ทำไม Benelli Leoncino Bobber 400 ถึงใช้เครื่องยนต์ V-Twin
ในงาน EICMA 2025 บริษัท Benelli ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกันหลายรุ่น และเน้นย้ำว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้น จะเปิดตัวเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับปี 2025 และมีหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เราจับตามองเป็นพิเศษ นั่นก็คือ Leoncino Bobber 400 ที่มีความแตกต่างมากที่สุดจากบรรดาโมเดลที่เปิดตัวในงานเดียวกัน
โดยสิ่งที่เรียกความสนใจกับเรามากเป็นพิเศษ ใช่เรื่องของรูปแบบของตัวรถ ที่แปลกแยกจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ แต่เป็นเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งเป็นขุมกำลังแบบ V-Twin 60° ขนาด 385 ซีซี 4 จังหวะ SOHC 2 วาล์ว โดยทางผู้พัฒนาได้ให้ข้อมูลว่าตัวเครื่องยนต์มีพละกำลังสูงสุด 34.5 แรงม้า (hp) ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 36.6 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ซึ่งว่ากันตามตรงแล้ว ตัวเลขไม่ค่อนจะดึงดูดเราสักเท่าไหร่ แต่หากพิจารณาถึงรูปแบบตัวรถแล้ว ตัวเลขกำลังแบบนี้ ก็ถือว่าน่าพอใจไม่น้อย
สิ่งหนึ่งที่เราสะดุดกับการตัดสินใจของ Benelli ในครั้งนี้คือ ทางบริษัท มีเครื่องยนต์แบบ 2 ลูกสูบเรียง ที่มีความจุไล่เลี่ยกับเครื่องยนต์ใหม่นี้ โดยมีทั้งความจุ 300 – 500 ซีซี และรูปแบบของรถครุยเซอร์เท่าที่ผ่านมาของบริษัทเอง ก็ไม่ได้เลือกใช้งานเครื่องยนต์แบบนี้ อย่างโมเดลล่าสุด Benelli 502C ก็เลือกใช้งานเครื่องยนต์เดียวกับ Leoncino 500 และแม้จะมีข่าวว่าเครื่องยนต์ 2 ลูกสูบเรียงของบริษัท ได้ถูกปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มความจุเป็น 550 ซีซี ที่คาดว่าจะพบบน Tornado 550 จะกลายเป็นรากฐานใหม่ให้กับ Leoncino และ TRK รุ่นถัดไป แต่บริษัทก็เลือกที่จะใช้งานเครื่องยนต์ที่แตกต่างออกไป
และนี้แหละคือคำถามที่เราสงสัยอย่างมาก เพราะโดยหลักการแล้ว การออกแบบเครื่องยนต์ใหม่สักตัวหนึ่ง มันมักจะไม่ผูกติดกับโมเดลใด โมเดลหนึ่งเท่านั้น แต่มันต้องสามารถขยายไปยังผลิตภัณฑ์รุ่นอื่นๆ ของบริษัทได้ แต่หากมองจากข้อมูลเท่าที่เรามีตอนนี้ เครื่องยนต์ V-Twin ใหม่นี้ ดูจะไม่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัทเลยแม้แต่น้อย แล้ว Benelli ทำมันไปเพื่ออะไรล่ะ…
หากให้คาดเดาถึงมูลเหตุในเรื่องนี้ สิ่งหนึ่งที่เราเห็นในปัจจุบัน จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ครุยเซอร์ขนาดเล็ก ที่มีความจุเครื่องยนต์ไม่เกิน 600 ซีซี ตลาดจะถูกครอบงำโดย Honda Rebel 500 โดยมีผู้ผลิตจากจีนบางส่วนที่เข้ามาทำตลาดนี้ด้วย แต่ที่โดดเด่นจริงๆ ก็จะมี Hanway v-bob 250 และผู้ผลิตจากเกาหลีใต้ Hyosung Aquila GV300 ที่ทั้งสองเคยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แต่ก็ไม่สำเร็จ (เพราะพลังของแบรนด์ล้วนๆ) ดังนั้นตลาดปัจจุบันของรถครุยเซอร์ขนาดเล็กค่อนกลาง จะถูกเครื่องยนต์แบบ 2 ลูกสูบเรียง กินรวบอยู่ในตอนนี้
สิ่งที่ขาดไปคือมนต์สเน่ห์ที่แท้จริงของครุยเซอค์ แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องแลกมาคือเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่า แต่ถ้าพิจารณาให้ลึกๆ แล้วรถในแนวทางนี้ ไม่ได้ต้องการกำลังสูงสุดที่มากมายนัก แตต้องการแรงบิดสูงเพื่อช่วยในการออกตัว และแบกน้ำหนักของตัวรถที่มีมากกว่ามอเตอร์ไซค์ในแนวทางอื่นๆ และจากข้อมูลของตัวรถเบื้องต้นแล้ว Leoncino Bobber 400 จะดูตรงกับคำตอบมากกว่า ด้วยรูปแบบของตัวรถ รูปแบบเครื่องยนต์ แรงบิดจำนวนมากในรอบที่ต่ำ ก็อาจจะเป็นจุดแข็งของโมเดลนี้ แต่สิ่งที่เรากังวลมากกว่าคือเครื่องยนต์ใหม่นี้ จะได้ไปต่อในโมเดลอื่นๆ ของบริษัทหรือไม่ และจะไปในรูปแบบของรถแนวไหนกัน…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.rideapart.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.