เจาะรายละเอียดของ Triumph Bonneville Bobber TFC 2025
Triumph ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์จากประเทศอังกฤษ ได้เปิดตัวโมเดลสุดพิเศษ Bonneville Bobber TFC ไปตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยตัวรถนั้นจะเป็นตกแต่งโดยตรงจากโรงงานของ Triumph Factory Custom ซึ่งรวมถึงสีทูโทนพิเศษ และอุปกรณ์ที่อัปเกรดมาจากรุ่นจำหน่ายทั่วไป
Triumph จะผลิต Bonneville Bobber TFC เพียง 750 คัน โดยแต่ละคันจะมีตราสัญลักษณ์ที่ติดหมายเลขเฉพาะบนบังโคลนหน้าที่ผลิตขึ้นด้วยเครื่องจักร คาดว่าจะมีวางจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นไป โดย Pal Stroud ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ Triumph กล่าวถึงโมเดลพิเศษรุ่นนี้ไว้ว่า “Bobber เป็นรถที่ช่างประกอบรถคัสตอมหลายๆ คนเลือกใช้ และเราทราบดีว่าลูกค้ามากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ในประเภทนี้ปรับแต่งรถของตนด้วยอุปกรณ์เสริม นั่นเป็นเหตุผลที่วิศวกรออกแบบของเราซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความหลงใหลในฉากคัสตอมระดับโลก จึงตั้งเป้าที่จะสร้างรถมอเตอร์ไซค์ที่สวยงาม พิเศษ และน่าปรารถนาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหามอเตอร์ไซค์ที่พิเศษยิ่งขึ้น โดยได้รับการปรับแต่งและดัดแปลงโดยวิศวกรออกแบบที่ดีที่สุดของ Triumph รถ Triumph Factory Custom คันนี้ถือเป็นรถที่พิเศษอย่างแท้จริง”
เรามาดูรายละเอียดของการตกแต่งบนโมเดลพิเศษคันนี้กันดีกว่า สิ่งแรกที่เราเห็นคือถังน้ำมันสีดำเงาพร้อมแถบสีทองลายหินอ่อนที่ทาด้วยมือ โดยที่ฝาครอบคาร์บอนไฟเบอร์สีดำก็มีแถบสีเดียวกันนี้พร้อมกับตราสัญลักษณ์ TFC เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว ศิลปินผู้ทาแถบสีดังกล่าวได้ลงนามผลงานของตนที่บริเวณใต้ถังน้ำมัน ลวดลายสีดำและสีทองยังคงใช้โช้คอัพและตัวปรับโช้คอัพสีทอง โซ่สีทอง และรายละเอียดสีทองบนตราสัญลักษณ์ฝาครอบเครื่องยนต์ที่ขึ้นรูปด้วยเครื่องจักร
เครื่องยนต์ยังคงเป็นเครื่องยนต์คู่ขนาน 1,200 ซีซี รุ่นเดียวกับรุ่นมาตรฐาน โดยให้กำลังสูงสุด 77 แรงม้า (hp) ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 78.2 lb-ft ที่ 3,750 รอบต่อนาที ตัวรถจะมีโหมดการขับขี่แบบ Sport ที่ตอบสนองคันเร่งได้ฉับไวขึ้น นอกเหนือจากโหมด Rain และ Road ที่มีในรุ่นปกติ
ล้อหน้าขนาด 19 นิ้วพร้อมยางขนาด 100/90-19 แทนที่ล้อขนาด 16 นิ้วของ Bobber รุ่นมาตรฐาน ทำให้ด้านหน้าดูเพรียวบางขึ้น โช้คหัวกลับ Öhlins NIX 30 ขนาด 43 มิลลิเมตร แทนที่โช้ค Showa ขนาด 47 มิลลิเมตร จากรุ่นมาตรฐาน เช่นเดียวกับด้านหลังที่เลือกใช้โช้คอัพ Öhlins ซึ่งสามารถปรับพรีโหลดและการหน่วงการคืนตัวได้
ระบบเบรกหน้ายังได้รับการอัปเกรด โดย Triumph ติดตั้งดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มิลลิเมตร และคาลิปเปอร์โมโนบล็อกสี่ลูกสูบแบบเรเดียลเมาท์ Brembo M50 แทนที่คาลิปเปอร์แบบสองลูกสูบเดิม Brembo ยังจัดหากระบอกสูบหลัก MCS อีกด้วย เบรกหลังยังคงเป็นคาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบเดียวและดิสก์เบรกขนาด 255 มิลลิเมตร ที่ตรงกับรุ่นมาตรฐาน ในขณะที่ท่อไอเสียนั้นจะเป็นปลายท่อจากแบรนด์ Akrapovič ซึ่งปลายท่อจะเป็นคาร์บอน
ในส่วนของอุปกรณ์อื่นๆ นั้น ได้แก่ แฮนด์แบบคลิปออน เบาะหนังสีดำพร้อมโลโก้ Triumph แบบนูน Bobber TFC จะมาพร้อมกับไฟท้ายทรงกระสุนที่ทำหน้าที่เป็นทั้งไฟเบรกหลังและไฟเลี้ยว ตัวรถจะมีน้ำหนักตัวแบบพร้อมขี่ที่ 237 กิโลกรัม ซึ่งลดลงจากน้ำหนักตัวของรุ่นมาตรฐานถึง 13.8 กิโลกรัม ซึ่งทำให้ตัวรถนั้นมีอัตราส่วนของกำลังต่อน้ำหนักที่ดีกว่ารุ่นมาตรฐาน และให้ความคล่องตัวที่สูงกว่าอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดี Triumph Bonneville Bobber TFC 2025 ที่มีเพียง 750 คันทั่วโลกนั้น คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายที่ประมาณ 18,495 ดอลลาร์ หรือราวๆ 628,645 บาทโดยประมาณ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motorcycle.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.