รีวิว New Honda CBR300R (First Ride)
พูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ทรงสปอร์ตนั้นถือว่าเป็นรถทรงยอดนิยมในบ้านเรากันมาช้านานแล้ว ไล่ไปตั้งแต่สมัย 2 จังหวะเมื่อก่อน และยุคหลังก็มีการพัฒนามาเป็นแบบ 4 จังหวะ พร้อมกับเครื่องยนต์แบบหัวฉีด ซึ่งแบรนด์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่สมัยก่อนก็คือแบรนด์ของค่ายปีกนกอย่าง Honda นั่นเอง ในวันนี้ทาง GreatBiker ได้มีโอกาสไปทดสอบเจ้ารถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคันล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปในบ้านเรา อย่างเจ้า New Honda CBR300R รถสปอร์ตขนาดกลาง ที่เชื่อว่าหลายๆ คนกำลังเล็งๆ มันอยู่ วันนี้ก็ขอหยิบเอาผลการทดสอบมาฝากกันแบบละเอียด เพื่อประกอบในการตัดสินใจกันอีกครั้ง
เกริ่นนำที่มาที่ไปของเจ้า New CBR300R กันสักเล็กน้อย แรกเริ่มเดิมทีในช่วงยุคหลังมานี้ ทางค่ายฮอนด้าเองนั้นได้เริ่มทำตลาดด้วยรถ CBR250R กันมาก่อน ซึ่งถือว่าสร้างความฮือฮาได้มากทีเดียว เพราะว่าเป็นรถทรงสปอร์ตที่มี CC ค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับรถตลาดของทางค่ายที่วางจำหน่ายกันในตอนนั้น และต่อมาเมื่อตัวโปรดักซ์ได้เดินทางมาถึงจุดที่ต้องปรับเปลี่ยน ทางค่ายฮอนด้าเองก็ทำการอัพ CC ให้มาอยู่ในคลาส 300 ในรหัสของ CBR300R พร้อมกันนั้นยังออกอีกหนึ่งโมเดลตามมาติดๆ ก็คือเจ้า CB300F โดยใช้พื้นฐานเครื่องยนต์และโครงสร้างแบบเดียวกัน แต่ว่าเป็นสไตล์รถเนกเกตนั่นเอง
และในช่วงปลายปี 2015 อย่างนี้ก็ถึงเวลาที่ทางค่ายฮอนด้าปล่อยเจ้า New CBR300R ออกมา โดยคราวนี้แม้ว่าเครื่องยนต์และรายละเอียดต่างๆ อาจจะไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก แต่ว่าสิ่งที่สะดุดตามากที่สุดก็คือในเรื่องของการดีไซน์ ที่ดูแล้วเฟี้ยวขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยทีเดียว ด้วยการใช้โทนสีดำตัดกับสีเหลืองมะนาว และมีเส้นสายในการออกแบบกราฟฟิกกันใหม่ เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะสะดุดตาเมื่อพบเห็นเป็นครั้งแรกเหมือนกัน
การออกแบบเจ้า New CBR300R
ย้อนกลับไปสมัย CBR250R นั้นที่มีการใช้ไฟหน้าแบบเดี่ยว (ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นพี่อย่าง VFR1200) แต่เมื่อมีการปรับมาเป็น New CBR300R ก็เปลี่ยนในจุดนี้ให้กลายมาเป็นไฟหน้าแบบคู่ ซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับตัวพันในตระกูลเดียวกันอย่าง CBR1000RR นั่นเอง เมื่อปรับมาแบบนี้แล้วก็ทำให้ลุคส์มันดูเป็นสปอร์ตมากขึ้นกว่าเดิมอีกเยอะ แต่ท่านั่งของ New CBR300R นั้นมีการปรับให้ตัวแฮนด์จับโช๊คนั้นไม่ก้มต่ำลงมากเกินไป แบบรถสปอร์ตเรพลิก้าที่ใช้ในสนามแข่ง หากว่ามันปรับให้มีความสูงของแฮนด์และองศาที่พอดีๆ กับการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการออกทริปด้วย และแน่นอนว่าเมื่อปรับตำแหน่งของแฮนด์ให้สะดวกแล้ว ตำแหน่งของพักเท้าเองก็มีการปรับให้รับกันเป็นอย่างดี หลายๆ คนที่อาจจะกังวลเกี่ยวกับท่านั่งในทรงสปอร์ตว่าจะเมื่อยแขนหากขี่นานๆ ก็คงจะคลายกังวลตรงนี้กันไปได้ (แม้ว่าแฮนด์มันจะไม่ได้สูงเท่าแนวเนกเกตก็ตาม)
ในส่วนของตัวรถนั้นจะมีมิติอยู่ที่ 2033 x 720 x 1119 mm ขนาดตรงนี้ถือว่าค่อนข้างจะกระชับ ไม่ใหญ่หรือยาวมากจนเกินไป แต่ตัวรถนั้นจะดูค่อนข้างบึกบึนแบบชัดเจนเมื่อเทียบกับแฝดคนละฝาอย่าง CB300F เพราะเจ้า 300R คันนี้มีแฟร์ริ่งในด้านหน้าที่เสริมให้ตัวรถดูหนาขึ้นมา ส่วนในเรื่องของแอร์โร่-ไดนามิกนั้นจะทำงานได้ดีขนาดไหน เราจะไปว่ากันต่อที่ในส่วนหัวข้อของการขับขี่จริงกันอีกที
ขุมกำลัง, อัตราเร่ง และ TOP SPEED
แน่นอนว่าในเมื่อเป็นรถแนวสปอร์ตแล้ว หัวข้อนี้น่าจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่หลายๆ คนอยากจะรู้ เครื่องยนต์ของเจ้า New CBR300R นั้นมีขนาดความจุอยู่ที่ 286cc จำนวน 1 สูบ DOHC 4 วาล์วต่อกระบอกสูบ 4 จังหวะ โดยมีขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักเท่ากับ 76mm x 63mm ส่วนกำลังอัดนั้นเท่ากับ 10.7:1 แรงม้า 30.4 @ 8500 รอบต่อนาที ทอร์ค 27 @ 7,250 รอบต่อนาที จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ
ครั้งแรกที่ได้ทำการทดสอบพบว่า เครื่องยนต์แบบ 1 สูบนั้นยังคงทำหน้าที่ในแบบฉบับของมันได้ดี คือการให้แรงบิดในช่วงต้นถึงกลางที่จัดมากๆ (เมื่อเทียบกับรถ 2 สูบใน cc เดียวกัน) ย่านความเร็ว 1 – 100 km/h นั้นถือว่าขึ้นไว ซึ่งเชื่อว่าคนที่ไม่เคยสัมผัสรถคลาสนี้มาก่อนจะค่อนข้างชอบ เพราะมันขี่ง่าย ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเลี้ยงรอบ แค่บิดมันก็พุ่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะกระชากมากจนเกินไป ยังอยู่ในระดับที่มือของเราคอนโทรลได้ แต่แน่นอนว่าจำนวน 1 สูบนั้นมันจะไปดรอปลงในช่วงความเร็วปลายในย่านความเร็วประมาณ 140 ขึ้นไปจะต้องเค้นกันให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ส่วน top speed ที่ทดสอบนั้นทำอยู่ได้ที่ประมาณ 168 km/h +- (โดยใช้รอบประมาณ 10,000 กว่ารอบนิดๆ) แต่ดูแล้วอาจจะไปได้มากกว่านี้อีกนิดหน่อย
สำหรับในส่วนของขุมกำลังนั้น เจ้า New CBR300R น่าจะเรียกให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าเป็นรถที่เร่งได้สนุก บิดติดมือในการใช้งานจริงๆ เพราะคงไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะวิ่งด้วยความเร็วสูงๆ เกิน 150 ขึ้นไปแบบแช่กันยาวๆ และอัตราเร่งของ CBR300R นั้นก็มากเพียงพอต่อการใช้งาน ในจังหวะแซงหรือจังหวะออกตัว ที่สำคัญจากการทดสอบตัวรถนั้นถือว่าทำแอร์โร่ว์-ไดนามิกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว จังหวะที่ต้องวิ่งแช่ด้วยความเร็วประมาณ 140 ยาวๆ ลมไม่ค่อยจะตีกับตัวเรามากเท่าไหร่ แต่ถ้ากะจะเอาเจ้า CBR300R ไปขี่แบบหวังให้ปลายไหลๆ แบบหนักๆ คงไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่นัก
การควบคุมรถ, การเข้าโค้ง
จากเรื่องของท่านั่งที่ได้เกริ่นในช่วงต้นกันไปแล้วนั้น ว่ามันปรับให้มีความสบายมากขึ้นกว่ารถที่ใช้แข่งกันจริงๆ ในสนาม ทำให้เวลาขี่ในเมืองที่เราจะต้องวิ่งๆ หยุดๆ กันในสภาพการจราจรที่ติดขัดนั้นไม่เมื่อยล้ามากเท่าไหร่ ตัวรถนั้นค่อนข้างจะมีน้ำหนักเบา (163 กก.) ทำให้เราสามารถขี่ซอกแซกได้ง่าย และมีความคล่องตัวสูง ตรงนี้ถือว่าฮอนด้าทำได้ดี กับการควบคุมรถทรงสปอร์ตที่ปกติแล้วจะค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ แต่เจ้า 300R นั้นกลับควบคุมได้ไม่ยากเลย แต่เวลากลับรถในลักษณะยูเทิร์นหรือต้องเลี้ยวแบบหักแฮนด์ให้สุด ควรระมัดระวังในเรื่องแฮนด์จะไปติดถังน้ำมันนิดนึง ตรงนี้ถ้าซ้อมบ่อยๆ ก็จะกะองศาของแฮนด์ได้ดีขึ้น อีกอย่างหนึ่งก็คือหน้าและแฮนด์รถนั้นค่อนข้างจะเบาและไว ข้อดีก็คือพลิ้วกันได้ง่าย ซอกแซกกันแบบไม่ต้องเกร็งข้อมือ แต่หากว่ายังไม่ชินอาจจะมีเหวอๆ บ้างในช่วงแรกๆ เพราะแค่ขยับข้อมือเบาๆ บางทีองศาของแฮนด์ก็เปลี่ยนแล้ว
มาว่ากันต่อถึงเรื่องของการเข้าโค้ง เจ้า CBR300R นั้นจากท่านั่งในแนวสปอร์ต ถือว่าเป็นทรงที่เข้าโค้งได้ง่ายและท่าทางของผู้ขับขี่จะเป็นธรรมชาติมากที่สุด เมื่อเทียบกับรถในแนวอื่นๆ ดังนั้นก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ ที่การเล่นโค้ง พลิกโค้งของเจ้า 300R นั้นจะทำออกมาได้ดีมาก บางครั้งแค่เรามองไปที่ปลายโค้ง ตัวรถมันก็แบนไปตามทิศทางนั้นแล้ว ประกอบกับน้ำหนักของรถค่อนข้างเบา เลยทำให้จังหวะพลิกโค้งทำได้ทันใจทีเดียว ยามที่เจอกับโค้งแคบๆ แบบติดๆ กัน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องของยางที่ติดรถมานั้น ยังไม่เหมาะที่จะเอาไปเล่นโค้งหนักๆ ในเวลาที่ถนนเปียกหรืออาจจะมีพวกทรายอยู่บนพื้น เพราะวันที่เราทำการทดสอบกันฝนตกหนักมาก ในบางจังหวะมีอาการสะบัดให้เห็นกันอยู่ แต่ถ้ากับทางแห้งก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ถ้าอยากให้สมบูรณ์แบบอาจจะต้องหายางเกรดดีกว่านี้มาเปลี่ยนกันทีหลัง
ช่วงล่างและระบบความปลอดภัย
สำหรับ New CBR300R นั้นจะมีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิก 37 mm ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบโช๊คเดี่ยว Pro-link ที่สามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ ตรงนี้การเซ็ทช่วงล่างถือว่าจะค่อนข้างหนักไปทางแข็งๆ นิดนึง ไม่ย้วย ซึ่งก็เหมาะกับรถในแนวนี้ทีเดียว และแม้ว่าจะเซ็ทมาค่อนข้างแข็ง แต่ก็ยังซับแรงสะเทือนได้ดีในจังหวะยุบตัวและคืนตัวของโช๊คอัพ ในขณะที่ความกว้างของล้อหน้านั้นเท่ากับ 110/70 – 17 ส่วนล้อหลัง 140/70 – 17 ด้วยหน้ายางในเสปคนี้ก็เล่นโค้งกันได้สบายๆ
มาต่อกันที่ระบบเบรกเลย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ในสมัยนี้ เบรกหน้าของ New CBR300R จะเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 296-mm แบบ 2 piston caliper ส่วนเบรกหลังเป็นแบบ ดิสก์เดี่ยวขนาด 220-mm ทำงานร่วมกับระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรกฉุกเฉิน หรือ ABS ตรงนี้จากการทดสอบในการใช้งานจริงถือว่า ABS นั้นตอบสนองได้ดีทีเดียว ในจังหวะที่ควรจะทำงานมันก็มาทันที เอาอยู่ แต่ก็ไม่ได้เซนซิทีฟเกินไป จนทำให้ความสนุกในการขี่ลดลง
ภาพรวมของ CBR300R
ถือว่าเป็นรถแนวสปอร์ตที่เป็นมิตรกับผู้ขี่มากๆ ทั้งเรื่องของการเซ็ทท่านั่งในการขี่, การควบคุมที่ทำได้ง่าย, เข้าโค้งได้ง่าย และอัตราเร่งในแบบฉบับของรถสูบเดียวที่บิดสนุกมือ ไม่ต้องซับซ้อนกับการเล่นรอบ และมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดดีทีเดียว ตัวรถนั้นสามารถใช้งานได้ทั้งในเมือง หรือแม้แต่ออกทริปก็ยังได้ เพราะมันมีความเป็นสปอร์ต-ทัวร์ริ่งอยู่ในตัวอยู่แล้ว ทั้งหมดทั้งมวลนี้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์จากทางค่ายฮอนด้า ที่ต้องการออกแบบรถแนว Entry Class อย่าง New CBR300R ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย มันเหมาะกับเป็นรถคันแรกของผู้ที่เริ่มๆ จะหันมาเล่นรถบิ๊กไบค์เอามากๆ อันนี้ทางเราขอแนะนำเลย หรือแม้แต่มือเก๋าแต่อยากจะลองหาอะไรที่มันขี่ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่สนุกมาใช้กันก็ถือว่าเจ้า New Honda CBR300R เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว และที่สำคัญ ราคายังคงจับต้องกันได้ง่ายเหมือนเดิม
ค่าย | Honda |
ปี | 2015 |
รุ่น | CBR300R |
ชนิด | Sport |
ราคาแนะนำ | 133,000 บาท |
การรับประกัน | 1 ปี |
ชนิดเครื่องยนต์ | 4 จังหวะ |
จำนวนสูบ | 1 |
ระบวาล์ว | DOHC, 4 วาล์ว ต่อ 1 สูบ |
ระบายความร้อนด้วย | น้ำ |
ขนาดเครื่องยนต์ (cc) | 286.0 |
ขนาดกระบอกสูบ (mm) | 76.0 |
ช่วงชัก (mm) | 63.0 |
แรงอัด | 10.7:1 |
แรงม้า | 30.4 @ 8500 |
ทอร์ค | 27 @ 7,250 |
ระบบจ่ายน้ำมัน | หัวฉีดแบบ PGM-FI |
การจุดระเบิด | Digital Transistorized |
ระบบสตาร์ท | Electric |
จำนวนเกียร์ | 6 |
ประเภทเกียร์ | Manual |
ระบบขับเคลื่อน | โซ่ O-ring |
โช้คหน้า | 37 mm telescopic fork |
โช้คหลัง | โช้คเดี่ยวแบบ Pro-Link ปรับได้ 5 ระดับ |
เบรกหน้า | ดิสก์เดี่ยว 296-mm 2 piston caliper, ABS |
เบรกหลัง | ดิสก์เดี่ยว 220-mm ABS |
ความกว้างล้อหน้า | 110/70 – 17 |
ความกว้างล้อหลัง | 140/70 – 17 |
ความยาว (mm) | 2,033 |
ความกว้าง (mm) | 720 |
ความสูง (mm) | 1,119 |
ระยะฐานล้อ (mm) | 1380 |
ความสูงเบาะ (mm) | 781 |
ระยะห่างจากพื้น (mm) | 145 |
น้ำหนัก (kg) | 163 |
ความจุถังน้ำมัน (L) | 13.0 |
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience