เปิดตัว Ducati Multistrada V2 2025 สปอร์ต-ทัวร์ริ่งรุ่นใหม่
เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ สำหรับการอัปเดทครั้งใหม่ของ Ducati Multistrada V2 รุ่นใหม่สำหรับปี 2025 ที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ใหม่ ให้เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของ Panigale V2 และ Streetfighter V2 รุ่นปี 2025 ซึ่งมันก็เปลี่ยนแปลงไปตามที่เราคาดไว้
ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ Ducati ได้เปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ V-Twin Testastretta ของตัวเองใหม่ โดยเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับขุมกำลังที่มีความจุไม่ถึง 999 ซีซี ขึ้นมาใหม่ โดยมีการใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ ลงไปบนเครื่องยนต์ ซึ่งจะเข้ามาทดแทนเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์จากแบรนด์ Ducati อย่างวาล์ว Desmodromic เลือกใช้ระบบวาล์วแปรผันสำหรับวาล์วไอดี ซึ่งส่งผลให้เครื่องยนต์ใหม่มีน้ำหนักที่น้อยกว่าเครื่องยนต์รุ่นก่อนหน้าถึง 9 กิโลกรัม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้ Multistrada V2 รุ่นมาตรฐานสำหรับปี 2025 มีน้ำหนักตัวแบบไม่รวมของเหลวที่ 199 กิโลกรัม ในขณะที่รุ่น “S” จะน้ำหนักตัวแบบแห้งที่ 202 กิโลกรัมเท่านั้น
โดยเครื่องยนต์รุ่นใหม่จะมีความจุ 890 ซีซี ซึ่งจะส่งกำลังได้ 113.4 แรงม้า (hp) ที่ 10,750 รอบต่อนาที และแรงบิด 92 นิวตันเมตรที่ 8,250 รอบต่อนาที โดยระบบวาล์วแปรผันใหม่นั้น จะเริ่มทำงานในรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 3,500 รอบต่อนาที และจะยกตัวสูงสุด 75% เมื่อรอบเครื่องยนต์เดินถึง 11,000 รอบต่อนาที
ตัวรถรุ่นใหม่ จะมีการปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ ซึ่งจะให้ลักษณะของกำลังที่แตกต่างจาก Panigale V2 และ Streetfighter V2 และสร้างความแตกต่างกับตัวรถรุ่นก่อนหน้า ด้วยการลดช่วงเกียร์ 1 และ 2 ที่สั้นลงและมีอุปกรณ์ Quickshifter เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในส่วนของงานออกแบบนั้น Multistrada V2 รุ่นใหม่ จะมีความใกล้เคียงกับ Multistrada V4 รุ่นล่าสุด ซึ่งจะแตกต่างจาก Multistrada V2 รุ่นเดิม ที่จะมีการออกแบบที่อิงกับ Multistrada 1260 ตัวรถมีการใช้หลักอากาศพลศาสตร์ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ รวมถึงชิลด์หน้าใหม่และด้านข้างของตัวถังเพื่อปรับทิศทางเดินของอากาศ ให้ไหลไปที่ขาของผู้ขับขี่เพื่อลดความร้อนของเครื่องยนต์ไปในตัว
ในส่วนของระบบช่วงล่างนั้น รุ่นท๊อปอย่าง Ducati Multistrada V2 S จะมาพร้อมกับระบบกันสะเทือน Ducati Skyhook (DSS) แบบ semi-active ในขณะที่รุ่นมาตรฐานจะมาพร้อมกับโช้คอัพหน้า Marzocchi แบบหัวกลับขนาด 43 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังจะเป็นโมโนโช้คจาก Sachs ที่ปรับได้เต็มที่
ส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น จะมีหน้าจอส่วนกลางที่ควบคุมระบบทั้งหมด ที่ใช้หน้าจอแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว มีโหมดการขับขี่ 5 โหมดพร้อมการตั้งค่าที่กำหนดค่าได้สำหรับระบบ power, traction control, anti-wheelie และ engine braking ระบบ Cruise control จะเป็นระบบมาตรฐานในทุกรุ่น และมีตัวเลือกระบบนำทางแบบ turn-by-turn และฟังก์ชั่นใหม่ “Coming Home” ที่จะเป็นการเปิดไฟหน้าตัวรถทิ้งไว้ชั่วขณะ หลังปิดสวิทซ์การทำงาน เพื่อให้แสงสว่างแบบชั่วคราวหลังจากจอดรถแล้ว
ยังไม่มีการเปิดเผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของตัวรถรุ่นใหม่ คาดว่าจะมีการเปิดเผยราคา วันวางจำหน่าย และรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 2025 นี้ ส่วนการอัปเดทนี้จะส่งผลถึงตลาดในประเทศไทยหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bikesrepublic.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
