Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

เปิดตัว Suzuki DR-Z4S และ DR-Z4SM 2025 ดูอัลสปอร์ต รุ่นใหม่

เปิดตัว Suzuki DR-Z4S และ DR-Z4SM 2025 ดูอัลสปอร์ต รุ่นใหม่

ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางดูอัลสปอร์ต มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก ด้วยความที่ตัวรถมีลักษณะการใช้งานที่เฉพาะตัว อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่ให้เลือกใช้กันไม่มากเท่าที่ควร แต่การมาถึงของสองโมเดลใหม่จากแบรนด์ Suzuki ดูเหมือนจะเป็นทางออกให้กับเรื่องนี้

iPB7c5.jpeg
Suzuki DR-Z4S 2025

iPBuHa.jpeg
Suzuki DR-Z4SM 2025

Suzuki ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สองรุ่น DR-Z4S และ DR-Z4SM โดยทั้งสองโมเดลนั้นจะมีจุดเชื่อมโยงร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้าง ระบบส่งกำลังและเทคโนโลยีต่างๆ โดยจุดแตกต่างเดียวของทั้งสองรุ่นคือ การเลือกใช้ขอบล้อและยางที่แตกต่างกัน โดย DR-Z4S จะเป็นลักษณะการใช้งานเชิงออฟโรด โดยมีขอบล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และขอบล้อหลังขนาด 18 นิ้ว และยางแบบวิบาก แต่ในทางกลับกัน DR-Z4SM จะมาพร้อมกับขอบล้อ 17 นิ้วเท่ากันทั้งสองฝั่ง และสวมด้วยยางแบบกึ่งออฟโรด ซึ่งเป็นแนวทางของรถซุปเปอร์โมโต

iPBYdw.jpeg
iPBnd3.jpeg

ทั้งสองโมเดลจะใช้งานเครื่องยนต์ 1 ลูกสูบ 4 จังหวะขนาด 398 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว มาพร้อมระบบ Intelligent Ride System หรือระบบคันเร่งไฟฟ้า และ Drive Mode Selector ของ Suzuki รวมถึงไฟ LED และแผงหน้าปัด LCD ที่ทำให้ทุกอย่างใช้งานได้จริงแต่เรียบง่าย ระบบ Suzuki Traction Control System ที่สามารถปรับระดับได้ 2 โหมด พร้อมโหมด G mode สำหรับการใช้งานแบบออฟโรดและมีความสามารถในการปิดการทำงานระบบได้ และยังมีระบบ Suzuki easy start system ตัวช่วยในการสตาร์ทเครื่องยนต์ แม้อยู่ในสภาวะที่อุณหภูมิต่ำกว่าติดลบ

iPBe4z.jpeg
iPBh6k.jpeg

ในส่วนของโครงสร้างนั้น ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมกับโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับจากแบรนด์ KYB มีระยะยุบตัว 280 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังจะเป็นโช้คอัพเดี่ยว KYB ระยะยุบตัว 296 มิลลิเมตร ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นดิสก์ขนาด 270 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังจะเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร พร้อมระบบ ABS โดยที่รุ่น DR-Z4S จะสามารถเลือกเปิดหรือปิดการทำงานของระบบ ABS หน้าหลังได้อย่างอิสระ ในขณะที่รุ่น DR-Z4SM จะเลือกปิดการทำงานได้เฉพาะล้อหลังเท่านั้น ถังเชื้อเพลิงมาพร้อมความจุ 8.7 ลิตร

iPBbKr.jpeg
iPBI7g.jpeg

ในส่วนของราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น ทั้งสองรุ่นยังไม่มีการประกาศ คาดว่าทางผู้ผลิตเองจะพร้อมสำหรับการวางจำหน่ายทั้งสองโมเดลในไตรมาสแรกของปี 2025 ที่กำลังจะมาถึง ส่วนประเทศไทยนั้นจะมีการนำมาทำตลาดหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com

related keywords: