รีวิว GPX Razer 220 ทดสอบขับขี่จริง เจาะลึกทุกรายละเอียด
หลังจากการเปิดตัวที่สร้างปรากฏการณ์ให้วงการมอเตอร์ไซค์แบรนด์ไทยกันไปก่อนหน้านี้ กับ GPX Razer 220 รถสปอร์ตเนกเกตเครื่องยนต์หัวฉีด ดีไซน์ทันสมัย ก็ได้กลายเป็นที่สนอกสนใจของทั้งบรรดาสื่อมวลชนและเหล่าไบค์เกอร์กันโดยทันที ซึ่งรถรุ่นนี้ ก็ได้ทำการส่งมอบให้กับลูกค้าที่จองและวางจำหน่ายตามร้านตัวแทนจำหน่าย GPX เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และตอนนี้ทาง GreatBiker ก็ได้รับรถทดสอบมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เลยรีบคว้ามาทำรีวิวให้เพื่อนๆ ได้ทราบถึงฟีลลิ่งการขับขี่ของตัวรถ และความคุ้มค่าของมัน ว่าจะมีบทสรุปออกมาเป็นอย่างไร น่าใช้หรือไม่?
การออกแบบของ GPX Razer 220
สำหรับ GPX Razer 220 นั้นมาในรูปแบบของรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตเนกเกต แบบโมเดิร์นทันสมัย เน้นเส้นสายในการออกแบบที่มีความเฉียบคมเป็นหลัก โดยเฉพาะกับหน้ากากด้านหน้า ที่แบ่งดีไซน์ไฟออกเป็น 2 ดวง LED แยกซ้ายขวานั้น ให้อารมณ์ที่ดุดันเอามากๆ มิติตัวรถแม้ว่าจะมาในคลาส 220 แต่ก็มีความกระชับ ประกอบกับเบาะนั่งที่มีความสูง 800 มม. นั้นก็ถือว่าเหมาะสมกับสรีระมาตรฐานของคนไทย ตัวรถนั้นใช้เฟรมแบบ Diamond Frame ในขณะที่เบาะนั่งนั้นจะเป็นทรงสปอร์ตแบบ 2 ตอนยกระดับ ถังน้ำมันมีแฟริ่งที่เดินลวดลายกราฟฟิกครอบคลุมทั้งอัน อีกทั้งยังเสริมความบึกบึนด้วยอกไก่ครอบเครื่องยนต์ด้วย น้ำหนักตัวรถโดยรวมอยู่ที่ 150 กก.
สเปกเครื่องยนต์ของ GPX Razer 220
ตัวรถมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 223 ซีซี 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ แบบ SOHC อัตราส่วนกำลังอัด 9.0:1 ระบายความร้อนด้วยอากาศร่วมกับ Oil Cooled ควบคุมการจุดระเบิดด้วยระบบ ECU สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบมอเตอร์ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด EFI ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ระบบคลัทช์มือเป็นแบบเปียก สตาร์ทมือไฟฟ้า ส่งกำลังสุดท้ายด้วยระบบโซ่
ฟีเจอร์และรายละเอียดต่างๆ ของ GPX Razer 220
ตัวรถนั้นให้ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ Upside Down ที่สามารถซับแรงสะเทือนได้ดีกว่าแบบปกติ ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ Mono Spring ที่สามารถปรับความแข็งอ่อนได้ 3 ระดับ ไฟด้านหน้ารถเป็นแบบ Full LED พร้อมกับไฟส่องสว่างด้านข้างตัวบอดี้ซ้ายและขวา และไฟท้ายก็เป็นแบบ LED เช่นเดียวกัน ในส่วนของระบบเบรกนั้นจะเป็นดิสก์แบบเดี่ยวทั้งหน้าและหลัง ทำงานร่วมกับปั้มเบรกแบบ 2 ลูกสูบสำหรับเบรกหน้า และ 1 ลูกสูบสำหรับเบรกหลัง หน้าจอแสดงผลเป็นแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ สามารถเปลี่ยนสีได้ทั้งหมด 3 สีด้วยกัน มีช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเลคทรอนิค และฝาถังน้ำมันดีไซน์แบบสปอร์ตที่มีหูเกี่ยวฝามาให้ด้วย ความจุถังน้ำมันให้มาที่ 11.5 ลิตร ล้อขอบ 17 นิ้ว ยางหน้า 100 และ ด้านหลัง 130 ท่อเป็นแบบปลายสั้น
ทดสอบขับขี่ GPX Razer 220
ในการทดสอบขับขี่กันในเมืองนั้น ถือว่าตัวรถเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ทีเดียว เพราะถึงแม้จะมาในพิกัด 220cc แต่ก็ให้ความคล่องตัวในการขับขี่สูง การมุดการซอกแซกในการจราจรที่ติดขัด ก็สามารถทำความคุ้นเคยกับมิติของตัวรถและวงเลี้ยวได้ไม่ยาก คันเร่งค่อนข้างจะเชื่องมือควบคุมได้ง่าย จังหวะจะแซงแบบกระทันหันอัตราเร่งก็ถือว่าตอบสนองได้ดี ท่านั่งในการขับขี่มาในรูปแบบของรถแนวสปอร์ตเนกเกตแบบมาตรฐาน แฮนด์รถเป็นแบบแฮนด์บาร์ยกสูงขึ้นมาประมาณหนึ่ง ทำให้เราไม่ต้องก้มหรือเอื้อมไปข้างหน้ามากนัก
ต่อมาเราก็ได้นำเจ้า Razer 220 ไปทดสอบอัตราเร่งอย่างเต็มที่ในถนนที่โล่งๆ กันบ้าง การไต่ความเร็วของตัวรถนั้นทำได้ดีทีเดียวในย่านความเร็วต้นถึงกลาง รู้สึกได้ถึงพละกำลังที่เหลือๆ ในย่านนี้ แต่แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นรถแบบสูบเดียวนั้น การไต่ความเร็วปลายก็อาจจะไม่ได้ไหลลื่นมากนัก แต่อย่างหนึ่งที่ถือว่าทำได้ดีสำหรับรถแบบสูบเดียวคันนี้ ก็คือเมื่อเราทดสอบวิ่งแช่ในรอบความเร็วสูงๆ ยาวๆ ตัวรถก็ไม่มีอาการสะท้านของเครื่องยนต์มากวนใจแต่อย่างใด สำหรับตัวรถนั้นมีจุดศูนย์ถ่วงที่อยู่ในช่วงด้านหน้าและตรงกลางรถ ซึ่งทำให้เราสามารถบาลานซ์รถเพื่อเข้าโค้งได้ไม่ยากนัก รวมไปถึงการพลิกโค้งที่ทำได้ไว ยางเดิมๆ จาก IRC ที่ติดรถมานั้นถือว่าหนึบและเกาะถนนดี
ในส่วนของช่วงล่าง ปกติแล้วกับรถในราคาที่ไม่แรงมากแบบนี้ เราคงไม่ได้คาดหวังกับระบบโช้กอัพหน้าแบบหัวกลับเท่าไหร่นัก แต่กับ Razer 220 ถือว่าเป็นเคสที่ต่างออกไปเลยทีเดียว เพราะตัวโช้กหัวกลับสามารถสร้างความแตกต่างแบบรู้สึกได้ สามารถซับแรงสะเทือนได้ดี และเป็นการช่วยลดภาระของข้อมือเราด้วย สำหรับระบบช่วงล่างรวมๆ ที่ทางโรงงานเซ็ทมา ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้แข็งหรือว่านุ่มมากจนเกินไปนัก (ซึ่งเราก็ยังสามารถปรับระยะยุบตัวที่โช้กอัพด้านหลังได้ 3 ระดับด้วยกันตามความต้องการใช้งาน) ระบบเบรกค่อนข้างไวนิดนึง โดยเฉพาะเบรกหน้า ถ้าเผลอกดแบบแรงๆ อาจมีอาการจิกให้เห็น ตรงนี้อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกันสักหน่อย แต่ก็ถือว่ามีข้อดีตรงที่ทำให้ระยะเบรกนั้นค่อนข้างสั้น และทำให้สามารถกะระยะเบรกได้ง่าย
ทีนี้เราลองมาดูในข้อสังเกตต่างๆ ของตัวรถกันบ้างสักเล็กน้อย อย่างแรกเลยก็คือในเรื่องของการเข้าเกียร์ ที่อาจจะให้ความรู้สึกว่าค่อนข้างแข็งไปสักหน่อย และคลัชท์เดิมๆที่เซ็ทมาก็แข็งไปนิด โดยการขับขี่ในครั้งแรกๆ ต้องบอกว่าอาจจะหาเกียร์ว่างค่อนข้างยาก แต่เมื่อใช้เวลาทำความคุ้นเคยกันแล้วก็จะหาจังหวะได้ดีขึ้น ซึ่งในส่วนของเกียร์และคลัชท์ตรงนี้แนะนำว่า ให้ลองปรับขาเกียร์ ตัวหน้า และหลังให้ขนานกัน จากนั้นก็ปรับคลัชท์ให้พอดี หรือให้หล่อลื่นที่สายคลัชท์ ก็จะช่วยทำให้ได้ฟีลลิ้งในการขับขี่ที่นุ่มนวลมากขึ้นเลยทีเดียว สำหรับเรื่องของอะไหล่ ชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ ของตัวรถ เช่น เฟรม ตัวถัง หรือชิ้นส่วนที่เป็นส่วนประกอบหลักๆ ของตัวรถ ก็ถือว่าเลือกใช้วัสดุได้ดีตามมาตรฐานเลยทีเดียว
ภาพรวมของ GPX Razer 220
ถ้าหากต้องการจะหารถมอเตอร์ไซค์เนกเกตแบบหัวฉีดสักคัน ในราคาเอื้อมถึงได้ง่าย และสมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งานในเมือง ในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องแคล่ว มีอัตราเร่งที่บิดสนุกติดมือ และออกทริปในระยะทางกลางๆ ได้ดี GPX Razer 220 ถือเป็นคำตอบที่ลงตัวทีเดียว ด้วยดีไซน์ที่มีความทันสมัยในตัว ใช้งานได้อีกหลายปีแบบไม่ต้องกลัวเอาท์ ซึ่งถ้ามองแบบรวมๆ หากเราเทียบกับสิ่งที่จ่ายไปกับค่าตัวเพียง 72,500 บาทและสิ่งที่ได้รับจากตัวรถกลับมานั้น ก็ถือว่าคุ้มค่าตัวและไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง GPX และร้านตรีธวัฒน์ มอเตอร์ไบค์ จ.เชียงใหม่ ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบและอำนวยความสะดวก ให้กับทาง GreatBiker ด้วยครับ ในโอกาสต่อไปเรายังจะมีรถรุ่นอื่นๆ มาทดสอบให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันอีกอย่างแน่นอน อย่าลืมติดตามกันให้ดี
ชมคลิป VDO การรีวิว GPX Razer 220 ได้ที่นี่
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience