5 สิ่งที่น่าสนใจของ Yamaha ในงาน Japan Mobility Show 2023
งาน Japan Mobility Show ถือว่าเป็นเวทีสำคัญอย่างยิ่งของแบรนด์ผู้ผลิตยานยนต์ ในการแสดงศักยาภาพของแบรนด์ ทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมไปถึงการโชว์นวัตกรรมที่ทางแบรนด์ได้ลงมือลงแรงพัฒนาในช่วงเวลาหลายๆ ปีที่ผ่านมา ดังนั้นเวทีนี้จึงเปรียบเสมือนกับเวทีปล่อยของของบริษัท
เช่นเดียวกับ Yamaha ผู้ผลิตยานพาหนะสัญชาติญี่ปุ่น ที่จะเข้าร่วมงานนี้เหมือนเช่นที่เคยผ่านมา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ ทางบริษัทได้เปิดเผยรายชื่อของผลิตภัณฑ์ที่จะถูกนำเสนอบนเวที ซึ่งมีทั้งรถแนวคิดหรือที่บริษัทจะเรียกว่า “reference vehicles” กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับการแข่งขันหรือ “competition machine” และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ ผลิตภัณฑ์ที่จะมาในเร็วๆ นี้หรือ “upcoming production vehicle”
มาเริ่มกันที่โมเดลแรก Yamaha Motoroid2 เป็นโมเดลรุ่นพัฒนาจาก Motoroid ที่เคยเปิดตัวมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ตามข้อมูลของ Yamaha ได้เปิดเผยว่า ตัวผลิตภัณฑ์นั้นจะมีความแตกต่างออกไปจากผลิตภัณฑ์ทั่วๆไป สรุปโดยย่อคือ ” Motoroid2 เป็นยานพาหนะเพื่อความคล่องตัวส่วนบุคคลที่สามารถจดจำเจ้าของ ลุกขึ้นจากขาตั้ง และเคลื่อนที่เคียงข้างผู้ขับขี่ แต่ยังให้ความรู้สึกเหมือนมีชีวิตอย่างชัดเจนเมื่อมีคน และมีลักษณะเหมือนเพื่อนร่วมทางตลอดชีวิต”
Yamaha ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Active Mass Center Control System” หรือ AMCES โดยเป็นหัวใจหลักของความสามารถของ Motoroid2 ไม่ว่าจะเป็นการปรับสมดุลในตัวเองและการจดจำใบหน้า เป็นต้น ในอนาคต Yamaha กล่าวว่า “อุดมคติในการพัฒนามุ่งหวังที่จะมอบความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ใช้เมื่อพวกเขาได้เป็นหนึ่งเดียวกับเครื่องจักรของพวกเขาอย่างแท้จริง”
สิ่งที่น่าสนใจต่อมาคือ Yamaha Tricera รถสามล้อแบบนั่งขับที่มีแกนบังคับแบบพวงมาลัย ตัวรถนั้นมีความใกล้เคียงกับ Polaris Slingshot แต่มีที่โค้งมนและมีมุมน้อยลง Tricera จะใช่ระบบส่งกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ และที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือตัวรถสามารถเลือกที่จะยังขับล้อหลังได้อย่างอิสระ
มาต่อกันที่ Yamaha ELove เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ใช้ประโยชน์จากการพัฒนาระบบ Advanced Motorcycle Stabilization Assist System (AMSAS) เพื่อสร้างรถสองล้อที่ทรงตัวในตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ Yamaha กล่าวว่าสิ่งนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลกับความยากลำบากในการทรงตัวที่ความเร็วต่ำหรือเมื่อหยุดรถ ตัวรถจะมีลักษณะการทำงานด้วยมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้า โดยนำเสนอผ่านการมองเห็นสภาพแวดล้อมในการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ตอบสนองกับผู้ขับขี่หน้าใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ เช่นเดียวกับผู้ขับขี่ที่มีความพิการซึ่งอาจไม่เคยสามารถขี่รถสองล้อมาก่อนได้
ยังคงอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระบบส่งกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กับเจ้า Yamaha E-FV ซึ่งย่อมาจาก ย่อมาจาก “Electric Fun Vehicle” หากมองอย่างใกล้ชิดกับตัวถังของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มันเป็นรถมินิไบค์และใช้ระบบส่งกำลังแบบเดียวกับ Yamaha TY-E รถมอเตอร์ไซค์ trials bike พลังงานไฟฟ้า ที่เคยโชว์ตัวมาแล้วหลายครั้ง นอกจากนี้ยังเพิ่มเทคโนโลยี Active Sound Control ของ Yamaha Corporation ซึ่งจะเป็นการจำลองเสียงการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งจะทำงานสอดคล้องกับคันเร่ง เพื่อให้ได้อารมณ์ของรถมอเตอร์ไซค์ดั้งเดิมที่คุ้นเคย
โมเดลสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด Yamaha TMW โมเดลต่อยอดความสำเร็จของการนำเสนอระบบ Leaning Multi-Wheel (LMW) โดยครั้งนี้ TMW จะนำเสนอผ่านตัวรถที่ถูกตั้งค่าเพื่อใช้งานในรูปแบบ Dual-Purpose และมาพร้อมกับขุมกำลังแบบไฮบริดที่จริงจังมากขึ้น โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันของ เครื่องยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้าแบบคู่ ที่ติดตั้งที่ล้อหน้าทั้งสองข้างของตัวรถ ซึ่งส่งผลให้ตัวรถมีระบบขับเคลื่อนแบบอิสระหน้าและหลัง สอดคล้องกับการทำงานในเชิงออฟโรดที่มากขึ้น ให้อารมณ์แบบรถ ATV แต่แตกต่างกันตรงที่มีล้อเพียง 3 ล้อเท่านั้น
นอกจากนี้ Yamaha ยังมีการนำเสนอโมเดลใหม่ ที่เป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของบริษัทอีกหลายรุ่น และคาดว่าอย่างน้อยๆ 1 ใน 5 โมเดลที่จะนำเสนอบนเวทีนวัตกรรมนี้ จะถูกนำมาจัดแสดงในงาน Thailand Motor Expo 2023 ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ต่อต้นเดือนธันวาคมนี้อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
