5 รถบิ๊กไบค์ที่เหมาะกับผู้เริ่มต้น และ 5 รถบิ๊กไบค์ที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับมือใหม่
สวัสดีเพื่อนๆ ชาว GreatBiker ทุกท่าน บทความเขียนขึ้นมาจากรีเควสของเพื่อนๆ หลายท่านที่ติดตามเว็บไซต์ของเรามา โดยปกติแล้วเราจะพยายามนำเสนอรถบิ๊กไบค์ที่เร็วและแรง หรือมีอะไรน่าสนใจออกมาสู่สายตาเพื่อนๆ โดยตลอด แต่ในทางกลับกัน บางทีอาจจะเป็นการชี้นำหรือว่าสร้างความอยากได้ให้กับหลายๆ คน แต่ว่าบางครั้งมันอาจจะไม่ดีนักสำหรับผู้ที่ไม่เคยขี่บิ๊กไบค์มาก่อน หรือว่ายังเป็นมือใหม่อยู่ เพราะต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่ารถบิ๊กไบค์นั้นไม่เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่ว ไปอย่างแน่นอน ทั้งการคอนโทรลรถและน้ำหนักรวมไปถึงความแรงที่มหาศาลกว่า ดังนั้นแล้วเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ขี่มือใหม่ ทางเราเลยอยากจะขอรวบรวมรถบิ๊กไบค์ (ในที่นี่ทางเราขอยึดนิยามกว้างๆ ว่ารถที่มีขนาด 250cc ขึ้นไปคือบิ๊กไบค์ที่เราจะใช้เรียกกันในที่นี้) 5 คันที่ถือว่าขี่ง่ายต่อกลุ่มผู้ใช้งานใหม่มากที่สุดให้ได้พิจารณากัน รวมไปถึงอีก 5 คันที่อันตรายเกินไปสำหรับมือใหม่
5 บิ๊กไบค์ที่เหมาะสำหรับมือใหม่
1. Honda CBR300R / CB300F
เป็นรถที่ต่อยอดมาจาก CBR250R โดยเพิ่ม cc ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วอยากจะบอกว่ามันอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับนักบิดมือ ใหม่ในคลาสนี้สำหรับรถที่วางขายกันในบ้านเราในปัจจุบันก็ว่าได้ ด้วยการออกแบบนิสัยของเครื่องยนต์และลักษณะท่าทางในการขับขี่มาเป็นมิตรต่อ ผู้ใช้งานมากที่สุด โดยตัวรถนั้นมีจุดศูนย์ถ่วงค่อนข้างต่ำ ทำให้การควบคุมรถในโค้งทำได้ง่าย รวมไปถึงน้ำหนักที่เบาทำให้การพลิกโค้งนั้นไม่ต้องฝืน และด้วยความที่เป็นรถสูบเดียวทำให้รู้สึกว่าการบิดนั้นสนุกในช่วงรอบต้นๆ เพราะว่าทอร์คจะมาค่อนข้างไว ไม่ต้องคอยกังวลกับการเลี้ยงรอบเหมือนกับรถจำนวนหลายสูบ ซึ่งน่าจะถูกอกถูกใจต่อผู้ขับขี่มือใหม่มากกว่า รวมไปถึงพวกุปกรณ์ด้านความปลอดภัยอย่างระบบห้ามล้อล็อคฉุกเฉินหรือว่า ABS นั้นก็มีติดรถมาให้เลย และอีกอย่างที่สำคัญก็คือราคานั้นค่อนข้างที่จะเป็นมิตรและค่าซ่อมบำรุงนั้น เบาๆ รวมไปถึงแบรนด์อย่างฮอนด้านั้นก็ถือว่าได้เปรียบในเรื่องของจำนวนศูนย์ หากเวลาเราเกิดไปออกทริปต่างจังหวัดแล้วรถบังเอิญมีปัญหาขึ้นมาก็สามารถหาศูนย์บริการได้ง่าย
2. Kawasaki Ninja 250SL / Z250SL
แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่รุ่นยอดนิยมมากนักในบ้านเรา แต่ว่าทาง Kawasaki ที่ปกติแล้วจะทำแต่รถในสไตล์ดุๆ ที่เน้นทอร์คในเบื้องต้นที่ค่อนข้างจัดจ้าน ก็มีทางเลือกมาให้กับผู้ใช้งาน โดยการออกรถในคลาส 250 แบบ 1 สูบมาสองเวอร์ชั่นทั้งสปอร์ตและเนกเกตอย่างเจ้า Ninja 250SL และ Z250SL โดยราคาค่าตัวของรถนั้นก็จะดรอปลงมาจาก Z250 หรือ Z300 เยอะเลยทีเดียว โดยเน้นจุดเด่นที่ความคล่องตัวของรถในการขับขี่ที่มีสูง เนื่องจากมิติรถมีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก และการเปิดคันเร่งก็ไม่ได้กระชากมากจนเกินไป เรียกได้ว่ามิติรถประมาณนี้ ไบค์เกอร์มือใหม่ที่เป็นผู้หญิงก็ยังถือว่าขี่ได้สบาย แต่การดีไซน์นั้นก็ยังเป็นสไตล์ของคาวาซากิอย่างชัดเจน โดยที่ไม่ถึงความเหลี่ยมความคมของรถ เส้นสายที่มีความชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นความลงตัวในรูปแบบสบายกระเป๋ากันอีกรุ่นหนึ่ง
