2022 Yamaha YZF-R7 [Specs Review]
หลังจากตกเป็นกระแสอยู่พักใหญ่ๆ ในที่สุด Yamaha ก็ได้ปล่อยข้อมูลอย่างเป็นทางการของโมเดลสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งใหม่อย่างเจ้า 2022 All-New Yamaha YZF-R7 โมเดลที่จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของ R-Serie ให้สามารถเชื่อมต่อกันได้สนิทมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าโมเดลนี้จะนำเอาพื้นฐานหลายๆ ส่วนมาจากโมเดลอย่าง MT-07 แต่ก็มีการปรับให้เหมาะสมกับแนวทางและรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป
ส่วนแรกเราขอพาเพื่อนๆไปชมดีไซน์รอบคันกันก่อน 2022 All-New Yamaha YZF-R7 จะเป็นรถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งในระดับ Supersport ที่ชัดเจนว่ามันจะเข้ามาอุดช่องว่างของ R-Serie ที่เดิมที่ จะมี R125 และ R15 ในระดับเริ่มต้น ต่อด้วย R3 และราคาจะโดดต่อไปที่ R6 ที่เป็น Race Replica และสุดทางกับ R1 และรุ่นพิเศษอย่าง R1M โดยเจ้า R7 นั้นเป็นการเชื่อมต่อระหว่าง R3 และ R1 ได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Honda ที่จะมี CBR150R , 250RR, 500R, 650R, 600RR และไปสุดที่ CBR1000RR-R โดยที่เจ้า R7 นั้นจะเป็นตัวกลางที่อ้างอิงงานออกแบบมาจาก R3 และ R1 โดยที่ยังคงกลิ่นอายของ R6 อยู่แบบจางๆ โดยภาพรวมแล้วตัวรถนั้นมีขนาดที่เล็กและดูคล่องแคล่ว ซึ่งแน่นอนว่ายังคง DNA ของรถสปอร์ตของ R-Serie ที่ชัดเจน
ส่วนต่อมาเราของกล่าวถึงเรื่องของขุมกำลังกันก่อน ชัดเจนว่าเครื่องยนต์บน R7 นั้นจะเป็นเครื่องยนต์ลูกเดียวกับที่ใช้บน Yamaha MT-07 โดยเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 ลูกสูบ ขนาด 689 ซีซี DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ระบบการจุดระเบิดแบบ CP2 หรือไม่สม่ำเสมอ ทำให้ได้อัตราเร่งที่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์สองลูกสูบทั่วๆไป อีกทั้งยังให้โทนเสียงของเครื่องยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงการเชื่อมต่อโดยตรงจากคันเร่งไปยังล้อหลัง ลูกสูบแบบ Forged aluminum พร้อมกระบอกสูบ direct-plated cylinders ที่รวมเข้ากับข้อเหวี่ยง ทำให้ได้ชุดเครื่องยนต์ที่มีน้ำหนักเบา มีความแข็งแรงที่ยอดเยี่ยมในอุณหภูมิที่สูง ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถหมุนรอบต่อนาทีได้ในรอบที่สูงขึ้น ข้อเหวี่ยง 270 องศาของเครื่องยนต์ครอสเพลนให้ลำดับการจุดระเบิดที่ไม่สม่ำเสมอเน้นการเร่งด้วยแรงบิดและการส่งกำลัง เพื่อการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมในทุกย่านความเร็ว นอกจากนี้ R7 ยังมีการปรับในเรื่องของอัตราทดเกียร์ใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับแนวทางของรถ และยังมีอุปกรณ์เสริมอย่างตัว QuickShifter สร้างความเร้าใจในการขับขี่และให้ความรู้สึกสปอร์ต และรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นด้วยการเสริมระบบใหม่อย่าง Assist and Slipper clutch เป็นครั้งแรกของโมเดลที่ใช้เครื่องยนต์แบบ CP2 อีกด้วย
มาดูกันที่โครงสร้างกันบ้าง น่าแปลกใจที่ Yamaha ตัดสินใจพัฒนาโครงสร้างใหม่สำหรับ R7 โดยเฉพาะ ไม่ได้นำเอาชุดโครงสร้างของ MT-07 มาสวมแฟร์ริ่งทับแต่อย่างใด โดยโครงสร้างชุดใหม่นี้เป็นโครงสร้างเหล็กที่มีความแข็งแรง และมีความแคบที่มากที่สุด เท่าที่เคยมีมาในโมเดลจาก R-Serie ดังนั้น R7 จะมีความพิเศษที่แตกต่างจาก R3, R1 หรือ R6 ก็ตาม YZF-R7 ให้ความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ตและตอบสนองได้ดีโดยการติดตั้ง aluminum center braces ตรงกลางใกล้กับแกนสวิงอาร์ม ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานในเรื่องของแรงบิด รวมไปถึงการปรับองศา Rake, trail และระยะทางล้อใหม่ให้เหมาะสมเพื่อการบังคับที่ยอดเยี่ยมในขณะเข้าโค้งทั้งในรูปแบบของสนามแข่ง และการใช้งานบนชีวิตจริง การออกแบบเฟรมที่แคบและน้ำหนักเบาส่งผลให้มีตัวถังที่บางที่สุดที่พบในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Supersport ของ Yamaha ซึ่งมันช่วยลดแรงต้ายจากอากาศของผู้ขับขี่ให้ดีกว่า
มาต่อกันที่ระบบกันสะเทือน เห็นได้ชัดว่าเจ้า R7 นั้นได้รับโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ Upside-Down โดยเป็นของแบรนด์ KYB แบรนด์คู่ใจของ Yamaha ที่พกพาขนาดแกนกลาง 41 มิลลิเมตร ที่ถึงแม้ว่าจะเล็กกว่า R6 ที่ให้ขนาด 43 มิลลิเมตร แต่ทาง KYB เองมีการปรับอัตราสปริงที่เหมาะสมและการตั้งค่าการลดแรงสั่นสะเทือนเพื่อความรู้สึกด้านหน้าที่ยอดเยี่ยมในระหว่างการเข้าโค้งและการเบรก ที่เป็นการตั้งค่าเฉพาะสำหรับโมเดลนี้เท่านั้น ซึ่งตัวโช้คอัพหน้านั้นมาพร้อมกับตัวปรับค่าต่างๆ ที่สามารถปรับได้อย่างละเอียดด้วยมือ โดยที่ตัวโช้คอัพจะเชื่อมต่อกับ Triple Clamp บนล่าง กับแกนบังคับเลี้ยว ที่ผลิตด้วยวิธีการพิเศษแบบ gravity-cast aluminum ให้ความแข็งแรงทนทานและน้ำหนักที่เบากว่า ส่วนด้านหลังจะเป็นโช้คอัพแบบเดี่ยว linked-type Monocross single-shock ปรับระดับ preload และ rebound ได้ ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายในการขับขี่และสมรรถนะแบบสปอร์ต มาพร้อมกับความสามารถที่หลากหลาย สามารถใช้งานได้ทั้งในเมือง ออกทริป หรือจะลงหวดในสนามแข่ง ก็สามารถทำได้ชุดโช๊คหลังติดตั้งในแนวนอนยึดกับข้อเหวี่ยงเพื่อการใช้พื้นที่และน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพช่วยในการรวมจุดศูนย์ถ่วงให้ตัวรถมีสมดุลและยังช่วยปรับขนาดส่วนท้ายให้เหมาะสมอีกด้วย
มาต่อกันที่ระบบใหม่ๆ กันบ้าง ระบบเบรกเป็นอีกหนึ่งสิ่งใหม่ที่ไม่พบบน MT-07 พื้นฐานของโมเดลนี้ โดยเจ้า R7 มาพร้อมกับระบบเบรกจากทางค่ายที่ใช้นวัตกรรมระบบเบรกจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Brembo แบบ radial mount โดยมาพร้อมกับปั้มแม่เบรกแบบ 4 พอร์ตใหม่ ที่มาพร้อมกับการปรับแรงดันแบบไฮดรอลลิกทำให้สามารถควบคุมและหยุดได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านจานดิสก์เบรกหน้าแบบคู่ ขนาด 298 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังจะเป็นระบบเบรกจาก Nissin แบบ 1 พอร์ตคู่กับจานดิสก์ขนาด 220 มิลลิเมตร เช่นเดียวกับหน้าจอแสดงผลใหม่แบบ LCD ที่มีการเลือกใช้หน้าจอแบบ high-contrast negative dashboard ที่ให้ข้อมูลในการใช้งานที่ครบถ้วน ทั้งเรื่องของความเร็ว ความเร็วรอบเครื่องยนต์ ตำแหน่งเกียร์ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ไฟสถานะต่างๆ เรียบง่ายและเข้าถึงได้ง่าย ระบบไฟแบบ LED โดยส่วนของไฟหน้านั้นจะเป็นแบบ Mono Focus สองทิศทางปรับไฟสูงต่ำได้ในดวงเดียว ขนาบข้างด้วยไฟ DRL แบบ LED ทรงสปอร์ตดุดัน และสปอยเลอร์ส่วนล่างเสริมความสปอร์ตให้สุดทาง ในส่วนของไฟท้ายก็เป็นแบบ LED เช่นเดียวกับสัญญาณไฟเลี้ยว
สำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยนั้น คาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายปี 2021 หรือต้นปี 2022 ซึ่งอาจจะเปิดตัวในงาน Motor Show 2022 ในส่วนของราคานั้นคาดว่าจะอยู่สูงกว่า Yamaha MT-07 แต่จะไม่ใกล้เคียงกับราคาของ R6 โดยทาง Greatbiker คาดว่าเจ้า 2022 All-New Yamaha YZF-R7 จะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยราวๆ 313,000 บาทโดยประมาณ ย้ำว่าทัศนส่วนตัวนะครับ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motorcycle.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.