Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

5 วิธีประหยัดน้ำมันแบบง่ายๆ

1 lower max speed

ในยุคปัจจุบัน รถมอเตอร์ไซค์มีหลากหลายรูปแบบทั้งรูปแบบที่เน้นการใช้งานทั่วไป เน้นความไว ความแรง แต่สิ่งที่ทุกๆ คนอาจจะมีเป้าหมายในใจเหมือนๆ กันก็คือรถคันไหนประหยัดน้ำมันมากที่สุด ณ จุดนี้ต้องบอกเลยว่า ไม่ว่ารถรุ่นไหนที่ว่าประหยัดน้ำมัน เมื่อเจอพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ไม่สอดคล้อง เจ้ารถคันนั้นก็อาจจะไม่ใช่รถที่ประหยัดน้ำมันแบบที่ต้องการ วันนี้ทีมงาน GreatBiker จะขอนำเสนอ 5 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพื่อนๆ ประหยัดน้ำมันกันครับ

1. ออกตัวด้วยความเร็วต่ำ

Ne0OUl.jpg

อาจจะทำให้เพื่อนๆ สับสนกันได้ ไอ้การออกตัวด้วยความเร็วต่ำมันคืออะไร อยากจะยกตัวอย่างให้เพื่อนๆ ได้เห็นภาพกัน เช่น การออกตัวหลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ควรใช้คันเร่งที่ไม่เปิดจนมากเกินไป หรือง่ายๆ คือ ไม่กระแทกคันเร่งในการออกตัว เพราะในการออกตัวในครั้งแรก หัวจ่ายน้ำมันจะทำงานแบบสม่ำเสมอจนกว่าเราจะเริ่มเปิดคันเร่งยิ่งเราเปิดมากเท่าไหร่อัตราการจ่ายน้ำมันที่ส่งไปยังห้องเผาไหม้ก็จะมีมากเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้รวมไปถึงการเบิ้ลคันเร่งด้วยนะครับ เราควรออกตัวให้สมูท ออกตัวด้วยความเร็วที่คงที่ ค่อยๆไต่ความเร็วขึ้นไปเรื่อย อย่าพยายามจัมป์รอบเครื่องยนต์ด้วยการกระแทกคันเร่งเพราะนอกจากจะเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุแล้ว อาจจะเกิดอันตรายจากการควบคุมรถไม่อยู่อีกก็เป็นได้

2. เลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับย่านความเร็ว

Ne0ENe.jpg

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ ยกตัวอย่างเช่นการที่เราขับรถขนาด 250 ซีซี และวิ่งยืนพื้นที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกียร์ที่เหมาะสมที่สุด คงไม่ใช่เกียร์ 3 อย่างแน่นอน เพราะในตำแหน่งเกีบร์ต่ำแบบนี้การจำกัดรอบของเครื่องยนต์จะมีน้อยตามจำนวนเกียร์ ยิ่งเราลากเกียร์นานเท่าไหร่ รอบของเครื่องยนต์ก็จะพุ่งชน Redline ได้เร็วขึ้นเท่านั้น และยิ่งเราทำการลากไปนานๆ เข้า นอกเหนือจะสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว อัตราความร้อนสะสมในตัวเครื่อง และการสึกหรอของเครื่องยนต์ของเราก็จะมีสูงขึ้นอีกด้วย

3. รักษาความเร็วคงที่

Ne0ocE.jpg

ความเร็วเท่าไหร่ที่เราจะรู้สึกได้ว่าประหยัดน้ำมัน จากการศึกษาของหลายๆ สถาบันวิจัยได้ลงความเห็นไว้ว่าเครื่องยนต์ที่มีความเร็วไปเกิน 90 กิโลเมตร หรืออัตราหมุนที่ไม่ต่ำกว่า 6,500 รอบและไม่เกิน 8,000 รอบต่อนาที จะเป็นช่วงที่เครื่องยนต์มีอัตราบริโภคน้ำมันต่ำที่สุด ซึ่งต้องบอกเลยว่านอกจากความเร็วในระดับนี้นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังเป็นความเร็วปกติที่เรายังสามารถควบคุมและหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ดีอีกด้วย