3. Yamaha SR400
หากว่าเราไม่เอาเรื่องของราคามาเป็นที่ตั้งแล้ว เจ้า SR400 ถือว่าเป็นรถที่มีความเป็นมิตรต่อผู้ขี่มากๆ เลยทีเดียว แม้ว่าในเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ มันจะไม่ทันสมัยมากนัก แต่ว่าตรงนี้มันกลับเป็นข้อดีสำหรับมือใหม่ ที่ไม่ต้องการรถที่มีความซับซ้อนมากนัก เน้นขี่ใช้งานจริงๆ และภาพลักษณ์ก็ได้ในเรื่องของความคลาสสิกที่ขี่ไม่ต้องเร็วมาก หล่อๆ กันไปทั้งในเมืองหรือว่าจะไปออกทริปกันก็ยังไหว และแน่นอนว่ามันปลอดภัยด้วย ตรงที่รถมันไม่ได้มีความเร็วปลายที่จัดจ้านอะไร ยิ่งเป็นการบังคับตัวเราเป็นอย่างดี ไม่ให้ขี่ห้าวมากเกินไปนัก ที่สำคัญมันเป็นรถที่มีตำนาน ทำให้คุณค่าของมันอาจจะมากกว่าแค่เรื่องของความคุ้มค่ากับราคา หากว่าไบค์เกอร์มือใหม่คนไหนชื่นชอบในรถสไตล์ย้อนยุคอย่างนี้แล้วล่ะก็ เจ้า Yamaha SR400 จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ในลำดับต้นๆ เลยทีเดียว
4. Benelli TNT25
ถือว่าเป็นน้องใหม่ในบ้านเราเลยสำหรับรุ่นนี้ โดยเป็นแบรนด์สัญชาติอิตาลี่ แต่ช่วงหลังถูกเทคโอเวอร์โดยจีน ซึ่งกลับกลายเป็นข้อดีที่ว่ามีโมเดลใหม่ๆ ออกมาในราคาที่จับต้องกันได้ง่ายๆ เลยหลายรุ่น และอย่างเจ้า TNT25 คันนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้น และแน่นอนความคุ้มค่าของพวกอุปกรณ์ติดรถที่มีมาให้ รวมกับเครื่องยนต์ในคลาส 250cc แต่ตัวรถนั้นกลับมีราคาไม่ถึงแสน ซึ่งตัวรถเองนั้นมีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างเบา และมีการคอนโทรลที่ง่าย มือใหม่สามารถค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับมันได้ไม่ยาก แม้ว่าหลายๆ คนอาจจะยังกังขาเกี่ยวกับคุณภาพของรถหรือว่าบริการหลังการขาย (เพราะเป็นแบรนด์ใหม่ในบ้านเรา) แต่ตรงนี้ก็มีฟีดแบคที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ จากเหล่าผู้ใช้งานจริงว่ามันคุ้มค่าคุ้มราคาทีเดียว และศูนย์ของ Benelli ในประเทศไทยเองนั้นก็ได้ขยายตัวออกสู่หัวเมืองตามต่างจังหวัดมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วฝนตอนนี้
5. Honda CBR500R / CB500F
สำหรับคันสุดท้ายนี้อาจจะดูแปลกๆ กับเงื่อนไขที่ตั้งไว้เล็กน้อย เพราะมันมี cc ที่มากถึง 471cc แต่ฮอนด้าก็คือฮอนด้า ที่ยังคงความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมาจนถึงรถในคลาสครึ่งลิตรอย่างนี้ก็ตาม แน่นอนว่ามันมีกำลังและความยากในการขี่มากกว่าตระกูล 300 ของตัวเองแน่ๆ แต่หากว่าเป็นไบค์เกอร์ที่พอขี่รถมีคลัทช์คล่องแคล่วแล้ว และอยากจะลองขยับ cc ให้มีความเร้าใจมากขึ้นกว่าเดิม เจ้า 500 ทั้งสองคันนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี (ไม่ขอนับตัว 500x ที่รถค่อนข้างสูง