10 เรื่องจริงที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ Honda Super Cub
Honda Super Cub โมเดลรถมอเตอร์ไซค์ Moped ขายดีอันดับหนึ่งของค่ายปีกนก หรืออาจจะเรียกได้อีกว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ขายดีที่สุดในโลก ด้วยยอดการจัดจำหน่ายไปแล้วกว่า 100 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งสูงกว่ารถยนต์ยอดนิยม Volkswagen Beetle ที่มียอดการจำหน่าย 23.5 ล้านคัน ซึ่งตลอดเวลากว่า 60 ปี กระแสตอบรับของเจ้า Super Cub นั้นก็ไม่มีความเสื่อมคลาย วันนี้ทีมงาน GreatBiker จะขอพาเพื่อนๆไปเรียนรู้เกี่ยวกับ 10 เรื่องจริงที่คุณอาจไม่รู้กับเจ้า Honda Super Cub กันครับ
10.Super Cub ไม่ใช่โมเดลแรกของค่าย Honda
ย้อนกลับไปในปี 1946 นาย Soichiro Honda และ Takeo Fujisawa ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Honda motors ขึ้น โดยมุ่งเน้นการผลิตไปที่รถจักรยานติดเครื่องยนต์ แต่ด้วยความฝันของนาย Soichiro Honda ที่มีต่อรถแข่งในสนาม ทำให้การพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก โดยจะทำการผลิตทั้งโครงสร้างและเครื่องยนต์เป็นของตัวเอง โดยพึ่งพา พาร์ทเนอ์หรือบริษัท Third Party ให้น้อยที่สุด และหลังจากการก่อตั้ง 3 ปี Honda ก็สามารถผลิตรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กรุ่นแรกได้สำเร็จ โดยได้ชื่อรหัสเป็น Honda D-Type หรือ Honda Dream ที่เราคุ้นหู โดยใช้งานเครื่องยนต์ขนาด 48 ซีซี 2 จังหวะ ซึ่งกว่าเจ้า Honda Super Cub คันแรกจะเสร็จสมบูรณ์ก็ใช้ระยะเวลาถึง 10 ปี หลังจากการก่อตั้ง
9.เครื่องยนต์ที่เรียบง่าย
โมเดลแรกของ Honda Super Cub เกิดจากการต่อยอดของ Honda D-Type ที่ได้รับการพัฒนาเครื่องยนต์แบบ 1 ลูกสูบ 49 ซีซี 1 จังหวะที่เรียบง่าย ไม่มีส่วนของการใช้นวัตกรรมที่ยุ่งยาก และเจ้าเครื่องยนต์บล็อกนี้สามารถสร้างแรงม้าสูงสุดได้เพียง 4 แรงม้า (HP) เท่านั้น แต่มันกลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะด้วยกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อน การซ่อมบำรุงที่ไม่วุ่นวาย เพียงปีแรกของการผลิตเจ้า Honda Super Cub ก็มียอดการจำหน่ายสูงเกินกว่า 200,000 คันเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น
8.เวอร์ชั่นที่แตกต่างของระบบ Centrifugal Clutch
ในตอนต้น นาย Soichiro Honda ตั้งใจจะผลิตรถ Super Cub ให้เป็นรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กที่ใช้ในการขนส่งสินค้า โดยได้มองเห็นภาพของเด็กที่ปั่นจักรยานเพื่อไปส่งอาหารตามบ้านและต้องปั่นขึ้นเนินเข้าที่สูงชันในประเทศญี่ปุ่นในเวลานั้น เขาจึงได้คิดค้นระบบ Semi-Automatic Centrifugal Clutch หรือระบบคลัทซ์กึ่งอัตโนมัตแรงเหวี่ยงขึ้น เพื่อให้การขับขี่สามารถทำได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ซึ่งระบบที่ว่านี้เป็นเรื่องที่ใหม่มากในขณะนั้น ทำให้ผู้ผลิตต้องมีการใส่ระบบคลัทซ์ที่แตกต่างกันออกไปถึง 8 รูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ล่ะรูปแบบของผู้บริโภค
