เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 2019 Suzuki Katana Black
Suzuki ค่ายรถมอเตอร์ไซค์จากประเทศญี่ปุ่นได้ทำการเปิดตัวเจ้า 2019 Suzuki GSX-S1000 Katana Black ต่อเนื่องจากงาน Intermot ประเทศเยอรมัน เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่งาน Eicma Show 2018 ที่ประเทศอิตาลี
2019 Suzuki Katana Black นั้นใช้พื้นฐานเดียวกับ Suzuki Katana 1000 ที่เปิดตัวไปในงาน Intermot ที่ผ่านมา โดยเป็นการนำเอาพื้นฐานของรถเนกเกตสปอร์ตอย่าง Suzuki GSX-S1000 มาทำการปรับโฉมใหม่ ใส่สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Katana ที่เคยโด่งดังในช่วงยุค 80
โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ได้ Kevin Schwantz แชมป์โลก WGP ปี 1993 กับทีม Lucky Strike Suzuki มาเป็นตัวแทนคนแรกที่ได้คร่อมเจ้า Katana Black เป็นครั้งแรกอีกด้วย
สำหรับการเปิดตัวในประเทศไทยนั้น อาจจะต้องกันสักหน่อย โดยมีความเป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็นมันตัวเป็นๆครั้งแรกในงาน Motor Show 2019 ปลายเดือนมีนาคมในปีหน้า
ขอขอบคุณ ITA (ITALIAN TRADE AGENCY) สำหรับการเชิญทาง GreatBiker มาร่วมงานนี้
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 2019 Aprilia RSV4 Factory
คึกคักแน่นอนในงาน EICMA Show 2018 ที่กำลังจะเริ่มต้นรอบสื่อในวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งหลายๆค่ายผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ก็ขนเอารถที่จะวางจำหน่ายในปีหน้ารวมไปถึงรถต้นแบบ รถคอนเซ็ปต์มาอวดโฉมกันอย่างมากมาย ไม่เว้น Aprilia ผู้ผลิตจากประเทศอิตาเลี่ยนที่ผูกผันกับวงการมอเตอร์ไซค์และการแข่งขันมาโดยตลอดก็มีการนำเสนอโมเดลใหม่ของ RSV4 Factory ที่จะวางจำหน่ายในปี 2019 ที่จะถึงนี้
สำหรับ 2019 Aprilia RSV4 Factory นั้นถือว่าเป็นตัวท๊อปที่สุดของตระกูล RSV4 ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1,078 ซีซี 4 ลูกสูบ 65 องศา V4 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงม้าสูงสุดที่ 214 Hp และแรงบิดสูงสุดที่ 122 นิวตันเมตร โดยมีน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 199 กิโลกรัม เบากว่า RSV4 RF เครื่อง 998 ซีซี ถึง 5 กิโลกรัม ด้วยการเลือกใช้งานชิ้นส่วนที่ผลิตมาจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งทำให้น้ำหนักตัวของ RSV4 Factory เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังพร้อมกับของเหลวแล้ว เบาลงกว่าโมเดลของปี 2018 ถึง 4.9 กิโลกรัม โดยจะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยความยาวของฐานล้อนั้นจะสั้นลงกว่าเดิม 4 มิลลิเมตร ทำให้การควบคุมรถเวลาอยู่ในโค้งสามารถทำได้ง่ายมากขึ้น สามารถสลับซ้ายขวาได้อย่างอิสระและรวดเร็วมากขึ้น
ระบบกันสะเทือนของ 2019 Aprilia RSV4 Factory ยังคงเลือกใช้งานโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 มิลลิเมตรจากแบรนด์ Ohlins รุ่น NIX ที่มีระยะยุบตัวมากกว่าโมเดลเดิม 5 มิลเมตร รวมระยะยุบตัวคืนตัว 125 มิลลิเมตร) และระบบกันสะเทือนหลังยอดนิยม Ohlins TTX ที่นิยมใช้ในรถมอเตอร์ไซค์ระดับ Superbike ตัวท๊อปๆ ทั้งหลาย อีกทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเจ้า RSV4 Factory นั้นยังถูกพัฒนาให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยยังคงมีระบบ APRC ที่เป็นแพ๊กเกจในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่เป็นระบบชูโรงเหมือนเช่นโมเดลเดิม
สำหรับการเปิดราคาอย่างเป็นทางการของ 2019 Aprilia RSV4 Factory คาดว่าจะเปิดราคากันในงาน EICMA Show 2018 นี้และพร้อมเปิดให้จองกันในช่วงเดือนธันวาคมและพร้อมส่งมอบรถกันในช่วงเดือนมีนาคมปี 2019 หากมีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม GreatBiker จะนำมารายงานให้เพื่อนๆได้ทราบในโอกาสต่อไปครับ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.asphaltandrubber.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 2018 Yamaha Star Venture
รถมอเตอร์ไซค์ในแนว Touring ในตลาดขนาดนี้มีทางเลือกอยู่หลากหลายรุ่น หลายแบรนด์ ซึ่งทาง Derek Brooks ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Yamaha ได้ให้นิยามของเจ้า Venture คันนี้ไว้ว่า หรูหราและทันสมัย
“โดยตามท้องตลาดแล้วความหรูหราของรถในแนวนี้นั้นใครๆ ก็จะนึกถึง Harley-Davidson และความทันสมัยจะต้องยกให้กับ Gold Wing ของค่ายปีกนก Honda หรือ BMW ซึ่งมันไม่ควรจะต้องให้เราเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำไมเราถึงไม่เอาข้อดีทั้งสองอย่างนี้มารวมกันล่ะ” Derek Brooks ได้กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติ
โดยการเปิดตัวนี้จะเริ่มต้นทีตลาดของอเมริกาเหนือเป็นที่แรก ซึ่งที่นั้นรถในสไตล์นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยเจ้า Star Venture คันนี้นั้นมีการออกแบบที่ล้ำสมัย พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครั้นไม่ว่าจะเป็น หน้าขอแสดงผลแบบสัมผัส Infotainment cluster คันเร่งไฟฟ้า ระบบ cruise and traction controls ที่นั่งและแฮนด์แบบปรับความอุ่นได้ ซิลด์หน้าที่เป็นกระจกนิรภัย กล่องเก็บสัมภาระด้านหลังและด้านข้าง และมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับการเลื่อนรถเข้าที่จอดที่ได้ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง
เจ้า Star Venture นั้นเลือกใช้เครื่องยนต์ขนาด 1854 ซีซี V-twin 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ ขนาดกระบอกสูบ X ช่วงชักอยู่ที่ 100.0 X 118.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัก 9.5:1 จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ YCC-T โช้คอัพหน้าขนาด 46 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนหลังแบบเดี่ยวที่ปรับสปริงพรีโหลดได้ ระบบเบรกหน้า Dual Hydraulic ขนาด 298 มิลลิเมตร พร้อมระบบเบรก UBS และ ABS ระบบเบรกหลัง Hydraulic Disc เดี่ยวขนาด 320 มิลลิเมตร และแน่นอนมีระบบ UBS และ ABS ติดตั้งมาด้วย ตัวรถส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ระบบคลัทช์แบบเปียกซ้อนกันหลายชั้นพร้อมระบบ Assist and Slipper Clutch ส่งกำลังสุดท้ายด้วยสายพาน
