Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

เจาะลึกรายละเอียดของ HONDA CB350 DLX และ DLX PRO 2024

เจาะลึกรายละเอียดของ HONDA CB350 DLX และ DLX PRO 2024

จัดว่าเป็นอีกหนึ่งรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกที่กลายเป็นกระแสในแวดวงคนที่หลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์แนวย้อนยุคอย่างมาก สำหรับ Honda CB50 DLX และ DLX PRO ที่พึ่งเปิดตัวในประเทศอินเดียไปเมื่อสัปดาห์ก่อน และเราจะขอพาเพื่อนๆไปเกาะกระแสของรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ ว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

d0ZKizt.jpeg

Honda CB50 DLX และ DLX PRO ถูกจัดให้เป็นรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทาง Classic Roadster แบบเต็มตัว โดยใช้พื้นฐานมาจาก CB350 H’ness ที่เปิดตัวเมื่อสองปีก่อน และนับว่าเป็นอีกหนึ่ง variant จากซีรี่ส์ CB350 ร่วมกับ CB350 H’ness และ CB350RS โดยที่ CB50 DLX และ DLX PRO โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูคลาสสิกมากขึ้น ด้วยโช้คหน้าแบบมีส่วนครอบ บังโคลนหน้าและหลังแบบลึก และเบาะนั่งแยกส่วน รูปลักษณ์ของรถจึงสามารถกล่าวได้ว่าเป็นคู่แข่งกับ Royal Enfield Classic 350

d0ZK4Eb.jpeg

แม้ว่าตัวรถจะใช้ธีมแบบน้อนยุคในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ตัวรถก็มีความทันสมัย ด้วยการใช้อุปกรณ์สมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยวเป็นแบบ LED หน้าจอแสดงผลแบบไฮบริด ที่มีส่วนผสมของหน้าจอแบบอะนาล็อกเข็มนาฬิกา และแผง LCD ขนาดเล็ก โดยที่รุ่น DLX PRO จะมาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษ HSVCs ในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รวมไปถึงระบบควบคุมการหมุนแรงบิด HSTC (Honda Selectable Torque Control)ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยรุ่นใหม่นี้จะมีสัญลักษณ์แจ้งเตือนเรื่องขาตั้งรถด้วย เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานอีกระดับd0ZKNXf.jpeg

ในขณะที่เครื่องยนต์นั้น จะใช้มาตรฐานเดียวกับในซีรี่ส์ CB350 ด้วยขุมกำลังแบบ OHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ 1 ลูกสูบ ขนาด 348.36 ซีซี ให้กำลัง 21.1 แรงม้า (PS) โดยมีการปรับปรุงเรื่องของระบบไอเสียใหม่ ซึ่งจะเปลี่ยนในส่วนของท่อไอเสียจากเดิมมาใช้แบบ Cabton ซึ่งจะให้เสียงการทำงานที่นุ่มนวลกว่าท่อเดิม

d0ZKKkZ.jpeg
d0ZKfYa.jpeg
d0ZKk6z.jpeg

ในส่วนของสีสันในการจำหน่ายนั้น CB350 DLX และ DLX PRO มีให้เลือก 5 สี โดยรุ่น DLX PRO จะมาพร้อมเบาะหนังสีน้ำตาล บังโคลนหน้าสีเดียวกับตัวรถ กล่องไฟหน้าชุบ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่แพ็กเกจเสริมพิเศษ “Solo Spec” จะมีการติดตั้งกระจกบังลมและส่วนรองรับด้านหลัง และมีแพ็กเกจเสริม “Tourer” ที่มีพนักพิง การ์ดเครื่องยนต์ที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเสริมมาให้พิเศษ

d0ZKtA0.jpeg
d0ZK3M8.jpeg
d0ZKZEI.jpeg

สุดท้ายคือเรื่องของราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ Honda India จำหน่าย CB350 DLX รุ่นมาตรฐานด้วยสนนราคา 199,900 รูปี คิดเป็นเงินไทยจะตกอยู่ที่ 84,114 บาท ซึ่งจะถูกกว่า CB350 H’ness และ CB350RS ที่วางจำหน่ายควบคู่กันไป และรุ่น CB350 DLX Pro จะวางราคาอยู่ที่ 217,800 รูปี หรือประมาณ 91,650 บาท ซึ่งจะแพงกว่า CB350 H’ness แต่จะมีราคาที่พอๆ กับ CB350RS ส่วนการทำตลาดในต่างประเทศนั้น คาดว่าประเทศต่อไปที่โมเดลนี้จะเข้าสู่ตลาดคือประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการจำหน่าย GB350 เป็นโมเดลพิเศษแล้ว และคาดว่าจะเข้าไปจำหน่ายในแดนปลาดิบภายใต้ชื่อ “GB350C” ตามที่ถูกจดสิทธิ์ในตราสินค้าไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.autoby.jp