ลุ้น Kawasaki เปิดตัวรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ ท้าชน Forza, Xmax!
เป็นประเด็นข่าวร้อนที่กำลังมาแรงมากในช่วงนี้ โดยกระแสนี้มาจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อสื่อยานยนต์ชั้นนำของประเทศหลายๆ เจ้า ต่างพากันเผยแพร่ข้อมูล และความเป็นไปได้ที่ Kawasaki กำลังวางแผนที่จะส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ โดยคาดว่าจะเป็นรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ ที่จะใช้ประเทศอินโดนีเซียเป็นฐานใหญ่ในการปล่อยผลิตภัณฑ์
ทางสื่อ Iwanbanaran เป็นหนึ่งหลายๆ สื่อของอินโดนีเซียที่พยายามเผยแพร่ข้อมูลเท่าที่จะหาได้สู่สาธารณะ โดยล่าสุดได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางต้นสังกัดของค่ายยักษ์เขียวเองก็ยืนยันแล้วว่า แผนงานของผลิตภัณฑ์อัตโนมัตินั้น มีอยู่จริง จนก่อให้เกิดกระแสว่า Kawasaki กำลังจะเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในอาเซี่ยน
จริงๆ แล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยที่ Kawasaki มีสโลแกน Lead Don’t Follow คือ นำหน้าเสมอ ซึ่งบ่งชี้ว่า ค่ายยักษ์เขียวมักจะเป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมรถมอเตอร์ไซค์อยู่เสมอๆ ซึ่งหากเราจะย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 10 ปีที่แล้ว Kawasaki เองก็เป็นผู้ริเริ่มที่จะพัฒนาและผลิตรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ที่มีความจุ 300 ซีซี เป็นเจ้าแรก และเน้นการทำราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และเป็นผู้ริเริ่มกลุ่มเครื่องยนต์ 2 ลูกสูบ 650 ซีซี จะก่อให้เกิดโมเดลในตำนานอย่าง ER6N และกลายเป็นโมเดลที่ขายดี จนเห็นขับขี่กันเต็มท้องถนน
โดยทาง Iwanbanaran เปิดเผยว่าได้ค้นพบรหัสปริศนา ที่ยังไม่สามารถสืบค้นได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใด แต่ชัดเจนว่าจะเป็นระบบส่งกำลังอัตโนมัติ ซึ่งทางสื่อจากแดนอิเหนาเองก็เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้อยู่ 3 ทาง คือการนำเอาผลิตภัณฑ์เก่าที่มีอยู่แล้วอย่าง Kawasaki J Series ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบสกู๊ตเตอร์ โดยจะมีอยู่ 2 รุ่นคือ J125 และ J300 ซึ่งจะเป็นผู้ท้าชิงตลาดจาก Yamaha Grand Filano และ Yamaha XMax 300 แต่ก็ติดอยู่ปัญหาเดียวคือ ปัจจุบัน J Series ถูกถอดออกจากไลน์อัพผลิตภัณฑ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งในญี่ปุ่นและยุโรป ด้วยความที่ตัวเครื่องยนต์ไม่ได้รับการพัฒนาให้ผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดขึ้น ดังนั้นหากจะนำเอาโมเดลนี้มาทำการตลาด ก็จะต้องขึ้นไลน์การผลิตใหม่ และต้องวิเคราะห์ว่าจะคุ้มค่าไหม หากลงทุนเปิดไลน์การผลิตแล้ว ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ระเบียบไอเสียของกลุ่มอาเซี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงให้เข้มงวดขึ้น แล้วโมเดลไปต่อไม่ไหว หรือไม่ทำเลยจะดีกว่ากัน
ส่วนอีกสองทางที่ Iwanbanaran ได้วิเคราะห์ไว้นั้น คือการนำเอาผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด นั้นก็คือ Z และ Ninja EV ที่ล่าสุดพึ่งจะเปิดตัวในยุโรปและมีการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในอเมริกา ซึ่งต้องบอกก่อนว่าถึงจะมีรูปแบบและสไตล์ที่ ไม่ใช่สกู๊ตเตอร์ แต่ทั้งสองโมเดลส่งกำลังด้วยระบบอัตโนมัติแบบ Twist&Go คือไม่ต้องสับเกียร์ให้ยุ่งยาก อีกทั้งสองโมเดลนี้ ยังเป็นอีกทางเลือกในการพัฒนาระบบยานยนต์ของบริษัท เพื่อลดความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่บริษัทวางแผนระยะยาวไว้ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่สูงที่สุดในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันช่างเข้าทางกับการที่อินโดนีเซีย ต้องการที่จะเป็น Hub ใหญ่ในการผลิตยานยนต์ EV ในกลุ่มอาเซี่ยน ด้วยความที่ประเทศนั้นมีแร่หายาก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างแบตเตอรี่ และแน่นอนว่าการจะขึ้นไลน์การผลิตสองโมเดลนี้ในประเทศ น่าจะได้รับการสนับสนุนโดยภาพรัฐอย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องสงสัย
สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างยังคงเป็นการคาดการณ์โดย Iwanbanaran แล้วทำไมพวกเราชาวไทยจึงต้องให้ความสนใจกับสิ่งนี้ด้วย ก็ไม่ยากครับ โดยส่วนใหญ่แล้ว ผลิตภัณฑ์หลายๆ รุ่นของ Kawasaki นั้น เป็นการนำเข้ามาจากอินโดนีเซียและญี่ปุ่น ซึ่งบางส่วนก็มีการผลิต ประกอบในประเทศไทย และหากจะมองไปที่ไลน์อัพผลิตภัณฑ์แล้ว อินโดนีเซียวางจำหน่ายรุ่นไหน ประเทศไทยก็มีเหมือนๆ กัน ดังนั้นหากจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซียแล้วล่ะก็ ประเทศไทยคงได้อนิสงส์ไปด้วยนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก http://www.iwanbanaran.com
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience