รีวิว CFMOTO 650 MT บิ๊กไบค์ทัวร์ริ่งราคาไม่แรง จะมีดีอะไรบ้างไปดูกัน!!!
มาถึงรถอีกหนึ่งคันที่ CFMoto นำมาให้เราได้ทดสอบกันกับเส้นทางเชียงใหม่-อ่างขาง-ฝาง หลังจากบทความก่อนหน้านี้ได้พูดถึง รถในตระกูล NK ไม่ว่าจะเป็น 400NK ,650NK ซึ่งทั้งสองคันก็ทำได้ค่อนข้างประทับใจแอดเลยทีเดียว แต่สำหรับบทความนี้แอดต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นรถที่แอดเองได้สัมผัส ขับขี่นานกว่า 2 คันข้างต้นก็จะจับหลายๆจุดมาบอกเล่าให้ฟังกับ CFMoto 650MT มีพื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกับ 650NK แต่จะแตกต่างตรงที่ 650MTถูกออกแบบมาให้เป็นรถแนวทัวร์ริ่ง ที่เห็นได้ชัดเจนในรูปลักษณ์ภายนอก นั่นคือแผงชิวล์หน้าใส ขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับความสูง-ต่ำได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ การ์ดแฮนด์ แคชบาร์หน้าหลังที่มาพร้อมกับปี๊บสัมภาระอีก 2 ใบ และการจัดวางตำแหน่งของแฮนด์บาร์ที่ดูจะสูงขึ้น ทำให้ท่านั่งในการขับขี่สบายขึ้นนั้นเอง
CFMoto 650MT นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 649.3cc 2สูบ เรียง ให้แรงม้ามาสูงสุดที่ 56 BHP ที่ 9,500 รอบ และทอร์คหรือว่าแรงบิดนั้นเท่ากับ 62 NM ที่ 7,000 รอบ ตัวเครื่องนั้นระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ DOHC 8 วาล์ว แครงก์ชาร์ฟทวางองศาที่ 180 จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด EFI จุดระเบิดด้วยกล่อง ECU อัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 11.3:1 ขนาดกระบอกสูบอยู่ที่ 83 mm และระยะช่วงชักอยู่ที่ 60 mm
นอกจากนั้นแล้ว ยังยัดโช้ค Upside Down และ ABS มาให้อีกด้วย ถังน้ำมันที่มีความจุถึง 18 ลิตร ทำให้ขับขี่ได้ไกลมากขึ้น ความรู้สึกแรกที่ลองสัมผัสแอดว่ามิติรถค่อนข้างใหญ่ และมีน้ำหนักมากว่ารุ่นอื่นเล็กน้อย ที่ 213 กิโลกรัม แต่พอลองขึ้นคร่อมกลับรู้สึกว่ามันกำลังพอดีๆไม่ใหญ่มาก เบาะนั่งเหมือนจะสูงแต่พอนั่งแล้วเท้าทั้ง2ข้างกลับลงได้เต็มเท้าอาจเป็นเพราะน้ำหนักตัวรถเองที่ไปกดความสูงลง และอีกอย่างที่สังเกตุเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น องศาของถังน้ำมันค่อนข้างที่จะเป็นแนวระนาบเดียวกับตัวรถ ทั้งที่ตัว NK องศาของถังจะสโลปไปด้านหน้านั่นเอง ตัวแฮนด์บาร์มีขนาดใหญ่ตามแบบทัวริ่ง เบาะนั่งตอนเดียวเล่นระดับขนาดใหญ่ สามารถขยับตำแน่งการนั่งได้หลายจุด ท่านั่งในการขับขี่หลังค่อนข้างตรง ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเวลาขับขี่
ถึงแม้แอดจะบอกว่าเป็นรถที่ใช้เครื่องตัวเดียวกับ 650NK แต่ในเรื่องของการต่อรอบในแต่ละเกียร์ค่อนข้างจะนุ่มและสมูทกว่า 650NK เกียร์1-3ยังให้อัตราทอร์คที่จัดอยู่ ช่วงเกียร์4-6 ถึงแม้ความเร็วปลายจะไม่ไหลมากแต่ในช่วงความเร็ว100-140 ตัวรถไม่มีอาการส่ายเลยขี่ได้ชิวๆเรื่อยๆ แอดลงกดความเร็วเท่าที่จะทำได้ไหลไปถึง 160ปลายๆ แต่หลายคนในทริปบอกว่ายังเหลืออีกเยอะ
ในช่วงความเร็วไม่เกิน 120 ชิวล์หน้าบังลมได้ดีมาก มีจุดนึงที่แอดสังเกตุได้คือใต้แผงชิลด์หน้ากับแฮนด์บาร์ จะมีชิลด์แยกออกมาอีกทั้งซ้ายและขวา ซึ่งจุดนี้เองแอดว่ามันช่วยให้รถนิ่งขึ้น
