Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

มอเตอร์ไซค์ VS สกู๊ตเตอร์ ความแตกต่างที่มีพื้นฐานเดียวกัน

101518-scooter-vs-motorcycle-vespa-primavera-125-suzuki-hayabusa-f

ในปัจจุบันนี้รถสกู๊ตเตอร์เข้ามามีบทบาทในโลกมอเตอร์ไซค์มากขึ้น ด้วยความสะดวกสบายของการขับขี่ ความง่ายในการขับขี่ และจุดเด่นที่เรื่องของราคาจำหน่ายที่มีเริ่มต้นตั้งแต่ถูกมากไปจนถึงแพงมาก ให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรสิ่งที่เหมาะสมกับตัวผู้ขับขี่ได้ วันนี้ GreatBiker เลยอยากจะลองเปรียบเทียบเจ้ายานพาหนะทั้งสองรูปแบบนี้ ว่าข้อดีและข้อเสียของแต่ล่ะประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร

เรามาเริ่มต้นกันที่รถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปกันก่อน โดยรถมอเตอร์ไซค์ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานระบบเกียร์แบบ Manual หรือเกียร์ธรรมดา ที่ผู้ขับขี่จะต้องทำการเลือกใช้งานเกียร์ตามย่านความเร็วให้ถูกต้อง โดยจะอิงทั้งรถมอเตอร์ไซค์ที่มีระบบคลัทซ์แบบออโต้ และระบบคลัทซ์มือแบบ Manual เข้าด้วยกัน โดยอ้างอิงเพียงการใช้งานระบบขับเคลื่อนที่ต้องพึ่งพาผู้ขับขี่ในการทำงาน โดยข้อดีของเจ้ารถมอเตอร์ไซค์ในประเภทนี้คือ

  • สามารถเลือกการใช้งานเกียร์ได้ตามความเหมาะสม โดยผู้ขับขี่จะต้องทำการเลือกใช้งานระดับของระบบจับเคลื่อนให้สอดคล้องกับย่านความเร็วของการขับขี่ โดยในปัจจุบันมีทั้งระบบคลัทซ์ที้เป็นส่วนในการตัดและเติมกำลังของระบบขับเคลื่อนที่มีทั้งแบบ อัตโนมัติ อย่างที่เราเห็นใน Honda Wave, Yamaha Fin เป็นต้น และระบบคลัทซ์แบบ Manual ที่ผู้ขับขี่จะต้องมีการใช้งานคลัทซ์มือเพื่อช่วยในตัดกำลังเครื่องยนต์ เพื่อการปรับระดับเกียร์ตามที่ผู้ขับขี่ต้องการ
  • สามารถรีดรอบเครื่องยนต์ได้จนถึงขีดสูง มีผลชัดเจนในย่านความเร็วสูง ที่เราสามารถรีดพละกำลังของเครื่องยนต์ออกมาได้ถึงขีดสุด ง่ายกว่าระบบเกียร์แบบอัตโนมัติที่จะตัดการทำงานในย่านความเร็วของเครื่องยนต์เพื่อทำการเปลี่ยนเกียร์
  • สามารถทำความเร็วสูงได้มากกว่ารถสกู๊ตเตอร์ ในคลาสที่เท่าๆ กัน
  • ให้บุคลลิกและแสดงตัวของผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน
  • การทำงานและดูแลรักษาที่ง่ายดาย
  • มีหลายรูปแบบตามวาระการใช้งาน ทั้งทางเรียบ ทางฝุ่น ทางวิบาก รวมไปถึงการลงแข่งในสนามการแข่งขัน

เรามาดูในด้านด้านของข้อด้อยของรถมอเตอร์ไซค์เมื่อเปรียบเทียบกับรถสกู๊ตเตอร์และ AT กันบ้าง

  • ราคาในการดูแลรักษาที่สูงกว่า
  • การทำประกันภัยจะมีราคาที่แพงกว่า
  • ความสะดวกสบายที่แตกต่างกัน
  • การเมื่อยล้าจากการขับขี่ที่อาจจะมีมากกว่า เมื่อขับขี่ในระยะทางไกล
  • ล่อตา ล่อใจเหล่าขโมย มากกว่า

เรามาดูของฝั่งรถสกู๊ตเตอร์และ AT กันบ้าง ว่าจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกับรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ Manual มาเริ่มกันที่ข้อดีกันก่อนเลยครับ

  • ความสะดวกสบายในการขับขี่ ที่แตกต่างจากรถที่ต้องคอยใส่เกียร์
  • น้ำหนักเบา ขับขี่ได้ง่ายๆ เพียงบิดคันเร่ง รถก็เดินหน้าไปได้ ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเข้าเกียร์ในจังหวะต่างๆ
  • มีงานออกแบบที่สวยงามมากขึ้น และเอื้อต่อประโยชน์ในการเดินทางด้วย UBOX ใต้เบาะนั่งที่สามารถใส่สัมภาระได้
  • มีความคล่องตัวที่สูงกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป
  • ประหยัดน้ำมันมากกว่า
  • มีราคาจำหน่ายไล่เรียงไปตั้งแต่ถูกมากจนถึงแพงมาก โดยเป็นช่วงราคาที่ผู้บริโภคเลือกได้ตามกำลังทรัพย์


เราลองมาดูข้อด้อยของรถสกู๊ตเตอร์กันสักหน่อย

  • ด้วยความง่ายในนการขับขี่ จึงทำให้รถสกู๊ตเตอร์นั้นมีความเร็วสูงสุดที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับรถมอเตอร์ไซค์ในพิกัด ซีซี ที่เท่าๆ กัน
  • ราคาในการขายจะแพงกว่ารถมอเตอร์ไซค์แบบมีเกียร์ ในกรณีที่เปรียบเทียบจากรูปแบบของเครื่องยนต์ และขนาด
  • มีขนาดที่ใหญ่กว่า ทำให้ผู้ที่ไม่ชำนาญในการขับขี่ บางครั้งไม่สามารถมุดหนีการจารจรที่ติดขัดได้
  • วงล้อมักมีขนาดเล็ก ทำให้บางครั้งไม่สามารถสร้างเสถียรภาพในการขับขี่บนพื้นผิวที่ไม่เรียบได้
  • การวางตำแหน่งเครื่องยนต์จะอยู่เยื้องไปด้านหลัง ทำให้ด้านหน้าของรถสกู๊ตเตอร์และรถ AT นั้นมีน้ำหนักเบา
  • รูปแบบของการขับขี่จะเน้นที่ทางเรียบเป็นหลัก

ถึงแม้ว่าทั้งสอง จะมีข้อดีที่แตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังมีข้อด้อยพอๆ กัน ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการพัฒนาระบบขับเคลื่อนใหม่ ที่เป็นการรวมเอาข้อดีของการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในแบบดั่งเดิม กับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ อย่างเช่น Honda NC750X ที่มีการติดตั้งระบบ DCT หรือระบบคลัทซ์คู่ที่แยกการจับเกียร์เว้นกันทำให้การขับขี่นั้นราบลื่นแทบไม่รู้สึกในจังหวะที่เปลี่ยนเกียร์ และยังสามารถขับขี่เลื่อนเกียร์แบบ Manual ตามวิถีมอเตอร์ไซค์ดั่งเดิม หรือ Yamaha T-Max ที่ปรับจากรถสกู๊ตเตอร์มาใช้ระบบเกียร์แบบใหม่ ทำให้รีดศักยภาพของเครื่องยนต์ได้สูงมากขึ้น ทำความเร็วสูงสุดได้มากขึ้นกว่าเดิม


อย่างที่เราเห็นกันดีในตลาดปัจจุบัน ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ล้วนแต่ต้องการพัฒนาศักยภาพของรถมอเตอร์ไซค์ทั้งแบบดั่งเดิม และรูปแบบใหม่ๆ ออกมาเสมอๆ ซึ่งแน่นอนว่าผลประโยชน์นั้นจะตกอยู่ที่ใครหากไม่ใช่ผู้บริโภคอย่างเรา ดังนั้นแล้ว ใครรักใครชอบในแนวทางไหน ก็เลือกเอาที่สบายใจได้เลย แต่ขอเพียงอย่างแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน เพราะยังไงแล้วเราก็เป็นพวกสองล้อเหมือนๆ กัน

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก  www.motorcycle.com