เปิดตัว Bajaj Freedom CNG 125 2024 สปอร์ตเนกเกต พลังงานก๊าซธรรมชาติ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคเลยก็ว่าได้ สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Bajaj ผู้ผลิตรายใหญ่จากประเทศอินเดีย ที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของสปอร์ตเนกเกต ที่มีจุดเด่นด้วยการใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ
Bajaj Freedom CNG 125 2024 มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายอย่าง ไล่ตั้งแต่เรื่องของงานออกแบบ ตัวรถจะมีการออกแบบที่ไม่สมมาตร ไฟหน้ามีขนาดใหญ่ บังโคลนโค้งมน รูปแบบโดบรวมอาจจะดูโบราณไปสักหน่อย แต่ภายใต้รูปแบบที่กึ่งๆ ย้อนยุคนี้ แต่มีองค์ประกอบที่ค่อนข้างทันสมัย ทั้งในส่วนของโครงสร้างแบบ Trellis Frame ระบบกันสะเทือนหน้า ที่แม้ว่าจะเป็นแบบมาตรฐาน แต่ก็มีส่วนประกอบที่บังตา ทำให้ดูเหมือนติดตั้งระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside-Down รวมไปถึงการติดตั้งระบบไฟ LED รอบคัน
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าจะเป็นจุดแข็งที่สุดของตัวรถก็คือ การเลือกใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ CNG โดยมีการติดตั้งถังเก็บเชื้อเพลิงที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษ เมื่อรวมกับโครงสร้างที่ออกแบบมาเฉพาะแล้ว ตัวรถมีความปลอดภัยที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และสามารถใช้งานบนท้องถนนได้อย่างถูกกฎหมาย นอกจากนี้ตัวถังเชื้อเพลิง CNG จะมีความจุ 2 กิโลกรัม และคุณสมบัติในการใช้เชื้อเพลิงนั้น จะมีระยะทางโดยเฉลี่ยที่ 204 กิโลเมตรต่อถัง ซึ่งถือว่าค่อนข้างประหยัด แต่ก็มีข้อแม้เล็กน้อย ที่จะต้องใช้เชื้อเพลิงเบนซินในการจุดระเบิดการทำงานในครั้งแรกเสมอ ซึ่งทางผู้ผลิตเองก็ติดตั้งถังเชื้อเพลิงเบนซินแยกขนาด 2 ลิตรมาให้ใช้งาน ซึ่งความสามารถของเชื้อเพลิงเบนซิน จะมีระยะทางสูงสุด 62 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งน่าประทับใจมาก หากรวมๆ แล้ว จากเชื้อเพลิง CNG และเชื้อเพลิงเบนซิน จะทำให้ตัวรถสามารถวิ่งทำระยะได้ไกลกว่า 320 กิโลเมตรต่อรอบเลยทีเดียว
ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น Bajaj Freedom CNG 125 มาพร้อมกับขุมกำลัง 125 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่สามารถให้กำลังสูงสุด 9.5 แรงม้า (Ps) และแรงบิดสูงสุด 9.7 นิวตันเมตร ซึ่งไม่ต่างอะไรจากรถมอเตอร์ไซค์กลุ่มเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี ตัวรถยังมาพร้อมกับระบบเกียร์มาตรฐาน 6 สปีด และระบบคลัตซ์มือแบบ Wet Multi-Plate ส่งกำลังสุดท้ายไปยังล้อหลัง ด้วยระบบโซ่
Bajaj Auto India ทำการตลาด Bajaj Freedom CNG ใน 3 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นราคาประหยัด ที่จะติดตั้งดรัมเบรกหลังและระบบไฟรอบคันแบบหลอดไส้ โดยมีราคาจำหน่ายที่ 95,000 รูปี หรือราคาเพียง 41,410 บาท เท่านั้น ในขณะที่รุ่นท๊อปจะมีการติดตั้งระบบดิสก์เบรกหน้าหลัง ระบบไฟ LED และความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ในราคาจำหน่าย 110,000 รูปี หรือราวๆ 47,940 บาท เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก warungasep.net
.
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