การขับขี่ในเมืองทำได้ดี แต่ถ้าต้องซอกแซกผ่านช่องแคบๆหรือต้องมุด อาจจะต้องใช้สกิลการขับขี่พอสมควร อาจจะต้องถอดปี๊บออกเมื่อต้องการความคล่องตัว น้ำหนักของปี๊บสัมภาระเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ต้องเพิ่มเป็นจุดสังเกตุ หากเดินทางไกลแล้วต้องบรรทุกสัมภาระ น้ำหนักจะถ่ายไปที่ล้อหลังมากขึ้น แอดได้ลองตัวที่ไม่ติดปี๊บ เวลาเข้าโค้งทำได้ดียิ่งเป็นทางตรงยาวๆ ยิ่งเพิ่มความเร็วได้ไม่ยาก
ช่วงล่างของ650 MT ค่อนข้างสมูทกว่าตัว 650NK อยู่พอสมควร ด้วยน้ำหนักรถที่มากขึ้นและองศาของการวางตำแหน่งแฮนด์ที่อยู่ตรงกลางตัวรถนั่นเอง ทางเรียบขี่ได้เยี่ยม ทางตรงยาวๆ ก็อัดความเร็วได้ หรือจะลองทางฝุ่นแอดว่ารถแนวนี้ทำได้อยู่แล้ว
โหมดการขับขี่มี 2 โหมด คือ (S)Sport ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้สนุกยิ่งขึ้น การตอบสนองของรถจะไวขึ้นไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่ง ทอร์ค เมื่อเรากระแทกคันเร่งแบบหนักๆจะเห็นได้อย่างชัดเจน
อีกหนึ่งโหมดคือ โหมด(E)หรือโหมดทัวร์ริ่ง ที่เน้นการทำงาน แบบสมูท ไหลลื่น แรงทอร์คไม่ได้จัดจ้านมากเท่าโหมด (S) การควบคุมรถทำได้ง่ายกว่า เป็นมิตรกับผู้ขับขี่ ไปจนถึงการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดขึ้น เหมาะกับการที่ต้องเดินทางไกลแต่ก็ยังได้ฟิลลิ่งในการขับขี่ที่สนุกอยู่
ตัวรถเองมีช่องเสียบสาย USB ผู้ขับขี่สามารถติดโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์นำทางได้ทำให้สะดวกมากขึ้น ระบบเบรค ABS ที่แถมมาให้ทำงานได้ดี การเชนเกียร์จากเกียร์สูงลงมาต่ำ เอนจิ้นเบรคอาจจะไม่มากเท่า 650 NK แต่ก็ยังพอมีให้รู้สึกอยู่บ้างในเกียร์สูง แต่ช่วงเกียร์2-3เอนจิ้นมีมากพอสมควร จังหวะการแซงในเกียร์สูงเมื่อเปิดคันเร่ง จะค่อยๆ ไต่ความเร็วขึ้น การระบายความร้อนของเครื่องยนต์ทำได้ดี เวลาวิ่งยาวๆแล้วจอดแทบไม่รู้สึกถึงความร้อนที่มาปะทะขาเลย
แผงหน้าจอแสดงผลจะแตกต่างจาก 650NK พอสมควร ด้วยขนาดจอที่ใหญ่ ทำให้มองเห็นได้ง่าย แผงหน้าปัดจะบอกสถานะโหมดการขับขี่ชัดเจน ไฟรอบคันแบบ LED โดดเด่นตรงดีไซด์ไฟหน้า ที่ดูล้ำสมัยมาพร้อมกับไฟ Day Time
บทสรุป
จากการที่ได้ลองขี่ทางไกลไม่ต่ำกว่า 150 กิโลเมตร ได้ลองใช้ย่านความเร็วที่ต่างกันทั้งทางตรง บนเขา และทางที่มีการจรจรติดขัด แอดว่าเป็นรถทัวริ่งที่น่าขี่มาก ด้วยความที่เป็นรถที่ขับง่าย เล่นโค้งได้สนุก ผ่อนคลายมากได้เสพวิวข้างทางอย่างเต็มที่ หรือหากต้องการเพิ่มความเร็วก็สามารถเปลี่ยนโหมดเพิ่มสมรรถนะได้ แทบไม่ต้องเค้นเลย การขับขี่ในเมืองก็ทำได้แต่อาจจะไม่ตอบโจทย์นักในเรื่องของการมุดแทรก เพราะตัวรถค่อนข้างกว้าง ฟังชั่นต่างๆปุ่มกดที่ให้มาก็ใช้ง่าย ยิ่งขี่เป็นขบวนไฟส่องสว่างมองเห็นชัดเจนได้ในระยะไกล ใครที่มองหารถที่เอาไว้ออกทริปกับเพื่อนๆในวันหยุดยาว หรือวิ่งข้ามจังหวัดก็เหมาะมาก แอดมินเองอยากจะบอกว่าเป็นรถที่คุ้มค่ากับราคา 188,000 บาทเอามากๆ ถ้าเทียบกับรถแนวเดียวกัน อย่าพึ่งเชื่อแอดหากยังไม่ได้ไปสัมผัสด้วยตัวคุณเอง
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง CFMoto ที่เอื้อเฟื้อรถสำหรับการทดสอบในครั้งนี้ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่นี่
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience