เจาะลึก Ducati Streetfighter V4 และ V4 S 2025 สตรีทไฟท์เตอร์รุ่นใหม่ สายพันธุ์อิตาเลี่ยน
Ducati ได้ประกาศการมาถึงของ Streetfighter V4 และ V4 S รุ่นใหม่ สำหรับปี 2025 โดยมีการปรับปรุงขุมกำลัง แชสซีและระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ที่ช่วยยกระดับของไฮเปอร์เนกเกตตัวตึง ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าเดิม
Ducati Streetfighter V4 รุ่นมาตรฐาน
Ducati Streetfighter V4 S
Ducati Streetfighter V4 แม้จะเป็นโมเดลคู่ขนานกับ Panigale V4 แต่ก็มีความแตกต่างออกไป ทั้งในเรื่องของการวางบุคลลิกเครื่องยนต์ โครงสร้าง และระบบอิเกทรอนิกส์ แม้ว่าจะได้อัปเดทขุมกำลัง Desmosedici Stradale ขนาด 1,103 ซีซี เช่นเดียวกับ Panigale V4 รุ่นล่าสุด ซึ่งจะมีการปรับการยกวาล์วที่สูงขึ้น ไดชาร์จและปั๊มเชื้อเพลิง ที่บกมาจาก Panigale V4 R และเกรดดรัมเกียร์ที่ยกมาจาก Superleggera V4 รวมไปถึงการได้รับแตรไอดีแบบปรับความยาวได้เช่นเดียวกับ Panigale V4 รุ่นล่าสุด
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือการออกแบบช่อง air intake ส่งผลให้กำลังของทั้งสองโมเดลแตกต่างกัน โดย Panigale V4 เวอร์ชั่นยุโรปจะมีกำลังที่ 216 แรงม้า (hp) มากกว่า Streetfighter V4 อยู่ประมาณ 2 แรงม้า (hp) โดยใช้รอบเครื่องยนต์เท่ากันที่ 13,500 รอบต่อนาที ในขณะที่เวอร์ชั่นอเมริกาเหนือนั้น ตัวรถจะถูกลดทอนกำลังลง โดย Panigale V4 จะมีกำลังที่ 205 แรงม้า (hp) ที่ 12,650 รอบต่อนาที ซึ่งเจ้า Streetfighter V4 ก็จะมีส่วนต่างกันที่ 2 แรงม้าเหมือนเวอร์ชั่นยุโรป
หากใครยังคิดว่าแรงไม่พอ Ducati มีการนำเสนอท่อไอเสียจากแบรนด์ Akrapovič ซึ่งเป็นสูตรสำหรับใช้งานในสนามแข่งเท่านั้น โดยจะมีคุณสมบัติพิเศษในการปลดล็อกกำลังของทั้ง Panigale V4 และ Streetfighter V4 โดยจะปรับกำลังสูงสุดให้อยู่ที่ 226 แรงม้า (hp) และ 224 แรงม้า (hp) ตามลำดับ
ในส่วนโครงสร้างนั้น Streetfighter V4 ก็ได้รับการอัปเดทที่เหมือนกับ Panigale V4 รุ่นใหม่ โดยมีเฟรมด้านหน้าที่เบากว่าพร้อมความแข็งด้านข้างที่ลดลง และมีการติดตั้งสวิงอาร์มใหม่ ที่เป็นแบบกลวงสมมาตรสองด้าน Ducati อ้างว่าระบบกันสะเทือนมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ความแข็งด้านข้างน้อยลง และน้ำหนักเบากว่าดีไซน์เดิม
ในรุ่นท๊อปอย่าง Streetfighter V4 S จะมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนอิเล็กทรอนิกส์ Öhlins Smart EC 3.0 พร้อมด้วยโช้คหัวกลับรุ่น NIX30 ขนาด 43 มิลลิเมตร และโช้คหลัง TTX36 ซึ่งปรับได้เต็มที่ ในขณะที่รุ่นมาตรฐานจะใช้ระบบกันสะเทือนหน้าจาก Showa รุ่น BPF ขนาด 43 มิลลิเมตร และโช้คหลังแบบเดี่ยวจาก Sachs ซึ่งปรับได้เต็มที่ทั้งคู่ ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับคาลิปเปอร์ Brembo Monoblock Hypure สี่ลูกสูบแบบเรเดียลเมาท์ โดยด้านหน้าจะมีดิสก์คู่ขนาด 330 มิลลิเมตร และด้านหลังจะเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 245 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์สองลูกสูบ และความพิเศษของรุ่นปี 2025 คือ การติดตั้งระบบ Race eCBS ที่ไวต่อแรงเฉื่อยซึ่งเปิดตัวใน Panigale V4 มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยระบบจะปรับเบรกหลังโดยอัตโนมัติเพื่อให้มีเสถียรภาพ แม้ว่าผู้ขับขี่จะใช้เบรกหน้าเพียงอย่างเดียวก็ตาม
ระบบอิเล็กทรอนิกส์มาตรฐานจะประกอบไปด้วย โหมดการขับขี่ที่เลือกได้ 4 โหมด ระบบ lean-sensitive traction control ระบบ slide control ระบบ wheelie control ระบบ engine brake control ระบบ launch control และระบบ Ducati Quick Shift 2.0 system
ในแง่ของอุปกรณ์บนตัวรถนั้น จะมีหน้าจอใหม่ขนาด 6.9 นิ้ว พร้อมอัตราส่วนภาพ 8:3 แสดงข้อมูลและการตั้งค่าอิเล็กทรอนิกส์ของตัวรถ โดยมีระบบ Ducati Vehicle Observer ซึ่งเป็นอัลกอริทึมที่พัฒนาโดยโปรแกรม MotoGP ของ Ducati เพื่อจำลองอินพุตจากเซ็นเซอร์มากกว่า 70 ตัว
อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญของ Streetfighter V4 ทั้งสองรุ่นสำหรับปี 2025 คือการปรับสมดุลทางกายภาพใหม่ โดยมีการปรับรูปแบบของถังเชื้อเพลิงใหม่ ซึ่งมีด้านบนที่แบนราบกว่า และมีรูปทรงใหม่เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เข่าหนีบตัวถังได้สะดวกกว่าเดิม อีกทั้งยังมีการปรับแฮนด์ไปด้านหลัง 10 มิลลิเมตร พร้อมปรับตำแหน่งที่พักเท้าให้ต่ำลง และขยับไปข้างหน้ามากขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และให้ท่านั่งที่เป็นธรรมชาติกว่าเดิม
Streetfighter V4 ใช้การออกแบบปีกสองชั้นใหม่ โดยแยกปีกทั้งสองข้างออกจากกันมากกว่าการออกแบบของรุ่นก่อนหน้า โดยทางผู้พัฒนาอ้างว่าว่าการออกแบบใหม่นี้ให้แรงกดเพิ่มขึ้น 37.5 ปอนด์เมื่อวิ่งด้วยความเร็ว 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังช่วยในการปรับทิศทางของอากาศที่ไหลผ่านตัวรถได้ดีกว่าเดิม
ในส่วนของการจำหน่ายนั้น Ducati Streetfighter V4 2025 รุ่นพื้นฐาน ได้เปิดราคาในตลาดอเมริกาเหนือแล้ว โดยจะมีเรทเริ่มต้นที่ 23,395 ดอลลาร์ หรือประมาณ 800,540 บาท ในขณะที่ Ducati Streetfighter V4 S จะมีราคาเริ่มต้นที่ 29,295 ดอลลาร์ หรือราวๆ 1.002 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motorcycle.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.