถังจะสามารถวิ่งทำระบะได้ถึง 400 กิโลเมตร หรือเฉลี่ยที่ 24.3 กิโลเมตรต่อลิตร โดยจะมีน้ำหนักตัวโดยไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 153 กิโลกรัม

Benelli TRK 251 นั้นจะถูกวางตัวให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของสาย ADV ในเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ที่ก่อนหน้านี้จะมีเพียง Kawasaki Versys-X300 ที่เริ่มต้นก่อนใครเพื่อน ตามมาด้วย BMW G310 GS ที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ ซึ่งหากรวมรถจากฝั่งประเทศจีนอย่าง Ryuka RX1 ที่มีขนาดเครื่องยนต์ที่ 200 ซีซี แล้ว Benelli TRK 251 จะอยยู่ตรงกลางของรถที่วางจำหน่ายในท้องตลาดสำหรับสาย ADV รุ่นเล็ก

BEHPOg.jpg

BEHj1V.jpg

ซึ่งสุดท้ายเราก็ต้องมาดูเรื่องของการทำราคาว่าทางค่ายจะวางราคาเจ้า TRK 251 คันนี้ไว้ที่เท่าไหร่ โดยราคาคาดการณ์ในตลาดของประเทศอินเดียน่าจะตกอยู่ที่ไม่เกิน 230,000 รูปี หรือประมาณ 111,500 บาท และมีความเป็นไปได้ที่ Benelli จะมองตลาดในประเทศอื่นๆในการจัดจำหน่ายเจ้า TRK 251 ในอนาคตซึ่งรวมไปถึงประเทศไทยอีกด้วย สำหรับแฟนๆ ADV ก็ต้องอดใจรอกันสักหน่อยนะครับ เพราะเจ้า TRK 251 คันนี้จะเริ่มจำหน่ายในประเทศอินเดียช่วงต้นปี 2019 ก่อนเป็นที่แรกของโลก และน่าจะทิ้งช่วงประมาณ 3-6 เดือนในการเดินตลาดนอกประเทศในลำดับต่อไป

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.zigwheels.com