เปิดตัว Bimota TERA 2024 บิ๊กไบค์ทัวร์ริ่ง เครื่องซุปเปอร์ชาร์จ อย่างเป็นทางการ
Bimota ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ Exotic Bike จากประเทศอิตาลี ได้ใช้เวทีในงาน EICMA 2023 สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Bimota TERA 2024 ที่มาพร้อมกับรูปแบบของรถสปอร์ตทัวร์ริ่ง และโดดเด่นด้วยขุมกำลังซุปเปอร์ชาร์จ
Bimota TERA 2024 ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตทัวร์ริ่งคันแรกของทางค่าย โดยเดิมทีแล้ว Bimota ได้ประกาศความร่วมมือกับ Kawasaki ในการพัฒนารถมอเตอรไซค์มาตั้งแต่ปี 2021 โดยได้ร่วมกันผลิตรถมอเตอร์ไซค์ออกมาแล้วมากมาย และเจ้า TERA 2024 ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ได้รับผลประโยชน์จากการร่วมมือในครั้งนี้
ตัวรถ Bimota TERA 2024 มาพร้อมกับรูปแบบงานออกแบบที่ได้สัดส่วน โดยใช้โครงสร้างแบบ Aluminum alloy plates billet machined ผสมผสานกับการตกแต่งรายละเอียดด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ในหลายส่วน โดยจะมาพร้อมกับแฟร์ริ่งแบบครึ่งท่อน ที่จะเปิดในสว่นของเครื่องยนต์ให้เห็นได้อย่างชัดเจน โดยมีแฮนด์รถสูงตามหลักสรีรศาสตร์ กระจกบังลมทรงสูง และยังมีอุปกรณ์เสริมที่หลากหลายเพื่อรองรับการเดินทางในระยะไกล
ไฮไลท์สำคัญของเจ้า TERA 2024 คันนี้คือระบบช่วงล่างของตัวรถ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร โดยทางผู้ผลิตได้เลือกใช้งานสวิงอาร์มหรือระบบบังคับเลี้ยวแบบดุมล้อ ที่พ่วงเข้ากับชุดโช้คอัพเดี่ยวจาก Ohlins รุ่น TTX36 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมกับระบบเบรกจาก Brembo Sylema ที่ถือว่าเป็นอุปกรณ์ขั้นสูงที่ติดตั้งบนตัวรถมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบัน
ในขณะที่ขุมกำลังนั้น จะเป็นการยกเครื่องยนต์ซุปเปอร์ชาร์จขนาด 999 ซีซี 4 ลูกสูบเรียง DOHC 16 วาล์ว มาจาก Kawasaki Z H2 ที่สามารถรีดกำลังสูงสุดได้ 200 แรงม้า (PS) ที่ 11,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 137 นิวตันเมตร ที่ 8,500 รอบต่อนาที
สำหรับคุณสมบัติของระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น จะมีความใกล้เคียงกับ Z H2 รวมถึงฟังก์ชันการจัดการการเข้าโค้ง (KCMF) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน KTRC (3 โหมด); เปิดตัวโหมดควบคุม (KLCM); ระบบเบรก ABS (KIBS); ระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติ Quick Shifter (KQS) และโหมดการขับขี่ ที่ยกชุดมาจากค่ายยักษ์เขียวแทบจะทั้งหมด
มาถึงเรื่องสุดท้ายคือเรื่องของราคาจำหน่าย โดยทางผู้ผลิตเองยังคงไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่สื่อยานยนต์จากฝั่งยุโรป ลงความเห็นว่า ตัวรถที่พร้อมจะผลิตจริงในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 นั้น คาดว่าจะมีมูลค่าที่มากกว่า 50,000 ยูโร หรือราวๆ 1.9 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะรถมอเตอร์ไซค์ค่ายนี้มักจะมีราคาที่สูงกว่าท้องตลาดอยู่แล้ว
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก warungasep.net
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.