Ninja 300 VS CBR 300R VS Yamaha YZF-R3
ปัจจุบันบิ๊กไบค์ในบ้านเรานั้นถือว่ามองหาและจับจองมาเป็นเจ้าของได้ไม่ยากเหมือน เมื่อก่อนแล้ว หากจะมามองถึงรถบิ๊กไบค์ในพิกัดเครื่องยนต์ขนาด 300 ซีซี วันนี้ทีมงาน GreatBiker เราจึงอยากจะนำที่สุดในรุ่นของแต่ละค่ายมาสู้กันสักหน่อย แต่ก็คงจะหนีไม่พ้น 3 ค่ายดังนั่นก็คือ ค่ายยักษ์เขียวอย่าง Kawasaki ค่ายปีกนกอย่าง Honda และค่ายสุดท้ายที่ถือว่าปีนี้วางแผนเปิดตัวรถบิ๊กไบค์ให้ตื่นตาตื่นใจกัน อยู่ตลอดเวลา อย่าง Yamaha นั่นเอง ซึ่งล่าสุดก็เรียกความฮอตไปได้ไม่น้อยกับการเปิดตัว Yamaha R3 กันไปอย่างเป็นทางการ แล้วถ้าคุณกำลังลังเลไม่รู้จะเลือกรุ่นไหนดี วันนี้เราจะมาคุณไปทำความรู้จักกับทั้ง 3 รุ่นนี้กันเลย
อันดับแรกเรามาดูสิ่งที่เป็นหัวใจและความสำคัญของตัวรถกันก่อนเลย
เริ่มที่เจ้า Kawasaki Ninja 300 นั้นเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียง 4 จังหวะที่ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 296 ซีซี ให้แรงม้าอยู่ที่ 39 แรงม้า ซึ่งแน่นอนว่าสามารถตอบสนองแรงบิดได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นถึงช่วง กลาง เสริมด้วยอัตราเร่งที่เรียกว่าจัดจ้านในรอบสูง มาพร้อมกับระบบการจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด หันไปดูกันต่อที่ค่ายปีกนกกันบ้างอย่างเจ้า Honda CBR300R ที่ต้องบอกเลยว่า ถึงแม้จะเป็นเครื่องยนต์แบบสูบเดียวแต่ก็ถือว่าให้แรงบิดที่ทำได้ไม่น้อย หน้าไปกว่ากันสักเท่าไร ซึ่งบล็อคเครื่องยนต์นั้นให้มาแบบ 1 สูบ 4 จังหวะที่ก็ระบายความร้อนด้วยน้ำเช่นกัน ขนาดความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 286 ซีซี ให้แรงม้าอยู่ที่ 30.4 แรงม้า พร้อมระบบการจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI ลิขสิทธิ์เฉพาะของทางฮอนด้านั่นเอง และสุดท้ายท้ายสุดนั่นก็คือน้องใหม่ล่าสุดของเราเจ้า Yamaha YZF-R3 ซึ่งถือว่าได้เปรียบมากที่สุดในเรื่องของทั้งความจุกระบอกสูบซีซีเครื่องยนต์ที่ทำออกมาอยู่ที่ 321 ซีซี ให้กำลังแรงม้ามากที่สุดอยู่ที่ 42 แรงม้าแบบ 2 สูบเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ และระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ให้มาก็เป็นแบบหัวฉีดอีกเช่นกัน
สรุปแล้วในเรื่องของบล็อกเครื่องยนต์และกำลังแรงม้านั้น ถือว่า Yamaha YZF-R3 ได้เปรียบในเรื่องของขนาดความจุและแรงม้าที่มากกว่า ถัดมาก็จะเป็น Kawasaki Ninja 300 และ Honda CBR300R ตามลำดับนั่นเอง
ถัดมาเรามาดูกันต่อในเรื่องของรูปลักษณ์การออกแบบและดีไซน์ต่างๆ กันบ้าง
สำหรับเจ้า Kawasaki Ninja 300 ตัวล่าสุดนี้ถือว่าในเรื่องของการออกแบบและดีไซน์ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร มากมายนัก จะเปลี่ยนแปลงในส่วนของลวดลายกราฟฟิค ซึ่งเป็นลายฉลองครบรอบ 30 ปีมีความสวยงามมาก Kawasaki Ninja 300 ได้รับการถ่ายทอด DNA มาจาก Kawasaki Ninja ZX-6R, ZX-10R, ZX-14R ผสม ผสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าที่ออกแบบมาเป็นแบบ ไฟคู่หน้า ถัดขึ้นไปด้านบนมาพร้อมชิลหน้าที่ตัดรับกับก้านกระจกมองหลังได้อย่างลงตัว ตัวเรือนไมล์ ก็ออกแบบมาควบคู่ทั้งแบบดิจิตอลและอนาล็อคที่บอกถึงข้อมูลวัดรอบของเครื่อง ยนต์ พร้อมฟังก์ชั่นไฟแสดงสถานะต่างๆ ครบครันเลยทีเดียว แล้วเจ้า Honda CBR 300R ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน หากใครที่เคยเห็นหรือขับขี่เจ้า CBR 500R มาก่อนจะรู้ว่านี่แหละ มันได้รับแรงบันดาลใจและ DNA มาจากเจ้าตัวนี้นี่เอง ไฟหน้าคู่ที่ดูโฉบเฉี่ยว ดุดัน สวยงามแต่ลงตัวมากๆ ซึ่งก็ออกแบบมาให้พร้อมกับชิวหน้าที่รับกับตัวตำแหน่งของกระจกมองหลังได้ดี เช่นกัน สำหรับตัวเรือนไมล์ของเจ้า Honda CBR 300R สวยงามมากไม่น้อยกว่า Kawasaki Ninja 300 ด้วยเช่นกัน แสดงผลหน้าจอความเร็วด้วยจอ LCD พร้อมวัดรอบแบบอนาล็อคดูสปอร์ต เทห์ ล้ำสมัย แล้วน้องใหม่อย่าง Yamaha YZF-R3 ก็ ไม่ได้น้อยหน้าแต่อย่างใด ตัวเรือนไมล์ ด้านซ้ายเป็นตัววัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มวัดและด้านขวาเป็นแบบดิจิตอล ซึ่งเข้ากันอย่างสวยงามลงตัว
มาดูกันในเรื่องของระบบกันสะเทือน สำหรับเจ้า Kawasaki Ninja 300 คันนี้ ด้านหน้าให้มาเป็นโช้คอัพเทเลสโคปิค ขนาด 37 มม. และกันสะเทือนด้านหลังให้มาเป็นโช้คแก๊สเดี่ยว พร้อมแขนยึดยูนิแทรค ปรับได้ 5 ระดับ ส่วนเจ้า Honda CBR 300R คัน นี้ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าให้มาแบบโช้คอัพเทเลสโคปิค ขนาด 37 มม.และด้านหลังเป็นแบบโปรลิงค์สามารถปรับได้ 5 ระดับ และสุดท้ายเจ้า Yamaha YZF-R3 คันนี้ให้มาแบบโช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิค ขนาด 41 มม.ส่วนโช้คอัพด้านหลังเป็นแบบ monoshock
ระบบเบรกทั้งสามรุ่น จากสามค่ายให้มาพร้อมระบบ ABS โดยทั้ง Kawasaki Ninja 300 และ Honda CBR 300R เป็น แบบจานดิสก์เบรคเดี่ยวด้านหน้าขนาด 290 มม. และด้านหลังเป็นแบบคาลิปเปอร์ลูกสูบคู่ขนาด 220 มม. พร้อมระบบ ABS ด้วยเช่นกัน ในขณะที่ เจ้า Yamaha YZF-R3 เป็นแบบจานดิสก์เบรคเดี่ยวด้านหน้าขนาด 293 มม. และด้านหลังเป็นแบบคาลิปเปอร์ลูกสูบคู่ขนาด 220 มม. พร้อมระบบ ABS เรียกว่าไม่ต่างกันสักเท่าไร ภาพรวมแล้ว R3 จะได้ดิสก์ด้านหน้าที่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยเท่านั้น
มา ต่อกันในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม ขนาดยางของทั้ง 3 รุ่นให้ขนาดล้อยางมาเท่ากันคือ ล้อหน้า 110/70 ขอบ 17 นิ้ว ส่วนล้อหลัง 140/17 ขอบ 17 นิ้วเช่นกัน บอกได้เลยไม่มีใครยอมใคร ลายและล้อแม็กก็ให้มาตามดีไซน์การออกแบบให้เข้ากับรูปโฉมของตัวรถในแต่ละ ค่ายได้อย่างลงตัว มิติของตัวรถเริ่มที่เจ้า Kawasaki Ninja 300 นั้นจะมีมิติอยู่ที่ (ยาว x กว้าง x สูง 2,015 มม. x 715 มม. x 1,110 มม.) Honda CBR 300R จะมีมิติตัวรถอยู่ที่ (ยาว x กว้าง x สูง 2,033 มม. x 720 มม. x 1,119 มม.) และ Yamaha YZF-R3 จะมีมิติตัวรถอยู่ที่ (ยาว x กว้าง x สูง 2,090 มม. x720 มม. x 1,135 มม.) ดูแล้วเทียบกันก็มีความแตกต่างกันไม่มากเท่าไรถือว่ากินกันไม่ลงจริงๆ ด้วยความที่มันอยู่ในคลาสเดียวกันด้วยนั่นเอง
