10 อันดับรถมอเตอร์ไซค์เนกเกตที่ควรค่าต่อการซื้อมากที่สุดแห่งปี 2020
จากบทความก่อนหน้านี้ “Top 10 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตไบค์แห่งปี 2019” ได้เผยแพร่ออกไปก็มีเพื่อนๆหลายคนสอบถามหลังไมค์เข้ามาถึงการจัดอันดับรถมอเตอร์ไซค์ในแนว Naked กันอย่างมากมาย โดยในบทความนี้จะขอบิดประเด็นจากบทความก่อนหน้านี้เล็กน้อย ด้วยเหตุที่มันได้ผ่านเวลาบทสรุปแห่งปี 2019 มาแล้วระยะหนึ่ง ทำให้เราได้บทความนี้ที่จะเป็นตัวช่วยให้เพื่อนสามารถตัดสินใจในการซื้อรถคันใหม่ในแนวทางของ Naked ที่วางจำหน่ายในตลาดปัจจุบันได้ จะมีคันไหนไปติดตามกันได้เลยครับ
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าบทความนี้เป็นการอ้างอิงข้อมูลมาจากเว็บไซต์ Visordown.com ที่เราได้ยกบทความมาก่อนหน้านี้ โดยมีการใส่ข้อมูลเพิ่มเติมจากความเห็นของพวกเราที่ได้ลองขับขี่ในบางรุ่นมาแล้ว และเป็นการปรับบริบทให้เข้ากับผู้บริโภคชาวไทยให้มากขึ้น ไปติดตามกันได้เลยครับ
Triumph Street Triple RS
เปิดตัวในประเทศไทยไปเป็นเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Triumph Street Triple RS รุ่นใหม่ของปี 2020 โดยใช้งาน Motor Expo 2019 ปลายปีที่ผ่านมา โดยความใหม่ของโมเดลนี้จะเป็นการส่งตรงเครื่องยนต์การแข่งขันระดับ Moto2 ขนาด 765 ซีซี 3 ลูกสูบเรียง DOHC 12 วาล์ว ที่มีการปรับเปลี่ยนระบบวนเวียนของไอดีและไอเสียใหม่ ทำให้ได้แรงบิดที่เพิ่มขึ้นจาก 77 นิวตันเมตรที่ 10,800 รอบต่อนาที กลายเป็น 79 นิวตันเมตรที่ 9,350 รอบต่อนาที โดยที่พละกำลังสูงสุดยังคงเท่าเดิมที่ 123 แรงม้า (PS) แต่ด้วยแรงบิดที่มากขึ้นกับรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำลงนั้น ทำให้การส่งกำลังของ Street Triple RS คันใหม่นี้รวดเร็วและมีพละกำลังที่เหนือกว่ารุ่นเดิม นอกจากนี้ยังมีการปรับในเรื่องของความยาวฐานล้อที่สั้นลงกว่าเดิม 5 มิลลิเมตร และแฮนด์บาร์ใหม่ที่กว้างขึ้นกว่าเดิม 40 มิลลิเมตร โดยที่ราคาจำหน่ายในประเทศไทยจะอยู่ที่ 537,000 บาท
Honda CBR650R
ยังคงเป็นรถมอเตร์ไซค์เนกเกตคลาสกลางที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2018 สำหรับ Honda CBR650R ซึ่งนับว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์หนึ่งเดียวในคลาส 650 ซีซี ที่ใช้งานเครื่องยนต์แบบ 4 ลูกสูบเรียง โดยที่เพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันนั้นจะนิยมใช้เครื่องยนต์แบบสองลูกสูบ ทำให้ CBR650R นั้นมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างออกไปใน Segment เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการออกแบบที่ทางค่ายปีกนกได้หยิบยกเอา Neo Sport Cafe ที่เคยโด่งดังใน CB150R และ CB1000R มาปรับใหม่ในโมเดลพี่ชายคนiv’ในตระกูล CB และคงไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความถึงความยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบเรียง ที่มีลูกเล่นใหม่อย่าง Honda Torque Control หรือที่เราคุ้นเคยในชื่อของระบบ Traction Control ที่ถูกหยิบมาใส่ในโมเดลตระกูลนี้เป็นครั้งแรก ผนวกกับระบบ Assist Clutch ที่ช่วยทำให้การกำคลัทซ์ในการเปลี่ยนเกียร์นั้นง่ายดายมากขึ้น บวกกับราคาจำหน่ายเพียง 305,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นบิ๊กไบค์ขนาดกลางเครื่องสี่สูบเรียงที่ราคาย่อมเยาที่สุดในตลาดปัจจุบันเลยก็ว่าได้