7.วงล้อ 17 นิ้ว กับความสูงของคนญี่ปุ่น
ในยุคที่ Honda Super Cub กำลังถูกออกแบบอยู่นั้น รถมอเตอร์ไซค์จากทวีปยุโรปที่มีการเข้ามาทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นนั้น จะมีขนาดของล้ออยู่ที่ 24-26 นิ้วเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนั้นจะเป็นปัญหาสำหรับรูปร่างของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และขนาดของยางก็จะมีความบางและแตกรั่วได้ง่าย จากสภาพพื้นถนนที่ไม่เรียบเหมือนปัจจุบัน ทำให้ผู้ออกแบบ หันมาให้ความสนใจวงล้อขนาด 17 นิ้วและยางที่มีขนาดความหนาที่มากกว่ายางรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ซึ่งมันสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องของสรีระของผู้ขับขี่และความทนทานของยางในการใช้งาน
6.การตลาดที่แหวกแนว
ในช่วงยุค 70-80 ‘s รถมอเตอร์ไซค์อาจจะดูเป็นเรื่องสำหรับผู้ชาย แต่ทาง Honda ไม่ได้มีแนวคิดแบบนั้นเพียงอย่างเดียว เพราะโมเดล Super Cub นั้นถูกออกแบบมาให้กับคนทุกเพศ ทุกวัย โดย Honda ได้เริ่มใช้แผนการตลาดในการรุกและเข้าถึงผู้หญิงมากขึ้น โดยใช้การโฆษณาลงในนิยตสารของผู้หญิงในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลตอบนับก็คือผู้หญิงหันมาให้ความสนใจรถมอเตอร์ไซค์มากขึ้น และมีส่วนแบ่งในการตลาดจากผู้ชายมากขึ้นถึง 30%
5.การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนของ Disney
จากการเปิดเผยของนิตยสาร Young-Machine เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วได้บอกว่า ผู้ออกแบบ Honda Super Cub นั้นได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบชุดแฟร์ริ่งหน้ามาจากหนังการ์ตูนของ Disney ที่ลูกสาวเปิดดูทางทีวีในวันหยุด โดยเจ้ารถคันนั้นเป็นการลดทอนมาจากรถสกู๊ตเตอร์ระดับตำนานอย่าง Vespa โดยผู้ออกแบบ ได้มองเห็นว่าส่วนบังโคลนหน้าที่ยื่นออกมาแบบนั้นจะสามารถช่วยป้องกันการกระเด็นของเศษหินเศษดิน ที่จะเข้ามาปะทะกับขาและเท้าของผู้ขับขี่ได้ และมันยังช่วยลดการปะทะของลมกับผู้ขับขี่ในย่านความเร็วสูงได้อีกด้วย
4.สีสันแรกของ Honda Super Cub
ในการผลิต Honda Super Cub ครั้งแรก ทางผู้ผลิตไม่ได้มีสีสันอะไรมากมายให้ผู้บริโภคได้เลือกมากนัก โดยสีที่เป็น Original ของ Honda Super Cub โมเดลแรกคือสีน้ำเงินเข้ม ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้าและน้ำทะเล เพื่อให้สามารถเข้าได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่ทาง Soichiro Honda เจ้าของแบรนด์ในเวลานั้นต้องการส่วนของสีแดงที่แสดงออกถึงความร้อนแรงเหมือนกับรถสปอร์ต ซึ่งผลจากการตกลงกันในครั้งนั้น Honda Super Cub เลยได้สีสันตัวรถที่เป็นสีน้ำเงินเข้มสลับอ่อน และเบาะหนังสีแดงที่ร้อนแรงตามคำสั่งของเจ้านาย
2.ยอดขาย 30,000 คันต่อเดือน
ในช่วงขั้นตอนสุดท้ายของ Honda Super Cub โมเดลแรกจะออกวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น นาย Takeo Fujisawa ที่ตอนนั้นดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายธุรกิจของ Honda Motor ตั้งเป้าหมายจะสร้างยอดขาย Honda Super Cub ให้ได้ 30,000 คันในปีแรก แต่เมื่อเดือนธันวาคมในปี 1957 เดือนแรกที่มีการจำหน่ายโมเดลนี้ในประเทศญี่ปุ่น กลับสร้างยอดขายได้เกิน 40,000 คันในเดือนแรกที่จำหน่าย จนทางผู้ผลิตเองต้องเร่งสายการผลิตทั้งหมดเพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ซึ่งระยะเวลาเพียง 1 เดือนก็เกินเป้าหมายที่วางไว้ในตอนต้นแล้ว จนในเดือนธันวาคมปี 1958 Honda ได้ผลิตรถโมเดล Super Cub จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นไปกว่า 200,000 คัน
2.Honda เคยถูกปฏิเสธ
จากการเติบโตที่ก้าวกระโดดของ Honda Super Cub ส่งผลให้นาย Takeo Fugisawa มองธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น โดยต้องการที่จะเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์แบรนด์แรกของประเทศญี่ปุ่นที่ไปบุกตลาดในอเมริกา ด้วยการเปิดสาขาอย่างเป็นทางการในเมือง LA ในปี 1959 และต้องการกู้เงินจากธนาคารกลางอเมริกาเพื่อการดำเนินธุรกิเป็นวงเงิน 1,000,000 เหรียญสหรัฐ แต่ถูกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ซึ่งนาย Takeo นั้นก็ไม่ยอมแพ้โดยได้ไปขอกู้เงินกับธนาคารกลางของประเทศญี่ปุ่นแต่สามารถกู้มาได้เพียง 250,000 เหรียญสหรัฐ และได้ความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นอีก 100,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งนั้นเป็นวงเงินที่ยังไม่ถึงครึ่งตามที่เขาต้องการ
1.โมเดลบุกตลาดอเมริกา ไม่ใช่ Super Cub
ในปี 1959 Honda บุกตลาดอเมริกาอย่างเป็นทางการ โดยมีการนำเอาโมเดลหลากหลายรูปแบบทั้ง Honda Dream D-Type, E-Tyoe, Honda Benly โดยทั้งสามโมเดลถูกวางไว้เป็นโมเดลที่ Honda ต้องการสร้างยอดขายมากที่สุด แต่สุดท้าย โมเดลที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วคือ Honda Super Cub ที่ไม่ได้ถูกกำหนดในแผนการตลาดในอเมริกาอย่างชัดเจน โดยตอนแรกนั้น Honda Super Cub ถูกใช้เป็นรถเฉพาะของพนักงาน แต่เมื่อเดินทางไปไหนมาไหนแล้ว ผู้คนกลับให้ความสนใจ ทั้งรูปแบบที่แปลกตา และเริ่มมีการสอบถาม จนผู้ผลิตต้องมีการนำเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมกับการเปลี่ยนความเข้าใจต่อผู้บริโภคผ่านรูปแบบการโฆษณาถึง ทัศนคติต่อผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นพวกตำรวจหรือผู้นอกกฎหมายเท่านั้น ทำให้ Honda Super Cub เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มียอดการจำหน่ายสูงกว่า 500,000 คันต่อปีเฉพาะในอเมริกา
2019 Honda Super Cub 110
2018 Honda Super Cub 125
ณ ตอนนี้ Honda Super Cub มีอายุรวมแล้ว 60 ปีพอดิบพอดี ซึ่งในปัจจุบัน Honda มีโมเดล Super Cub ออกมาด้วยกันสองรุ่นประกอบไปด้วย Honda Super Cub 110 และ Super Cub 125 ที่นับว่าเป็นโมเดลฉลองครบรอบ 60 ปี และยอดขาย 100 ล้านคันทั่วโลกของรถในตระกูล Super Cub ตั้งแต่ปี 1959 เป็นต้นมา
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motorcycle.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.