ไม่เหมาะกับมือใหม่แน่ๆ) และเมื่อเทียบกับสเปคในคลาส 500 กับจำนวนสูบเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ ที่ดูน่าจะควบคุมความเร็วได้ยาก แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย นิสัยของรถนั้นมีความนิ่มนวลสมูธเอามากๆ ในย่านความเร็วต้น ก่อนที่จะไปแรงเอาในรอบกลางๆ ซึ่งตรงนี้ก็ยังถือว่าพอเอาอยู่ ที่สำคัญมันเพิ่งออกโมเดลใหม่มาด้วย พ่วงด้วยระบบไฟแบบ FULL LED และความสดใหม่ของดีไซน์ ซึ่งคงอีกนานกว่าจะเปลี่ยนโฉม ใครที่กำลังเล็งๆ รถบิ๊กไบค์คลาสกลางๆ ไว้คันนี้ก็ไม่เลวเลยทีเดียว
ทั้งนี้เป็นเพียงความคิดเห็นจากทางทีม งาน GreatBiker.com เท่านั้น เพื่อนๆ บางท่านอาจมองเหมือนหรือต่างกันไปตามแต่มุมมองอีกที สุดท้ายนี้ก็ขอให้ไบค์เกอร์ทุกท่านขับขี่รถอย่างมีสติ และไม่ประมาทไม่ว่าจะเป็นทางไกลหรือใกล้แค่ไหนก็ตาม อุปกรณ์เซฟตี้นั้นก็สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหมวกกันน็อคจะขาดไม่ได้เลย และด้านล่างนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับรถบิ๊กไบค์ที่อันตรายเกินไปสำหรับมือใหม่
5 รถบิ๊กไบค์ที่ไม่เหมาะกับมือใหม่
คันที่ 1 Honda CBR954RR (ปี 2002-2003)
สำหรับเจ้ารถทรงสปอร์ตไบค์คันนี้ถือว่าเป็นพี่น้องกันกับ CBR 1000RR ซึ่งแน่นอนว่ามันจะมีสปีดที่ไม่ถือว่าแตกต่างกันมากเท่าไหร่ด้วย ความจริงแล้วมันถือว่าเป็นรถที่มีประสิทธิภาพดีมากคันหนึ่ง แต่ว่าที่หยิบยกมาเป็นหนึ่งในลิสต์ก็เพราะว่าตัวรถของ CBR954RR เองนั้นค่อนข้างที่จะดิบๆ และแรงเอามากๆ ประกอบกับช่วงฐานล้อ (ระยะห่างระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง) มีขนาดค่อนข้างสั้น ทำให้นักบิดมือใหม่นั้นควบคุมและทรงตัวรถได้ยากกว่าปกติ และด้วยความที่มันไม่มี ABS แต่เบรกหน้านั้นใช้จานเบรกขนาด 330 mm ทำงานในการหยุดรถร่วมกับพอท 4 จุด ซึ่งเวลาเราเบรกกระทันหัน หรือว่าเบรกหนักๆ มันจะทำการล็อกมากเกินกว่าความจำเป็น และอาจจะทำให้เกิดอาการล้อตายได้ง่าย หากกำลังสนใจรถรุ่นนี้อยู่ให้ลองมองตัว CBR 600RR เป็นทางเลือกจะดีกว่า
คันที่ 2 Kawasaki ZX10R (ปี 2004-2005)
เจ้ายักษ์เขียวขนาด 1 ลิตรคันนี้เป็นที่รู้จักกันดีทีเดียวในแวดวงนักบิดบ้านเรา ด้วยสเปกของตัวรถและท่าทางในการขับขี่ที่ถอดแบบมาจากตัวสำหรับลงสนามแข่ง และขอบอกเลยว่าความเร็วของมันนั้นบ้าคลั่งเอามากๆ ด้วยแรงม้าที่มหาศาลและน้ำหนักตัวที่เบามาก ทำให้บิดๆ ไปเพลินๆ เผลอแป๊บๆ ไมล์จะเตะ 200 เอาง่ายๆ และช่วงฐานล้อที่สั้นอีก ทำให้การคอนโทรลนั้นไม่ง่ายเลย ฟีลโดยรวมมันจะเป็นรถที่ดุดันมากๆ อย่าว่าแต่มือใหม่ ขนาดคนที่เคยมีประสบการณ์ขี่รถบิ๊กไบค์มาก่อนบางทียังพลาดให้เห็นกันกับเจ้า ตัวนี้มาแล้ว ประกอบกับจานเบรกที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้เวลาต้องการจะลดความเร็วลงแบบกระทันหันทำได้ไม่ค่อยดีนัก (ระยะเบรกยาวไปนั่นเอง) ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่ต้องการจะครอบครองเจ้าคันนี้เป็นรถคันแรกนั้น นอกจากมีตังค์แล้วจะต้องไม่กลัวตายด้วย
คันที่ 3 Ducati Streetfighter 1098 (ปี 2009)
มีรถมากมายหลายรุ่นของค่ายดูคาติในช่วงหลังมานี้ ที่พยายามทำออกมาเพื่อตอบสนองผู้ใช้งานในหลายๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Diavel ที่เอาใจคอเดินทาง, Monster เอาใจวัยโจ๋ หรืออย่าง Hypermotard ที่เป็นที่นิยมสำหรับขาลุย แต่ว่าหนึ่งในนั้นก็คือเจ้ารถเนกเกตคลาสใหญ่อย่าง Streetfighter ที่เอาเครื่องยนต์ถอดมาจากเครื่องสำหรับสเปคในสนามแข่ง superbike ขนาด 1099cc ของทางค่าย โดยแทบจะไม่ได้ทำการปรับจูนอะไรเลยเพื่อให้มันเหมาะสำหรับการใช้งานสำหรับใน เมือง ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเอามากๆ ด้วยทอร์ค (แรงบิด) ที่มหาศาล กับรถทรงนี้ที่ไม่มีชิลด์หน้า มันสามารถสร้างความหวาดหวั่นให้กับผู้ขับขี่มือใหม่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีเลย ที่จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นจิตตกตั้งแต่รถคันแรก
คันที่ 4 Suzuki Hayabusa GSX1300R (1999)
เจ้าพญาเหยี่ยวคันนี้แม้ว่าดูผิวเผินมันเหมือนกับจะเป็นรถทรงสปอร์ตทัวร์ริ่งที่ น่าจะเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เมื่อในยุคที่มันรุ่งเรือง มันถูกทั่วโลกยอมรับให้เป็นจ้าวแห่งความเร็วของสองล้อ อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ด้วยความเร็วท็อปสปีดที่สูงแบบจัดๆ เนื่องด้วยในช่วงปีนั้นยังไม่มีตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็วบนท้องถนนออกมา ทางค่ายซูฯ เลยจัดเต็ม ด้วยความเร็วปลายที่สามารถเร่งได้เกิน 320 กม./ชม. อย่างไม่ยากเย็นนัก แค่นี้ก็เป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความว่ามันไม่เหมาะกับนักบิดมมือใหม่แน่ๆ
คันที่ 5 Suzuki GSX-R1000 (2005-2006)
ไม่ต้องมีข้อโต้แย้งใดๆ สำหรับคันนี้ เพราะว่ามันคือรถแนว superbike ที่ได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวาง เพราะว่ามันสามารถเอาชนะในการแข่งขันมาหลายรายการแล้วในคลาสนี้ ด้วยความร้อนแรงของมันนี่เองทำให้เจ้า GSX-R ยังคงวนเวียนกันอยู่ในตลาดรถมือสองมาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับมือใหม่แล้วมันก็เหมือนกับม้าพยศที่ปราบได้ยากดีๆ นี่เอง ตัวแฮนด์ของรถนั้นแม้ว่าจะมีความแม่นยำสูง แต่ว่ามันจะไม่ให้อภัยกับผู้ที่ทำพลาดในการหักเลี้ยว ประกอบกับเครื่องยนต์ที่มีขนาดแรงม้ามากถึง 175 ตัว พูดง่ายๆ ก็คือมันเป็นรถที่เหมาะจะลงแข่งในสนามมากกว่าเอามาใช้งานจริงๆ
ด้วยความเคารพ มือใหม่ทุกท่านควรจะตระหนักถึงข้อนี้ให้ดี รถบิ๊กไบค์ที่เหมาะกับมือใหม่ยังมีในท้องตลาดให้เลือกอีกเยอะ ทั้งมือหนึ่งและมือสอง บางครั้งเราจะต้องประเมินตัวเราเองให้ออกว่าเราสามารถขับขี่ได้ถึงขนาดไหน ไม่จำเป็นต้องเชื่อคำยุจากเพื่อนๆ หรือคำพูดของบางคนที่ว่าซื้อทีเดียวให้จบไปเลย ชีวิตของเราเองเราต้องตัดสินใจเอง ตอนที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมานั้นไม่มีใครช่วยเราได้ ขอให้ทุกท่านขับขี่ปลอดภับทุกเส้นทางครับ
ขอบคุณภาพจาก rideapart.com autodeft.com pantip.com haymarketindia.net honda
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience