Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

เปิดตัว Zontes 350D และ Zontes 350E บิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ อย่างเป็นทางการ

เปิดตัว Zontes 350D และ Zontes 350E บิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ อย่างเป็นทางการ

Zontes Malaysia ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดในประเทศ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Maxi-Scooter พร้อมกันทีเดียว 2 รุ่น ประกอบด้วย Zontes 350D และ Zontes 350E อย่างเป็นทางการในประเทศมาเลเซีย

dWk6n1q.jpeg
Zontes 350D

dWk6VkR.jpeg
Zontes 350E

Zontes 350D และ Zontes 350E ทั้งสองโมเดลจะใช้พื้นฐานหลายๆ อย่างร่วมกัน แต่ก็จะมีความแตกต่างในบางส่วน โดยทั้งคู่จะใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ 1 ลูกสูบ ขนาด 349 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ให้กำลัง 36 แรงม้า (hp) และแรงบิด 38 นิวตันเมตร ทำให้มั่นใจได้ถึงการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ

dWk6rAz.jpeg
dWk68L8.jpeg

ในความแตกต่างของทั้งสองรุ่น Zontes 350D มีน้ำหนัก 190 กิโลกรัม ถังน้ำมันขนาด 12 ลิตร การขับขี่ในโหมด Eco สามารถเดินทางได้ประมาณ 400 กิโลเมตร ตัวรถจะมีสองตัวเลือกสีตัวถังประกอบด้วย สีเงินและสีดำ ในขณะที่ Zontes 350E ตัวรถจะมีน้ำหนักที่มากกว่า โดยมีน้ำหนักรวม 203 กิโลกรัม และมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่า ถังน้ำมันขนาดใหญ่ขึ้นด้วยความจุ 16 ลิตร รองรับการขับขี่ในระยะทางที่ไกลขึ้น และยังเสริมความสะดวกสบายด้วยพื้นที่เก็บของใต้เบาะนั่ง ที่มีความจุ 50 ลิตร สามารถบรรจุหมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้พร้อมๆ กันทีเดียว 2 ใบ นอกจากนี้ 350E ยังมีช่องเก็บของด้านหน้าขนาด 2 ลิตร สามารถบรรจุขวดน้ำขนาด 650 มิลลิลิตร ได้พร้อมกัน 2 ขวด

dWk6uMa.jpeg

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมฟังก์ชันสตาร์ทแบบไม่ใช้กุญแจ เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น กระจกบังลมที่ปรับด้วยระบบไฟฟ้า ในขณะที่พอร์ตชาร์จ USB คู่ 18W รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Type A และ Type C ทำให้สะดวกสบายในการชาร์จอุปกรณ์พกพา หน้าจอแสดงผลทั้งสองรุ่นจะเป็นแบบ TFT พร้อมความสามารถในการสะท้อนโทรศัพท์มือถือ ความปลอดภัยและประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญยิ่งใน Zontes 350D และ 350E หน้าที่ในการเบรกถูกควบคุมโดยคาลิปเปอร์เบรกสี่ลูกสูบแบบเรเดียลเมาท์ของ J.Juan ที่จับคู่กับดิสก์เบรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

dWk6C6f.jpeg

ระบบ ABS แบบ 2 แชนแนลเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ให้พลังในการหยุดรถอย่างมั่นใจ และจากนี้ยังมีระบบ traction control ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง และระบบไฟ LED รอบคัน ที่ให้ความสว่างสูงพร้อมด้วยไฟระบุตำแหน่งตัวรถที่มองเห็นได้ง่ายในทุกๆ สภาพอากาศ

dWk6sYJ.jpeg

ทั้งสองโมเดลพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศมาเลเซียก่อนสิ้นปี 2023 นี้ โดยทางผู้นำเข้ายังไม่มีการเปิดเผยเรื่องของราคาจำหน่าย โดยสื่อของประเทศมาเลเซียเองคาดว่า ตัวรถจะพร้อมจำหน่ายในเดือนตุลาคม และคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 23,800 ริงกิต หรือประมาณ 181,444 บาท

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bikesrepublic.com