Yamaha MT-09
หนึ่งโมเดลตัวรองของค่าย Yamaha กับ MT-09 ที่ถึงแม้ว่าจะมีการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 และมีการปรับโฮมใหม่มาแล้วหนึ่งครั้งถ้วน แต่ด้วยมนต์เสน่ห์ของเครื่องยนต์ Cross Plane 3 ลูกสูบ ที่เป็นรถจากฝั่งญี่ปุ่นเพียงค่ายเดียวที่ทำเครื่องยนต์ในรูปแบบนี้ แถมยังมีรุ่นพิเศษ SP ที่อัพเสปกของอุปกรณ์ใหม่เพิ่มเติมประสิทธิภาพในการขับขี่ให้ถึงขีดสุด โดยราคาจำหน่าย MT-09 รุ่นมาตรฐานในประเทศไทยนั้นมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 399,000 บาท
KTM 790 Duke
เป็นเพียงรุ่นเดียวที่ยังไม่มีการเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการในประเทศไทย สำหรับ KTM 790 Duke โดยสิ่งที่พิเศษสำหรับโมเดลนี้ก็คือเรื่องของเครื่องยนต์ใหม่รหัส LC8c 2 ลูกสูบ ที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับรถมอเตอร์ไซค์ของ KTM ที่กำลังพัฒนาเครื่องในรุ่น 490 และ 890 ใหม่บนแพลตฟอร์มที่น่าสนใจนี้ ซึ่งเจ้า 790 Duke นั้นเป็นเหมือนกับตัวจุดกระแสให้ KTM กลับมาโลดแล่นและมียอดการจำหน่ายที่ทะลุเป้าในปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเราบรรดาไบค์เกอร์ชาวไทยก็ต้องรอดูกันว่าในงาน Motor Show 2020 ปลายเดือนมีนาคมนี้ Vroom ตัวแทนจำหน่าย KTM ในประเทศไทยนั้นจะนำเอาโมเดลนี้มาวางจำหน่ายในบ้านเราหรือไม่
Suzuki Katana
Suzuki Katana เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ดึงเอากลิ่นอายของรถที่เคยโด่งดังในอดีตบนแพลตฟอร์มสมัยใหม่ ที่หลายๆ คนอาจจะมองว่ารูปแบบโดยรวมยังคงขาดเสน่ห์ของไฟหน้าแบบ Pop Up ที่เป็นเหมือนจุดขายของโมเดลนี้ แต่ในภาพรวมแล้ว Katana คันนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์การนำเอารถดังในอดีตกลับมาใหม่ได้อย่างตรงจุดด้วยการดีไซน์แบบกึ่ง Half-*Fairring เปิดช่วงล่างเครื่องยนต์แต่มีแฟร์ริ่งหน้า พร้อมกับเครื่องยนต์จาก GSX-S1000 ที่มอบการขับขี่ที่ทรงพลังแต่ยังคงเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่ ด้วยราคาจำหน่าย 569,000 บาท ก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่งรถ Naked ที่น่าสนใจไม่น้อย
Royal Enfield Interceptor 650 & Continental GT 650
สองโมเดลจากประเทศอังกฤษ Royal Enfield Interceptor 650 และ Continental GT 650 ทำตลาดในประเทศไทยมาพักใหญ่ๆ แล้ว ด้วยสิ่งใหม่บนเครื่องยนต์สองลูกสูบเรียง 648 ซีซี ที่มอบแรงม้าสูงสุด 47 แรงม้า (HP) ที่อาจจะมีข้อสังเกตในเรื่องของน้ำหนักตัวที่ดูจะสร้างปัญหาให้กับผู้ขับขี่หน้าใหม่พอสมควร แต่เมื่อประตัวได้แล้ว น้ำหนักที่ดูเหมือนจะมากนี้กลับสร้างความมั่นคงในยามขับขี่ด้วยความเร็ว การเบรกที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงรูปแบบที่มีให้เลือกถึงสองแนวทาง และราคาเฉลี่ยที่สองแสนต้นๆ ก็ทำให้ทั้งสองโมเดลกลายเป็นโมเดลที่น่าสนใจโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบรถในแนว Retro Classic
Ducati Scrambler Cafe Racer
โมเดลที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Desmodromic สองลูกสูบ L-Twin 803 ซีซี ที่สามารถสร้างพละกำลังสูงสุดได้ 75 แรงม้า (HP) ที่ 8,250 รอบต่อนาที มาพร้อมกับดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา คลาสสิคและทันสมัยในคันเดียวกัน ที่อาจจะมีข้อสังเกตอยู่ที่ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่ดูแล้วไม่เข้ากับสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของบ้านเราสักเท่าไหร่ แต่การได้ขับขี่มันแล้ว ความเท่ห์ ความคูล อาจจะทำให้มองข้ามเรื่องความร้อนจากการหมุนของเครื่องยนต์ไปได้ กับราคาจำหน่ายที่ 470,000 บาท แล้วได้ขับขี่รถอิตาเลี่ยนแท้ๆ สักคัน ก็น่าสนใจอยู่นะครับ
Triumph Rocket3
มาถึงรุ่นใหญ่สุดในลิสต์ กับเจ้า Triumph Rocket3 รุ่นใหม่ที่มีการปรับเครื่องยนต์ใหม่ 3 ลูกสูบ 2,500 ซีซี โดยยังอิงแนวทางของรถ Cruise Tourer ที่ยังชัดเจน ขุมกำลังใหม่สามารถให้พละกำลังสูงสุด 165 แรงม้า (BHP) และแรงบิดมหาศาล 220 นิวตันเมตร โดยจุดเด่นสำหรับโมเดลนี้อีกหนึ่งเรื่องก็คือการทำราคาใหม่ ที่เดิมทีจะเป็นงานนำเข้าแบบ 100% ทำให้ราคาในรุ่นก่อนหน้านี้นั้นเริ่มต้นที่ 1.8 ล้านเป็นต้นไป แต่พอมีการประกอบด้วยโรงงานภายในประเทศและการเคาะราคาเริ่มต้นเพียง 9.55 แสน มันจึงกลายเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่น่าจับตามอง ถ้าเราได้มีโอกาสทดลองขับขี่แล้วจะกลับมาเขียนให้เพื่อนๆได้อ่านกันในโอกาสต่อไปนะครับ
Kawasaki Z900
มาถึงคันสุดท้ายกันแล้วกับเจ้า Kawasaki Z900 พี่คนรองจากตระกูล Z ของค่ายยักษ์เขียว ที่ปรับปรุงจากโมเดล Z800 ในปี 2017 โดยที่ยังคงเครื่องยนต์ขนาด 948 ซีซี 4 ลูกสูบเรียง รีดแรงม้าสูงสุดได้ 125 แรงม้า (HP) ที่ 9,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 98.6 นิวตันเมตรที่ 7,700 รอบต่อนาที พร้อมกับน้ำหนักตัว 212 กิโลกรัม กับดีไซน์ที่เน้นการขับขี่ในท่าทางที่สปอร์ตกว่ารถเนกเกตทั่วๆไป แต่มอบความนุ่มนวลในการขับขี่ คันเร่งที่เชื่องมือ สามารถลดการกระแทกคันเร่ง กระชากความเร็วได้อย่างใจนึก ด้วยราคาจำหน่ายที่ 443,100 บาท ทำให้เจ้า Z900 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ในคลาสเกือบหนึ่งลิตรที่น่าสนใจเอามากๆ
9 ใน 10 รุ่นนี้มีจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยังคงเหลือเพียง KTM 790 Duke ที่ยังต้องรอดูกันว่าผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทยนั้นจะนำเข้ามาในประเทศช่วงเวลาใด ท้ายที่สุดนี้เพื่อนๆ อาจจะมองเห็นรถโมเดลอื่นๆที่น่าสนใจนอกเหนือจากลิสต์ที่เราทำกันในวันนี้ ลองเอาข้อมูลมาแนะนำเราได้ที่ Facebook Fanpage : Greatbiker.com พวกเรารออ่านคอมเม้นท์ของเพื่อนๆอยู่นะครับ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.