เปิดตัว Banda Darkflag พาวเวอร์ครุยเซอร์ 500 ซีซี ที่มาพร้อมขุมกำลัง V4
Benda ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์จากประเทศจีน ได้นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ที่ค่อนข้างจะแหวกแนวมาโดยตลอด เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ล่าสุดของพวกเค้ากับ Darkflag 500 ที่มาพร้อมรูปแบบของพาวเวอร์ครุยเซอร์ที่ดุดัน และยังมาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์แบบ V4 แต่น่าสงสัยก็ตรงที่เครื่องยนต์นั้นกลับมีความจุเพียง 496 ซีซีเท่านั้น
แน่นอนว่ารูปแบบของเครื่องยนต์นั้น จะเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สร้างบุคลิกเฉพาะตัวให้กับผลิตภัณฑ์ และส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะเห็นเครื่องยนต์แบบ V4 มักจะมีปริมาณกระบอกสูบที่มากกว่า 900 ซีซีขึ้นไป ซึ่งในยุคปัจจบุันนี้ แบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องของขุมกำลังรูปแบบนี้ก็คือ Ducati ที่มีผลิตภัณฑ์มากมายที่เลือกใช้งานเครื่องยนต์ในรูปแบบนี้ แต่สิ่งที่ Benda คิดและพัฒนานั้น แตกต่างออกไป สิ่งที่แบรนด์สัญชาติจีนสร้างคือเครื่องยนต์ขนาดกลางค่อนเล็ก ที่ต้องการบุคลิกของเครื่องยนต์ความจุปริมาณมาก
สิ่งที่สร้างความแตกต่างสิ่งแรกบน Darkflag 500 ก็คือเรื่องของกำลัง โดยเครื่องยนต์แบบ V4 4 ลูกสูบ 4 วาล์วต่อหัว ระบายความร้อนด้วยของเหลว สร้างกำลังได้ถึง 55 แรงม้า (HP) ที่ 10,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 52 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบต่อนาที เมื่อเรามองในส่วนของรอบเครื่องยนต์นั้น จะถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดเท่ากัน แต่ใช้รูปแบบที่แตกต่างกัน การไต่รอบของกำลังสูงสุดนั้นสูงถึง 10,000 รอบต่อนาที เทียบเท่ากับรถสปอร์ตที่ต้องการกำลังในรอบสูง และแม้ว่าแรงบิดจะมีการลดรอบต่ำลงมา แต่ก็ใช้รอบที่สูงถึง 7,000 รอบต่อนาที เราสามารถอุมานได้เลยว่าตัวรถ Darkflag 500 คันนี้ จะต้องคำรามอย่างมากในการออกตัว และน่าจะไต่ความเร็วได้อย่างเชื่องช้า แต่แลกมากับความเสถียรของความเร็วที่ค่อยไต่เป็นกราฟที่ทะยานขึ้นเรื่อยๆ
อีกสิ่งที่น่าสนใจของตัวรถ Darkflag 500 ก็คือเรื่องของน้ำหนักตัว ที่จะอยู่ที่ 241 กิโลกรัม แบบไม่รวมของเหลว และเมื่อรวมของเหลวจากเชื้อเพลิงและระบบระบายความร้อนแล้ว ตัวรถจะหนักถึง 262 กิโลกรัม โดยประมาณ ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนักเอาเรื่อง เมื่อเทียบกับ Honda Rebel 500 ที่ใช้งานเครื่องยนต์แบบ 2 ลูกสูบเรียง 471 ซีซี จะมีน้ำหนักตัวแบบรวมของเหลวที่ 187.7 กิโลกรัมเท่านั้น เมื่อแบกน้ำหนักมากขนาดนี้ ยิ่งทำให้เราคาดเดาได้อย่างชัดเจนว่าตัวรถ Darkflag 500 จะค่อนข้างออกตัวได้ช้า และยิ่งบวกกับการเลือกใช้งานรอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่าปกติ เราคงต้องลากคันเร่งมากกว่าปกติอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่น่าจะทดแทนกันได้ คือรูปแบบของตัวรถที่ใช้แนวทางของครุยเซอร์ เน้นขับขี่ทางตรง เน้นความนิ่งของตัวรถ Darkflag 500 น่าจะตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน ด้วยน้ำหนักตัว รอบเครื่องยนต์ที่สูง การออกวิ่งทางตรงยาวๆ จะลดอาการที่ผู้ขับขี่จะต้องต่อสู้ในนการควบคุมตัวรถ และความนิ่งนี้จะมีผลทันทีเมื่อเราไต่ความเร็วไปได้ระยะหนึ่ง และที่สำคัญมันจะมีความเสถียรในการรักษาระดับความเร็วด้วยรอบเครื่องยนต์ที่สูงนี้ ซึ่งผู้ออกแบบน่าจะมองตรงนี้ให้เป็นจุดเด่นของตัวรถมากกว่า
ในส่วนของอุปกรณ์บนตัวรถนั้น ค่อนข้างเรียบง่ายตามสไตล์ของรถครุยเซอร์ ตัวรถจะมีระบบส่งกำลังด้วยสายพานไปยังล้อหลัง ระบบไอเสียของเครื่องยนต์นั้น จะเป็นแบบ 4-1-4 โดยวางปลายท่อแบบคู่ทั้งสองฝั่ง หน้าจอแสดงผลจะเป็นแบบทรงกลมกระปุกเข็มนาฬิกา และมีหน้าจอ LCD ขนาดเล็กที่บอกข้อมูลที่จำเป็นในการขับขี่ ระบบไฟส่องสว่างแบบ LED ระบบช่วยเหลือ ก็เน้นไปที่ความเรียบง่าย โดยมีระบบ ABS แบบ Dual Channel ระบบ Traction Control ที่มีตัวเลือก 2 ระดับ
Banda Darkflag 500 วางจำหน่ายแล้วในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ยุโรป โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 8,790 ยูโร หรือราวๆ 347,370 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง และด้วยความที่พละกำลังของตัวรถสูงกว่า A2 License ผู้ครอบครองจำเป็นต้องใช้ใบอนุญาตขับขี่ระดับสูงสุด และเมื่อมองภาพรวมแล้ว ตัวรถน่าจะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์แบบเฉพาะกลุ่ม ที่อาจจะไม่ Mass จนสามารถตีตลาดแตกได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก lajumotor.com
.
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.