4. พยายามใช้ก้านเบรกให้น้อยที่สุด

Ne0b8k.jpg

เรื่องนี้อาจจะต้องใช้ความชำนาญเล็กน้อย เพราะอย่างที่หลายๆ คนทราบกันดี ระบบเบรกในรถมอเตอร์ไซค์มีด้วยกัน สามส่วน 1. เบรกหน้า 2. เบรกหลัง และ 3. Engine Brake โดยทั้งสามอย่างนี้จะต้องทำงานสอดคล้องกัน ซึ่งในระบบเบรกที่ 3 หรือ Engine Brake ถือว่าเป็นระบบเบรกมาตรฐานที่ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ต้องฝึกใช้งานให้ครล่องแคล่ว แล้วการใช้ก้านเบรกมันจะทำให้รถเราเปลืองน้ำมันได้อย่างไร สิ่งแรกที่เราต้องเข้าใจในการทำงานของระบบเบรกก่อน เบรกหน้าและหลังนั้นจะเป็นการก้ามล้อทั้งสองล้อแตกต่างกับ Engine Brake ที่ใช้เป็นการฉุดด้วยรอบเครื่องยนต์ การห้ามของล้อคือการบังคับให้ล้อมีจำนวนรอบที่หมุนน้อยลง และมันทำให้แรงจากระบบส่งกำลังสุดท้ายที่ส่งไปยังล้อขับเคลื่อนต้องส่งแรงมากขึ้นหลังจากการเบรก และมันก็ส่งผลโดยตรงกับระบบจ่ายน้ำมันที่ส่งเข้าไปยังกระบวนการเผาไหม้เพื่อสร้างแรงขับ ดังนั้นแล้วการใช้เบรกหน้าและหลังนั้นควรใช้ในจังหวะที่เราต้องการหยุดหรือชะลอตัวรถจริงๆ และหากต้องการการลดความเร็วจากระดับสูงลงมาระดับกลางอยากให้เพื่อนๆได้ลองใช้งาน Engine Brake กันสักหน่อยก็จะช่วยให้เพื่อนๆประหยัดน้ำมันได้สักนิดก็ยังดีนะครับ ส่วนในกรณีของรถสกู๊ตเตอร์หรือ Automatic ก็สามารถทำได้เช่นกันนะครับ แต่ในจังหวะที่เราลดความเร็วลงมาแล้วต้องการเปิดคันเร่งทั้งรถเกียร์และออโต้ ก็พยายามค่อยๆ เปิด อย่ากระแทกสวนล่ะเดี๋ยวหงายท้องจะหาว่าพวกเราไม่เตือน

5. ซื้อรถโมเดลใหม่ๆ

Ne0l0v.jpg

หัวข้อนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อประชดใครนะครับ แต่อย่างที่เรารู้ๆ กัน ในรถสมัยใหม่นี้มีระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีกว่ารุ่นเก่าๆ เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Honda ที่มีหัวฉีด PGM-Fi หรือค่าย Yamaha ที่มี Blue Core เทคโนโลยีที่ช่วยในการควบคุมสมดุลของระบบจ่ายน้ำมัน และสามารถจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้เหมาะสมกับอัตราความเร็วของรอบเครื่องยนต์ หรือเทคโนโลยีจากแบรนด์อื่นๆ ทั้งจากฝั่งยุโรปหรือเอเชีย ก็มีแทบจะทุกค่าย ส่วนรถที่ยังใช้ระบบคาร์บูเรเตอร์โมเดลใหม่ๆในท้องตลาดนั้น ก็คงจะต้องใช้ 4 ข้อที่เรานำเสนอไปในข้างต้นควบคู่เพื่อให้ประหยัดน้ำมันได้มากที่สุด

Ne0eBa.jpg

ทั้งหมดนี้เป็น 5 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพื่อนๆ ในการประหยัดน้ำมัน รวมไปถึงลดการสึกหรอของเครื่องยนต์และการลดอุบัติเหตุไปในตัว หากเพื่อนๆได้ลองนำเอาไปทดลองใช้กัน ทำหนึ่งได้ถึงสามแบบนี้ เรียกได้ว่าดีทั้งรถดีทั้งคน และดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยครับ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.visordown.com