Suzuka Endurance Racing การแข่งขันที่มีศักดิ์ศรีค่ายเป็นเดิมพัน
เรียกได้ว่าใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วสำหรับการแข่งขัน Suzuka Endurance Racing งานใหญ่ประจำปีของวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศญี่ปุ่นที่บรรดา 4 ค่ายยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบนั้น หมายมั่นปั้นมือที่จะสร้างผลงานในการแข่งขันครั้งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าปี 2019 นี้ การแข่งขันก็จะถูกจัดขึ้นเฉิกเช่นที่ผ่านๆ มา ซึ่งเราทีมงาน Greatbiker เองเลยอยากจะขอพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับการแข่งขันรายการนี้ให้มากยิ่งขึ้นไปครับ
Suzuka Endurance Racing เป็นหนึ่งในปฎิทินการแข่งขันของ FIM EWC (Endurance World Championship) ตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งจะถูกจัดให้เป็นสนามส่งท้ายของฤดูกาล ซึ่งมีการจัดแข่งขันกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 40 ปี โดยที่รูปแบบการแข่งขันนั้นจะแบ่งออกเป็นสองรุ่น ประกอบไปด้วย 4 ชั่วโมง และรุ่น 8 ชั่วโมง
ในรุ่น 4 ชั่วโมงนั้นทีมแข่งจะต้องใช้รถมอเตอร์ไซค์ขนาดเครื่องยนต์จะแบ่งไปตามจำนวนของลูกสูบ โดยเครื่องยนต์แบบ สามลูกสูบนั้น จะได้ต้องไม่เกิน 750 ซีซี สี่ลูกสูบไม่เกิน 650 ซีซี โดยที่มีนักแข่งในทีมได้สามคน โดยจะต้องส่งรายชื่อนักแข่ง 2 คน ลงทำการแข่งขันเท่านั้น ซึ่งตัวสำรองจะส่งรายชื่อได้ก็ต่อเมื่อ นักแข่งสองตัวหลักเกิดถอนตัวก่อนรอบการแข่งขันจริง และหากนักแข่งสองคนเกิดบาดเจ็บขณะแข่งขันอยู่นั้นก็มีสองทางเลือกคือ ลงแข่งขันแค่ 1 คน กับยุติการแข่งขันไปเลย และต้องบอกว่าในรุ่น 4 ชั่วโมงนี้ ทีมจากประเทศไทยสามารถคว้าแชมป์มาแล้วสองสมัยกับทีม Yamaha Racing Thailand ที่คว้าแชมป์ได้ในปี 2017 และ 2018 โดยที่มีอีกหนึ่งทีมจากประเทศไทย Honda Thailand Racing Team ส่งเข้าร่วมการแข่งขันมาตั้งแต่ปี 2017 ที่ผ่านมา ส่วนกติกาของการแข่งขันนั้น ตัวรถที่ใช้ในการแข่งขันนั้นจะมีได้เพียง 1 คันเท่านั้น ห้ามมีการเปลี่ยนรถโดยเด็ดขาด แต่สามารถทำการซ่อมแซมตัวรถหากเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุขัดข้องได้ รถจะสามารถวิ่งเข้าออกใน Pit Lane ได้ตลอดระยะช่วงเวลาในการแข่งขัน ไม่ว่าจะซ่อมแซมตัวรถหรือทำการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เปลี่ยนตัวผู้ขับขี่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่วัดใจทั้งผู้ขับขี่และทีม Support เป็นอย่างมาก
ส่วนรายการใหญ่สุด Suzuka 8 Hours นั้นจะเป็นหนึ่งในรายการเก็บคะแนนสะสมชิงแชมป์โลก FIM EWC โดยที่ทีมแข่งในรายการ FIM EWC นั้นจะต้องเข้าแข่งขันกับทีมที่ส่งมาในนามของ Factory และ independent มาหมายซึ่งบรรดาทีมโรงงานสี่เจ้าใหญ่ของญี่ปุ่นก็จะส่งรถแข่งที่ดีที่สุดพร้อมทั้งนักแข่งระดับท๊อปที่อยู่ในสังกัดเข้าร่วมการแข่งขันมากมาย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรายการที่เราจะได้เห็นนักแข่งระดับโลกอย่าง Jonathan Rea, Alex Lowes,Toprak Razbalioglu และอื่นๆ จากเวที WorldSBK ตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ โดยในรุ่น 4 ชั่วโมงนั้น จะเปิดโอกาสให้ทีมแข่งสามารถเลือกใช้งานรถแข่งได้อย่างเปิดกว้าง ไม่จำกัดจำนวนลูกสูบ แต่ก็ยังมีข้อกำหนดในปริมาณกระบอกสูบที่จะต้องไม่ต่ำกว่า 800 ซีซี และไม่สูงเกินกว่า 1,300 ซีซี ทีมแข่งจะมีนักแข่งได้ทั้งหมดสามคน เช่นเดียวกับรุ่น 4 ชั่วโมง แต่ทั้งสามคนนั้นสามารถสลับปรับเปลี่ยนกันขับขี่ได้ตลอดเวลา 8 ชั่วโมงของการแข่งขัน
ในการแข่งขันของรุ่น 8 ชั่วโมงนั้น อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้ว บรรดาทีมโรงงานต่างจะขนเอาสตาร์ดาวเด่นของทีมมาลงแข่งขัน ดังนั้นก็หมายความว่ามันเป็นเหมือนเกมส์แห่งศักดิ์ศรีของบรรดาค่ายผู้ผลิต ที่จะโชว์ศักยภาพความเป็นที่สุดของผลิตภัณฑ์ออกมาผ่านการแข่งขัน ซึ่งต้องบอกเลยว่าแชมป์ของการแข่งขันในรุ่น 8 ชั่วโมงแต่ล่ะครั้งนั้น แทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ EWC เลยสักกะทีม ซึ่งบรรดาทีมที่แข่งขันเพื่อเก็บคะแนนชิงแชมป์โลกก็แข่งกันไป แต่เป้าสายตาที่ถูกจับจ้องมากที่สุดกลับกลายเป็นการฟาดฟันกันเองของ 4 ค่ายยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นเสียมากกว่า และแน่นอนว่าในปี 2019 นี้ Greatbiker เองก็จะเดินทางไปร่วมชมการแข่งขันแบบติดขอบสนามที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเพื่อนๆสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และไลฟ์สดบรรยากาศการแข่งขันจากขอบสนามได้ที่ Facebook Fanpage : Greatbiker.com ได้ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ในรุ่น 4 ชั่วโมง และวันที่ 28 กรกฎาคมในรุ่น 8 ชั่วโมง ได้เลยครับ
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