ตัวรถมีความยาว 106.3 นิ้ว ความกว้าง 39.9 นิ้ว ความสูง 55.5 – 59.1 นิ้ว ความสูงเบาะนั่งเพียง 27.4 นิ้ว ความกว้างฐานล้อ 67.6 นิ้ว ความจุถังน้ำมัน 25 ลิตร น้ำหนักรถพร้อมน้ำมันเต็มถังและของในกล่องสัมภาระเต็มจะอยู่ที่ 434 กิโลกรัม มีช่อง USB Port 2 ช่องมาตรฐานจ่ายกำลังไฟ 12 V หน้าจอแสดงผลทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว มีระบบเครื่องเสียงที่สามารถรับสัญาณวิทยุได้ทั้งภาค Am/Fm และสามารถเชื่อต่อกับสมาร์ทโฟนได้ด้วยระบบ Bluetooth และทางช่อง USB
2018 Yamaha Star Venture มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่นโดยรุ่น Standard ราคาจะอยู่ที่ $24,999 หรือ 849,000 บาท และในรุ่น Transcontinental ที่วางราคาไว้ที่ $26,999 หรือประมาณ 917,000 บาท โดยทางทีมงาน GreatBiker ได้ลงความเห็นไว้ว่าเจ้า Yamaha Star Venture คันนี้จะเป็นคู่แข่งสำคัญที่จะมาแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทัวร์ริ่งในตลาดอเมริกาได้อย่างแน่นอนด้วยรูปแบบและอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้ในระบบพื้นฐานและเมื่อเทียบกับราคาแล้วดูจะคุ้มค่ามากๆ เลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motorcycle.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 2017 Harley-Davidson Street Rod
หากดูจากชื่อโมเดลแล้วเพื่อนๆหลายคนอาจจะเกิดความเข้าใจผิดว่า 2017 Harley-Davidson Street Rod จะใช้เครื่องยนต์ V-Rod เหมือนชื่อโมเดลหรือไม่ ก่อนที่เพื่อนๆจะสับสนขออธิบายก่อนสักนิด นับย้อนหลังไปเมื่อเกือบๆ 20 ปีที่แล้ว หลังจากที่ Porsche และ Harley-Davisson ได้ร่วมมือกันพัฒนาเครื่องยนต์ V-Rod ที่มีพละกำลัง 1247 cc ซึ่งเจ้า Harley-Davidson Street Rod รถมอเตอร์ไซค์แนว Street ที่ได้ใช้เครื่องยนต์รหัส Harley’s Revolution X engine ที่เคยใช้กับรุ่น Street 500 และ Street 750
โดยเจ้าเครื่องยนต์ Harley’s Revolution X engine มีขนาดความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 749 cc 2 สูบแบบ V-twin SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงบิดที่รวดเร็วโดยสามารถวัดแรงบิดสูงสุดขณะที่รอบของเครื่องยนต์อยู่ที่ 4000 รอบต่อนาทีเท่านั้น ให้แรงม้าสูงสุดที่ 53 BHP และมีอัตราส่วนกำลังอัดที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าจาก 11.0:1 เป็น 12.0:1 และมี REDLINE ที่สูงขึ้นจาก 8000 เป็น 9000 รอบต่อนาที
โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาด 43 mm ที่ออกแบบแล้วมีความเข้ากันได้ดีกับโช้คหลังแบบคู่ ระบบเบรกหน้าดิสก์คู่ขนาด 300 mm พร้อมระบบ ABS ที่เป็นระบบพื้นฐาน มีวงล้อขนาด 17 นิ้วอลูมิเนียมสีดำทั้งหน้าและหลัง เบาะนั่งตอนเดียวยกระดับที่มีความกว้างนั่งสบาย
โดยเจ้า 2017 Harley-Davidson Street Rod จะเริ่มวางขายในประเทศ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในช่วงเดือนเมษายน 2017โดยมีให้เลิกกันถึง 3 สี : Vivid Black Charcoal Denim และ Olive Gold ซึ่งได้วางราคาเริ่มต้นไว้ที่ $12,995 หรือราวๆ 460,000 บาท แฟนๆ H-D ในเมืองไทยต้องลุ้นกันต่อไปครับในเรื่องของทางค่ายจะนำเข้าเจ้า 2017 Harley-Davidson Street Rod เจ้ามาทำตลาดในเมืองไทยหรือไม่อย่างไร
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.mcnews.com.au
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.