Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

ข้อมูลใหม่ของ Kawasaki Ninja E-1 และ Z E-1 ก่อนลุยตลาดยุโรปเร็วๆ นี้

ข้อมูลใหม่ของ Kawasaki Ninja E-1 และ Z E-1 ก่อนลุยตลาดยุโรปเร็วๆนี้

หลังจากผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน CE ในออสเตรเลีย เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ดูเหมือนว่า ค่ายยักษ์เขียว Kawasaki จะกำลังเตรียมตัวเพื่อส่งสองโมเดลพลังงานไฟฟ้า Ninja E-1 และ Z E-1 เข้าสู่ตลาดยุโรปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

dWprtWt.jpeg

Kawasaki เตรียมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก โดยจะนำเสนอ Ninja E-1 และ Z E-1 สองโมเดลที่อยู่คู่กับบริษัทมานานทั้งในรุ่นที่ใช้งานเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยที่ตัวรถทั้งสองจะใช้องค์ประกอบแะพื้นฐานที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งจะแตกต่างกันที่สไตล์ของตัวรถ โดย Ninja E-1 จะมาพร้อมกับรูปแบบของรถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งและ Z E-1 จะเป็นเนกเกตไบค์ ทั้งสองจะถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่และประสิทธิภาพที่เทียบเคียงกับรถมอเตอรไซค์ขนาดเครื่องยนต์ 125 ซีซี ซึ่งต้องมีใบขับขี่แบบ A1 License สำหรับการใช้งานในยุโรป

หัวใจสำคัญของทั้งสองโมเดลคือมอเตอร์ขนาด 5 kW ซึ่งสามารถส่งกำลังได้สูงสุด 9 kW หรือเทียบเท่ากับ 12.1 แรงม้า (bhp) พร้อมด้วยแรงบิด 40.5 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่แบบถอด ซึ่งทั้งสองโมเดลจะใช้แบตเตอรี่แบบคู่ขนาด 30Ah ทำให้แบตเตอรี่รวมจะอยู่ที่ 60Ah ด้วยแรงดันไฟฟ้าที่กำหนดที่ 50.4V การกำหนดค่านี้ทำให้สามารถกักเก็บพลังงานได้สูงสุด 3.024kWh

dWprKek.jpeg

จากข้อมูลที่ผู้ผลิตเปิดเผย บอกว่าอัตราสิ้นเปลืองพลังงานของทั้งสองโมเดลจะเฉลี่ยอยู่ที่ 49Wh ต่อ 1 กิโลเมตร ซึ่งหมายถึงระยะทางที่เป็นไปได้ที่ 61.7 กิโลเมตรต่อชาร์จ อย่างไรก็ตาม ภายใต้เงื่อนไข WMTC คลาส 1 ทาง Kawasaki อ้างว่าสามารถวิ่งได้ 72 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 รอบ แบตเตอรี่แต่ละก้อนมีน้ำหนัก 11.5 กิโลกรัม และใช้เวลาชาร์จบนสถานีแรงดันไฟ 50V จะใช้เวลาในการชาร์จจาก 0-100% ด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 42 นาที

มาดูถึงโครงสร้างตัวรถกันสักหน่อย แชสซีของทั้งสองโมเดลจะสร้างบนโครงสร้างแบบ steel trellis frame ที่เหมือนกัน เช่นเดียวกับระบบช่วงล่าง ทั้งระบบกันสะเทือนหน้าหลัง ระบบเบรก ก็จะเหมือนกัน โดยที่ระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นแบบ telescopic มาตรฐานขนาด 41 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบ Uni-Trak ที่ทำงานร่วมกับ Sub-Tank แบบแก๊สพร้อมสปริงปรับพรีโหลดได้ ส่วนระบบเบรกจะเป็นแบบดิสก์เดี่ยวทั้งหน้าและหลัง ด้านหน้าจะมีขนาด 290 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรก 2 พอร์ท ด้านหลังขนาด 220 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรกแบบพอร์ตเดี่ยว

dWpr1Al.jpeg

ในแง่ของข้อมูลจำเพาะ Ninja มีน้ำหนักอยู่ที่ 140 กิโลกรัม ซึ่งหนักกว่ารุ่น Z ที่มีน้ำหนัก 135 กิโลกรัมทั้งสองคันมีความสูงเบาะนั่งที่สะดวกสบายอยู่ที่ 785 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเท่ากันที่ 1,370 มิลลิเมตร ในขณะที่ Z มีระยะห่างจากพื้น 170 มิลิลเมตร มากกว่า Ninja ที่มีความสูง 160 มิลลิเมตร ทั้งสองรุ่นจะใช้ขอบล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้วเหมือนกัน และสวมด้วยยาง 100/80-17M/C 52S และ 130/70-17M/C 62S เหมือนกัน

dWprckv.jpeg

ในแง่ของคุณสมบัตินั้น ทั้งสองโมเดลจะมาพร้อมกับโหมดการขับขี่มาตรฐาน 2 โหมด ประกอบด้วย Eco และ Road ซึ่งทั้งสองโมเดลจะถูกจำกัดความเร็วผ่านโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกัน โดย Ninja E-1 ในโหมด Eco ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ Z E-1 ทำได้ที่ 62 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทั้งสองจะมีโหมดพิเศษที่เรียกว่า E-Boost ซึ่งจะเป็นการเร่งความเร็วสูงสุดชั่วคราว โดยทั้งสองรุ่นจะมีขีดจำกัดสูงสุดที่ 99 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่ากัน

dWprw1e.jpeg

อย่างไรก็ดี สื่อต่างประเทศคาดว่าตัวรถ Kawasaki Ninja E-1 และ Z E-1 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน EICMA SHOW 2023 ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการทำตลาดก่อนสิ้นปี 2023 นี้ อย่างแน่นอน ส่วนราคานั้นยังไม่มีการเปิดเผย แต่คาดว่าจะมีราคาที่สูงกว่ารุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในพอสมควร

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bikesrepublic.com