ข้อมูลใหม่ของ All-New Honda CB400 ทายาทคนใหม่ของ CB400SF
แม้จะยุติการผลิตมาตั้งแต่ปี 2022 แล้ว แต่กระแสของ Honda CB400SF ยังคงเป็นกระแสเสมอ ด้วยความที่ตัวรถนั้นมีความสมบูรณ์แบบ ตามฉบับของรถมอเตอรไซค์สไตล์ JDM และเป็นเหมือนกับภาพลักษณ์ของบริษัทอีกด้วย
หลังจากยุติการผลิตไป ก็เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องยนต์ความจุ 400 ซีซี แบบ 4 ลูกสูบเรียงใหม่ของทาง Honda ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัญหาหลักของเจ้า CB400SF ก็คือเครื่องยนต์ที่มีอายุไขที่ยาวนานจนเกินไป โดยรากฐานแล้ว เครื่องยนต์ปัจจุบันของ CB400SF จะมีแก่นมาจาก CBR400R (NC23) ที่เปิดตัวครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 1986 และลากยาวใช้งานมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้ลากยาวแบบใช้งานเดิมๆ มาโดยตลอด มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ทั้งในเรื่องของวัสดุ อุปกรณ์ ตัวจ่ายเชื้อเพลิง และแน่นอนคือเรื่องของกำลัง ที่มีการแปรผันไปตามองค์ประกอบที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดก็ยังคงยืนอยู่บนจุดเดียวกันเสมอ คือสมรรถนะที่สมดุลที่สุด
มีรายงานจากฝั่งญี่ปุ่นว่า Honda อาจจะเสียเชิงเล็กน้อย ในตอนที่ Kawasaki ได้เปิดตัว ZX-4R ซุปเปอร์สปอร์ตคลาส 400 ซีซี ที่มีกำลังมากที่สุดในโลก โดยมีกำลังที่มากถึง 77 แรงม้า (ps) แต่ในทางกลับกัน เครื่องยนต์ใหม่ของ Honda อาจจะไม่มีพละกำลังที่สูงจนสามารถแข่งขันกับ Kawasaki ได้ แต่ทั้งนี้ เราเองอยากให้เพื่อนๆทำความเข้าใจกันสักหน่อย จุดประสงค์โดยตรงของ Kawasaki ZX-4R คือการนำเสนอสปอร์ตเรฟพลิก้า ที่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในสนามแข่ง และสามารถขับขี่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งแตกต่างกันกับกรณีของ Honda CB400 ที่จุดประสงค์คือเป็นยานพาหนะมาตรฐาน สำหรับคลาสกลางค่อนเล็ก และตัวรถถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสม กับการใช้งานในชีวิตประจำวัน มากกว่าในสนามแข่ง
อย่างไรก็ตามสื่อท้องถิ่นในญี่ปุ่นก็ยังคงพยายามชี้ให้เห็นว่า เครื่องยนต์ใหม่ของ Honda อาจจะมีกำลังที่มากกว่า CB400SF รุ่นก่อนที่มีกำลังอยู่ที่ 56 แรงม้า (ps) โดยจะมีกำลังที่อยู่ที่ประมาณ 65-70 แรงม้า (ps) เพื่อให้สามารถแข่งขันได้กับ Kawasaki Z400 (รุ่นเนกเกตของ ZX-4R ที่จะตามมาในอนาคต) และตัวรถ CB400 ที่มีกำลังที่น้อยกว่า อาจจะถูกชดเชยด้วยนวัตกรรม E-Clutch ที่ถือว่าเป็นของเล่นใหม่ของทาง Honda ที่ปัจจุบันติดตั้งบนเครื่องยนต์ 4 ลูกสูบเรียงขนาด 650 ซีซีของบริษัท
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองที่ตลาดหลักของรถมอเตอร์ไซค์คลาสความจุไม่เกิน 400 ซีซี ก็มีเพียงไม่กี่ตลาด โดยจะเน้นหนักไปที่ประเทศที่มีเรื่องของใบอนุญาตขับขี่ ที่จำแนกผู้ขับขี่ด้วยขนาดเครื่องยนต์และกำลังจากเครื่องยนต์ ส่วนในประเทศที่บังไม่มีกฎหมายครอบคลุมในเรื่องนี้เอง ตัวรถคลาส 400 ซีซี มักจะถูกมองข้ามไปเสมอ เพราะด้วยรูปแบบและความจุเครื่องยนต์ กำลัง และปัจจัยหลักก็คือเรื่องของราคาจำหน่าย ที่แทบจะขี่กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์ 600 -800 ซีซี หรือบางทีอาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำไป ดังนั้นกลุ่ม 400 ซีซี จึงกลายเป็นกลุ่มแบบเฉพาะมากกว่าตลาดใหญ่ ซึ่งไม่ต้องมองที่ไหนไกลๆ เลยบ้านเรานี้แหละ สมมุติว่า CB400 รุ่นใหม่พัฒนาเสร็จสมบูรณ์และจะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ในรูปแบบการนำเข้าจากญี่ปุ่น ราคาของมันจะสูงกว่า CB650R อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก young-machine.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.