ส่วนในเรื่องของความจุน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น Kawasaki Ninja 300 มีความจุอยู่ที่ 17 ลิตร กับน้ำหนักตัวที่ 174 กิโลกรัม Honda CBR 300R มีความจุอยู่ที่ 13 ลิตร กับน้ำหนักตัวที่ 163 กิโลกรัม และ Yamaha YZF-R3 มี ความจุอยู่ที่ 14 ลิตร กับน้ำหนักตัวที่ 170 กิโลกรัม สรุปโดยภาพรวมแล้วถือว่า R3 อาจจะมีความจุที่น้อยไปหน่อยหากเทียบกับความจุของเครื่องยนต์ที่มากที่สุดใน กลุ่ม แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหลักแต่อย่างใด
อีก เรื่องหนึ่งที่เห็นจะไม่พูดคงจะไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของความสูงของตัวเรา จากพื้นขึ้นมาถึงเบาะนั่ง ด้วยความที่มันเป็นมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ทรงสปอร์ต ทำให้เป็นองค์ประกอบหลักของใครหลายๆ คนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อหรือไม่อย่างไร โดยเจ้า Kawasaki Ninja 300 นั้นมีความสูงเบาะอยู่ที่ 785 มม. ขณะที่ Honda CBR 300R และ Yamaha YZF-R3 มีความสูงเบาะอยู่ที่ 780 มม. ก็ถือว่าต่างกันไม่มาก
สำหรับการขับขี่ในแต่ละรุ่น แต่ละค่ายนั้น Kawasaki Ninja 300 และ Yamaha YZF-R3 อาจ จะออกแบบท่านั่งมาให้เหมือนกับการขับขี่รถสนาม ซึ่งข้อดีก็คือไม่ค่อยต้านมากนักสำหรับการขับขี่ ระหว่างตัวรถกับผู้ขับขี่นั่นเอง แต่ Honda CBR 300R อาจ จะได้เปรียบในเรื่องของท่านั่งที่สบายกว่า แต่ก็มีข้อติงอยู่บ้าง เนื่องจากมันเป็นเครื่องยนต์ 1 สูบ เรื่องความนิ่งในรอบเครื่องยนต์สูงๆ คงจะทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก แต่แรงต้นจะมาเร็วกว่า Kawasaki Ninja 300 และ Yamaha YZF-R3 นั่นเอง
สาระสำคัญก็อยู่ตรงนี้ด้วย นั่นก็คือเรื่องของราคา เริ่มจากเจ้า Yamaha YZF-R3 ที่สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 185,000 บาท ถัดมาก็จะเป็นคิวเจ้า Kawasaki Ninja 300 มีค่าตัวสนนราคาอยู่ที่ 182,500 บาท สุดท้ายเป็นคิวของค่ายปีกนกอย่างเจ้า Honda CBR 300R จะมีราคาค่าตัวสนนราคาอยู่ที่ 133,000 บาทเท่านั้น เรียกว่าราคานี้เร้าใจมากๆ สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน มันจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของชาวไบค์เกอร์เหมือนๆ พวกเรานั่นเอง….
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : bangkokmotorbikefestival.com, youtube.com, autospinn.com
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience