Banner Yamaha XMAX 2025 1150x250
Banner Yamaha XMAX 2025 400x300

รีวิว Honda NT1100 2025 สปอร์ต-ทัวร์ริ่ง รุ่นใหม่ [Specs Review]

รีวิว Honda NT1100 2025 สปอร์ต-ทัวร์ริ่ง รุ่นใหม่ [Specs Review]

หลังจากเปิดตัวที่งาน EICMA 2021 สำหรับ Honda NT1100 โมเดลสปินออฟของ CRF1100L Africa Twin ที่เน้นการใช้งานบนทางเรียบเป็นหลัก ตัวรถก็ได้มีการอัปเดทผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ และล่าสุดในปี 2025 โมเดลใหม่นี้ก็ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยมีการปรับรูปลักษณ์ของตัวรถให้ทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดที่ปรับตัว เปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว

itIdlf.jpeg

Honda NT1100 2025 ตัวรถรุ่นใหม่นั้นได้มีการปรับรูปแบบ ส่วนประกอบภายนอก ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะชิ้นส่วนของแฟริ่งบนตัวรถ ที่มีการปรับลักษณะการเดินทางของลมที่เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น ทำให้ตัวรถมีลักษณะที่เพรียวบางกว่าเดิม อีกทั้งยังเลือกที่จะใช้วัสดุ Durabio ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์จากของรีไซเคิล ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมากขึ้น นอกจากนี้บังโคลนหลังของตัวรถ ยังมีการเพิ่มความยาวอีก 1.5 เซนติเมตร เพื่อเพิ่มคุณลักษณะในการป้องกันสิ่งที่พึงประสงค์ที่กระเด็นมาจากการหมุนของล้อหลังอีกด้วย

itIykg.jpeg
itIFkY.jpeg

ไม่เพียงเท่านั้น ทางทีมนักออกแบบ ยังมีการปรับขนาดของเบาะนั่งใหม่ขึ้นกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง อีกทั้งเมื่อตัวรถมีลักษณะที่เพรียวลงจากเดิม การเพิ่มคุณสมบัติในการบรรทุกจึงเพิ่มขึ้น ด้วยการออกแบบกล่องสัมภาระท้ายและด้านข้างใหม่ โดยเพิ่มความจุมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ทำให้มีความสามารถในการบรรทุกสัมภาระที่มากกว่าเดิม เหมาะสำหรับสายเดินทางเป็นอย่างมาก

itILdB.jpeg

ในส่วนของอุปกรณ์ใหม่บนตัวรถนั้น จะมาพร้อมกับระบบไฟ DRL และไฟหน้า LED แบบโปรเจ็กเตอร์คู่ ทรงใหม่ ช่องเสียบชาร์จไฟแบบ USB และได้เพิ่มช่องเสียบแบบ ACC สำหรับติดตั้งระบบนำทางแบบแยกส่วน รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลใหม่ ที่เป็นหน้าจอแบบ TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกับ GL1800 Gold Wing รุ่นล่าสุด

itIOvw.jpeg
itI2D8.jpeg

ในส่วนของขุมกำลังนั้น จะยังคงใช้งานขุมกำลังเดิมจากปี 2021 ที่เปิดตัว แต่มีการปรับปรุงมาตรฐานใหม่ ทำให้ผ่านเกณฑ์ EURO5+ โดยที่กำลังของเครื่องยนต์ไม่ได้ลดลงไปจากเดิม โดยยังคงกำลังสูงสุด 100.5 แรงม้า (hp) ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 105 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที โดยรุ่นมาตรฐานจะมีระบบเกียร์ 6 สปีด และมีตัวเลือกระบบเกียร์ DCT ที่สามารถปรับรูปแบบการส่งกำลังได้ 3 รูปแบบ ตามแต่ผู้ขับขี่ต้องการ

itIZK5.jpeg

ในส่วนของโครงสร้างนั้น ตัวรถรุ่นใหม่จะยังใช้โครงสร้างเดิมจากรุ่นก่อนหน้า โดยมีชุดโครงสร้างแบบ Semi Double-Cradle โดยเชื่อมต่อกับระบบกันสะเทือนหน้าหัวกลับขนาด 41 มิลลิเมตรของ Showa SFF-BP สามารถปรับ Preload ได้แบบระดับ ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบ Pro-Link โดยมีโช้คอัพเดี่ยว ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม ปรับระดับได้ จากแบรนด์ Showa เช่นเดียวกัน ส่วนระบบเบรกนั้น จะเป็นดิสก์หน้าคู่ขนาด 310 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรกแบบเรเดียล 4 พอร์ต ด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 250 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์เบรก 1 พอร์ต ขอบล้อ 17 นิ้วแบบอัลลอยด์ สวมด้วยยางขนาด 120/71-17 และ 180/55-17 น้ำหนักตัวรถรุ่นมาตรฐานจะอยู่ที่ 238 กิโลกรัม ส่วนรุ่น DCT จะมากกว่าประมาณ 10 กิโลกรัม

itImf7.jpeg
itIcMJ.jpeg

ในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น ยังคงมีมาให้ใช้งานแบบแน่นๆ ทั้งระบบ HSTC ที่สามารถปรับระดับได้ ระบบคันเร่งไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 5 โหมด โดยแบ่งออกเป็นพรีเซต 3 โหมด Urban, Tour และ Rain และมี User ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกปรับการทำงานของตัวได้อีก 2 โหมด ระบบเบรก ABS แบบสองทาง และระบบ Cornering ABS เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

itIpft.jpeg

ตัวรถรุ่นใหม่ เริ่มวางจำหน่ายแล้วในโซนยุโรป โดยราคาในสหราชอาณาจักรล่าสุดรุ่นมาตรฐานจะมีราคาจำหน่ายที่ 12,679 ปอนด์ หรือประมาณ 556,620 บาท ในขณะที่รุ่น DCT จะมีราคาจำหน่ายที่ 14,099 ปอนด์ หรือราวๆ 618,960 บาทโดยประมาณ

Banner Lead Form Yamaha XMAX 2025 700x300
Banner Yamaha XMAX 2025 400x300