Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

รีวิวการขับขี่จริง New Yamaha AEROX 155 (by GreatBiker)

c

จะต้องบอกว่าตอนนี้หนึ่งในรถที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในบ้านเรานั่นก็คือ New Yamaha AEROX 155 ที่ทาง Thai Yamaha Motor เปิดตัวกันไปแล้ว โดยคอนเซ็ปท์หลักของเจ้า AEROX 155 ก็คือรถออโตเมติกสายพันธุ์สปอร์ต ระดับพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายตัวเลยทีเดียว เราจะพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกในแต่ละจุด ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

รีวิวการขับขี่จริงของ New Yamaha AEROX 155 by GreatBiker ในรูปแบบของ VDO

มารู้จักกับ Yamaha AEROX 155 กันก่อน

Yamaha AEROX 155 นั้นเป็นรถที่เน้นการออกแบบให้มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวเน้นการทำ Aero Dynamic  มากเป็นพิเศษ  แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ในสไตล์สปอร์ตเอาไว้ด้วย โดยเครื่องยนต์พื้นฐานนั้นใช้เครื่องยนต์ขนาด 155cc แบบ SOHC 4 จังหวะ 4 วาล์ว VVA ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด ให้แรงม้ามาอยู่สูงสุดที่ 15 ตัว   ที่ 8,000 รอบต่อนาที ความกว้างของกระบอกสูบและช่วงชักจะอยู่ที่ 58 x 58.7 mm และอัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 10.5:1 ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ระบบเกียร์นั้นเป็นเกียร์ออโตเมติกแบบ CVT

ในขณะที่ช่วงล่างนั้นเป็นโช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิด และโช้คอัพหลังเป็นแบบยูนิตสวิง และระบบไฟหน้านั้นเป็น LED แบบ 4 โคม และท้ายแบบ FULL LED ทั้งไฟเบรกและไฟหรี่

หน้าจอแสดงผลเป็นดิจิตอลเต็มรูปแบบ และที่น่าสนใจเป็นพิเศษก็คือหน้าจอของเจ้า  AEROX 155 นั้นมีแสดงการวัดรอบด้วย ซึ่งปกติแล้วรถออโตเมติกจะไม่ค่อยมีกัน

ในจุดนี้อยากจะพาเพื่อนๆ ไปเจาะลึกกับระบบเครื่องยนต์ให้มากขึ้น เพราะทาง Yamaha เองยังคงเลือกใช้เครื่องยนต์แบบ BLUE CORE ที่เป็นจุดแข็งของทาง Yamaha สำหรับรถออโตเมติกมาตลอดในช่วงหลังนี้ ที่โดดเด่นในเรื่องของการเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอย่างไม่จำเป็นให้มากที่สุด, ระบายความร้อนได้ดี ส่งผลให้เครื่องยนต์แบบ BLUE CORE นั้นประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

และตัวเครื่องยนต์ BLUE CORE นั้นยังมาพร้อมกับระบบวาล์วแปรผัน หรือที่เรียกกันว่า VVA ที่ช่วยในการแปรผันการเปิดวาล์วให้เหมาะสมที่สุดกับความเร็วของรอบในแต่ละช่วงการทำงาน ทำให้รถนั้นมีอัตราเร่งที่ดีในทุกย่านความเร็ว ซึ่ง VVA ของ Yamaha AEROX 155 นั้นจะเริ่มทำงานตั้งแต่ 6,000 รอบขึ้นไป โดยจะมีโลโก้ VVA แสดงขึ้นเมื่อระบบวาล์วแปรผันทำงาน

ส่วนถังน้ำมันของตัวรถมีความจุอยู่ที่ 4.6 l เบาะรถของรถรุ่นนี้นั้นมี การดีไซน์ที่แยกออกเป็น  2  สเต็ป ตามแบบฉบับของรถสปอร์ต ทำให้ท่านั่งในการขับขี่มีความกระชับมากยิ่งขึ้น

ที่ช่องใส่ของด้านซ้ายมือหน้ามีช่องชาร์จไฟที่สามารถเสียบต่อชาร์จแบตเตอรี่มือถือและอุปกรณ์เทคนิคต่างๆ ได้

ใต้เบาะนั้นเป็น Mega Box ขนาดใหญ่มากถึง 25  ลิตร สามารถใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้ในลักษณะหงายหมวกกันน็อคขึ้น รวมถึงใส่สัมภาระอื่นๆ ได้

ทั้งหมดที่เกริ่นมานั้นเป็นสเปคพื้นฐานที่ใช้ร่วมกันกับ Yamaha  AEROX 155 ทั้งสามรุ่น ซึ่งจะประกอบไปด้วย

Standard version ซึ่งเป็นตัวมาตรฐาน


 

R version ที่เน้นความเป็นสปอรต โดยจุดที่เพิ่มเติมมาจากรุ่น Standard ก็คือดิสก์เบรกหน้าแบบคลื่นและตัวซับแทงค์ที่โช้คอัพหลัง ซึ่งจะช่วยให้ซับแรงกระเทือนขณะเข้าโค้งหนักๆ ได้ดียิ่งขึ้น


 

และ ABS version ที่เป็นตัวท็อป นอกจากจะมีระบบ abs แล้ว เน้นฟีเจอร์ระดับพรีเมี่ยมครบครัน มาพร้อมกับระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart key ที่เป็นกุญแจแบบรีโมท ซึ่งเราเองไม่ต้องนำกุญแจไปเสียบเข้ากับเบ้าเพื่อสตาร์ทอีกต่อไป แค่มีกุญแจอยู่ติดกับตัวในรัศมีที่ถูกกำหนดมา ก็สามารถบิดสวิทส์ตรงแผงคอเพื่อสตาร์ทเครื่องกันได้เลย รวมไปถึงฟังก์ชั่นในการค้นหารถ ฯลฯ ด้วย ที่เน้นความสัดวกสบายและความปลอดภัยแบบสูงสุด และระบบประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงอย่าง Stop and Start System ที่เวลาเราจอดรถแล้วเครื่องยนต์จะดับเองหลังจากบิดคันเร่งออกตัวเครื่องยนต์ก็จะติดเองอีกครั้งหนึ่งโดยอัตโนมัติ

image003


 

การทดสอบขับขี่ Yamaha AEROX 155

สำหรับรุ่นที่เราได้นำไปวิ่งทดสอบกันนั้นคือ Standard Version และ R Version โดยรวมแล้วคาแรกเตอร์ของ AEROX 155 นั้นเป็นรถที่ออกตัวได้แรงดีมากๆ บิดติดมือ อัตราเร่งในย่านความเร็วต้นถึงกลางถือว่าหายห่วง ดังนั้นแล้วจังหวะในการจะทำความเร็วหรือเร่งแซงในการขับขี่ของความเร็วในย่านนี้ถือว่าทำได้สบายๆ และอย่างที่เกริ่นกันไปแล้วว่าเครื่องยนต์ของ AEROX 155 นั้นมีระบบวาล์วแปรผันหรือว่า VVA มาช่วย ก็ทำให้การส่งกำลังนั้นต่อเนื่องไปได้ดีจนถึงความเร็วปลายที่อยู่ราวๆ 116 กม. / ชม. จากที่เราทดสอบกัน

ตัวรถ AEROX 155 เองนั้นมีจุดเด่นอีกหนึ่งอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือขนาดหน้ายาง ซึ่งจะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่กว่ารถคลาสเดียวกันในท้องตลาด โดยยางหน้าจะมีขนาดอยู่ที่ 110/80 และยางหลัง 140/70 ซึ่งเป็นยางแบบทูปเลส หรือที่เรียกกันว่าไม่มียางใน ทั้งสองล้อ ตรงนี้เองนอกจากจะดูสวยงามบึกบึนแล้ว ยังทำให้การเข้าโค้ง, แบนโค้งนั้น ทำองศาได้มากขึ้นกว่าปกติ ขาสปอร์ตที่ชอบเล่นโค้งเป็นชีวิตจิตใจน่าจะชื่นชอบกัน และสำหรับ R Version ที่ติดซับแทงค์มาให้ ซึ่งจะช่วยในเรื่องบอดี้บาลานซ์ของตัวรถ ทำให้เราสามารถเข้าโค้งหนักๆ ได้มั่นใจและแม่นยำมากยิ่งขึ้น แต่จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถนั้นค่อนข้างกระจายไปรอบๆ คัน ดังนั้นท่านั่งในโค้งยาวๆ จะต้องทิ้งน้ำหนักตัวช่วย  จึงจะกดรถให้องศาเอียงต่ำลงได้ ต้องใช้เวลาขี่ไปสักพักเพื่อปรับตัวให้ชินกัน แฟร์ริ่งที่ถูกออกแบบมาทำ Aero Dynamic ได้ดี ไม่ต้านลมแต่อย่างใด

การใช้งานโดยทั่วไปในเมืองนั้น ตัวรถนั้นมีความคล่องตัวที่สูงทีเดียว แม้ว่าหน้ายางจะใหญ่ แต่การใช้งานในเมือง  การซอกแซกยามจราจรติดขัดก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะน้ำหนักตัวรถถือว่าพอดีๆ

บทสรุปของ Yamaha AEROX 155

ภาพรวมแล้ว AEROX 155 นั้นเป็นรถออโตเมติกที่มีฟิลลิ่งความเป็นสปอร์ตแบบเต็มตัว ขี่สนุก บิดมันกว่ารถเอนทรี่คลาสในท้องตลาดทั่วไปอย่างแน่นอน อีกทั้งยังเสริมมาด้วยความพรีเมี่ยมอย่างพวกฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีติดรถมาให้ ให้เราเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของเรา ถ้ารักที่จะนำไปตกแต่งต่อ หรือใช้งานแบบทั่วๆไป Standard version ก็คือว่าตอบโจทย์ได้ดี แต่ถ้าต้องการเติมเต็มความเป็นสปอร์ตเข้าไปอีกขั้น แบบไม่อยากแต่งอะไรเพิ่มให้มากมายแล้วก็ไปที่ R version ได้ แต่ถ้าเน้นการใช้งานที่สะดวกสบาย ประหยัดน้ำมัน และเน้นในเรื่องฟีเจอร์ของระบบเบรกมากเป็นพิเศษก็จบที่ ABS version ได้ ทั้งหมดทุกรุ่นที่ว่ามานี้ยังมีของแต่งต่างๆ ที่ตรงรุ่นออกมาให้เลือกอย่างมากมายด้วย ไล่ตั้งแต่สติ๊กเกอร์ ชุดสี ไปจนถึงระบบช่วงล่าง และท่อไอเสียที่ทำให้ตัวรถสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ตรงนี้ชัดเจนว่า AEROX 155 นั้นเน้นการจัดกลุ่มเป้าหมายที่ค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ผู้ใช้งานแบบทั่วๆไป, ขาซิ่ง และวัยทำงานที่เน้นภาพลักษณ์ของตัวรถในการเข้าสังคม ตามรุ่นย่อยที่ถูกแบ่งออกมาอย่างลงตัว

โดยราคาแนะนำของ Standard Version จะอยู่ที่ 63,900 บาท ส่วนใน R Version จะอยู่ที่ 66,900 บาท และใน ABS Version จะราคา 73,900 บาท หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูตัวจริงได้ที่ตัวแทนจำหน่ายยามาฮ่าทั่วประเทศได้เลยครับ

แน่นอนว่าต้องขอขอบคุณ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ สำหรับการเอื้อเฟื้อรถในการรีวิวในครั้งนี้ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าอีกอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นรุ่นไหนยังไงนั้น ต้องติดตามกันครับ

ชมรายละเอียดเพิ่มเติมของ New Yamaha AEROX 155 ได้ที่นี่