เจาะลึกรายละเอียดที่น่าสนใจของ Aprilia RS-GP25
หลังจากเปิดตัวทีมแข่งอย่างเป็นทางการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Aprilia ผู้ผลิตรถมอเตอรืไซค์จากเมือง Noale ก็ได้เปิดตัวรถแข่งรุ่นใหม่ RS-GP25 ในงานเดียวกันนี้ ซึ่งในเนื้อหาของข่าวนี้ เราจะขอพาเพื่อนๆ ไปลงรายละเอียดที่น่าสนใจของตัวแข่งรุ่นใหม่กัน
โดยหลักการแล้ว Aprilia RS-GP25 ไม่ใช่รถแข่งใหม่แบบ All-New ซึ่งมันเคยปรากฎตัวมาแล้วหนึ่งรอบในการทดสอบที่บาร์เซโลนาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจบการแข่งขันสนามสุดท้าย แต่ด้วยกฎระเบียบแล้ว ตัวรถแข่งจะสามารถปรับปรุงได้อีกครั้งในระหว่างการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล ซึ่งมันส่งผลให้ตัวแข่ง RS-GP25 ที่เปิดตัวกับ Jorge Martin และ Marco Bezzecchi สองนักแข่งใหม่ของทีม มีความแตกต่างออกไป
จากการเปิดตัวทีมอย่างเป็นทางการ จะเห็นได้ว่าตัวแข่ง RS-GP25 รูปร่างของปีกที่ด้านหน้ามีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นผลจากงานที่ Aprilia ทำในอุโมงค์ลม เป้าหมายคือการปรับปรุงในเรื่องของแรงกดที่เท่าเดิมจากปีกรุ่นก่อนหน้า แต่ต้องลดแรงต้านให้ต่ำกว่าเดิม ปีกสองชั้นยังคงอยู่ที่เดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือตัวปีกจะมีความโค้งมากขึ้น และมีรูตรงกลางที่เด่นชัดขึ้น ที่น่าสนใจคือส่วนยึดด้านบนกับแฟริ่งที่เห็นในรุ่นปี 2024 นั้นหายไป ที่ด้านล่าง ใต้คาลิปเปอร์เบรก Brembo ได้รับการยืนยันว่ามีสายพานลำเลียงอากาศ ซึ่งทำหน้าที่สำคัญเมื่อตัวรถมีการเอียง โดยจะทำหน้าที่ในการลำเรียงอากาศเย็น เพื่อเข้าไปช่วยในการระบายความร้อน และปรับการทำงานของระบบเบรกให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
RS-GP25 ยังคงมีท่อไอเสีย S-duct ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง Formula 1 แต่ในขณะที่ช่องระบายอากาศด้านบนจะมองเห็นได้เสมอที่ด้านข้างของแฟริ่ง แต่ไม่มีส่วนเสริมใหม่เป็นช่องรับอากาศหรือไอดี อีกแง่มุมที่น่าสนใจคือชิ้นส่วนที่มีลักษณะคล้ายผีเสื้อที่อยู่ใต้หม้อน้ำมันในเปลรูปตัววีของแชสซี อากาศเย็นจะถูกดึงออกจากส่วนบนของล้อหน้าแล้วส่งลงด้านล่าง อุปกรณ์คาร์บอนเป็นภาชนะที่มักใช้เพื่อรวบรวมอากาศบริสุทธิ์ แต่ปัจจุบันใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางอากาศพลศาสตร์ด้วย เป็นส่วนที่อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อการทดสอบก่อนฤดูกาลเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์
Aprilia มีแนวทางใหม่ด้านอากาศพลศาสตร์มาโดยตลอด โดยได้รับประสบการณ์มากมายจาก Marco De Luca อดีตวิศวกรของ Ferrari แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะทำตามแนวทางของ Ducati ในการใช้ดิฟฟิวเซอร์ที่ด้านข้างของแฟริ่ง อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ Desmosedici ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากภายนอกแฟริ่ง แต่การพัฒนาองค์ประกอบเดียวกันนี้ของ Aprilia จะพัดเข้าด้านใน ซึ่งตรงกันข้ามกับ Desmosedici อย่างสิ้นเชิง
แฟริ่งแสดงให้เห็นถึงรูปแบบขั้นบันไดที่เป็นที่รู้จักในปัจจุบันซึ่งมีขอบท้ายด้านข้างด้วยโปรไฟล์แนวตั้งที่หันไปทางด้านหน้าของปีกนก รูปร่างของแฟริ่งในส่วนล่างได้รับการดูแลเพื่อให้แน่ใจว่ามีแรงกดสูงสุดเมื่อรถอยู่ในมุมเอียง ด้วยเหตุนี้ Aprilia จึงพยายามออกแบบช่อง Venturi ที่มีประสิทธิภาพ
สิ่งสำคัญที่สุดของรถแข่งในระดับ MotoGP สมัยใหม่คือความร้อน และนักแข่งต้องสัมผัสกับอากาศร้อนจัดระหว่างการแข่งขัน เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่ Aprilia โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเป็นสิ่งที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา ช่างเทคนิคตระหนักถึงความจำเป็นในการปกป้องผู้ขับขี่ให้ได้มากที่สุด จึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงวิธีการระบายความร้อนของรถแข่งใหม่ ซึ่งเราจะเห็นได้จากตัวแข่งใหม่ ที่มีกระจังหน้าแบบ 5 องค์ประกอบ ที่จะบังคับให้อากาศร้อนไหลลงสู่ด้านล่างให้ได้มากที่สุด เพื่อพยายามเคลื่อนย้ายความร้อนให้ไกลจากร่างกายของผู้ขับขี่ให้มากที่สุด
รายละเอียดอีกอย่างที่มองข้ามไม่ได้คือ “Handkerchief” ที่ผลิตจากคาร์บอน ที่ดูเหมือนเสริมแรงแต่จริงๆ แล้วเป็นท่อที่ดึงอากาศบริสุทธิ์และนำไปยังจุดสำคัญ 2 จุด จุดขวาช่วยระบายความร้อนให้กับท่อไอเสีย ส่วนจุดซ้ายช่วยรักษาอุณหภูมิของเชื้อเพลิงในถังที่อยู่ด้านหลังของตัวรถ เมื่อมองไปทางด้านหลัง เราจะเห็นท่อไอเสียต่ำและสวิงอาร์มที่อยู่เหนือแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์แนวตั้ง เมื่อปีที่แล้วสิ่งนี้ มีขนาดที่ใหญ่กว่านี้ และดูเหมือนว่ามันได้ถูกปรับปรุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ปีหลังนั้น ดูไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก ซึ่งน่าจะเป็นผลงานที่น่าพอใจของทีมวิศวกรในการลดแรงต้านอากาศได้ดีแล้ว จึงแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้เราได้เห็น
อย่างไรก็ดีตัวรถยังอยู่ในสถานะการพัฒนา อาจจะมีการปรับเปบี่ยนใหม่อีกครั้งหลังจากการทดสอบที่ประเทศไทยในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ และดูเหมือนว่าในปี 2025 นี้จะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาล ที่ทีมผู้พัฒนาพยายามอย่างหนักในการงัดเอาความรู้ความเข้าใจในการสร้างเครื่องจักรสำหรับการแข่งขันที่ดีที่สุดออกมา และเราก็ได้เพลิดเพลินกับการต่อสู้ที่ดูไม่มีวันจบสิ้นนี้อีกครั้ง ตั้งตารอแทบไม่ไหวแล้ว
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.motorsport.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
