รีวิว All New Yamaha Nmax โฉมใหม่ ขี่สนุกขึ้น ฟีเจอร์จัดเต็ม ราคานี้คุ้มไหม?!
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ กับ All New Yamaha Nmax โฉมใหม่ รถมอเตอร์ไซค์พรีเมียมสกู๊ตเตอร์ ที่โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ดีไซน์ภายนอกใหม่ มุ่งเน้นไปที่ความสปอร์ต ดุดัน ไฟหน้าและไฟท้ายที่ดูโฉบเฉี่ยบทำให้นึกถึงรุ่นพี่ในตระกูลนี้อย่าง TMAX
ขุมกำลัง 155 VVAในรุ่นนี้ก็ยังโดดเด่นในทุกย่านความเร็ว แต่ความพิเศษที่ต้องพูดถึงนั่นก็คือเทคโนโลยี YECVT (มีในเฉพาะรุ่น TECH MAX) ที่จะทำให้การขับขี่ที่แสนธรรมดาในทุกๆวันจะเปลี่ยนไปทันที มิติรถพอดีไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เบาะนั่งนั่งแล้วกระชับ ทรรศนะวิสัยหลังแฮนด์กำลังดี แผงหน้าจอมองเห็นชัดเจนในที่แสงแดดจ้า
การออกตัว
ทำได้ดีมากรู้สึกประทับใจตั้งแต่การออกตัวเมื่อเปิดคันเร่งตัวรถนิ่งไม่มีอาการสั่นอาจจะมีรอบหน่วงเล็กน้อยในรุ่น standard หรือถ้าเป็นรุ่น TECH MAX ก็จะมี traction control มาให้ (สามารถเปิด-ปิดได้) รอบมาค่อนข้างไว
ระบบช่วยเหลือการขับขี่
แน่นอนว่าเมื่อขึ้นชื่อว่าพรีเมียมสปอร์ต ก็จะต้องมีฟังชั่นระบบ Traction Control System (TCS) ช่วยลดอาการล้อลื่นไถลปรับสมดุลการหมุนของล้อหน้า-หลังให้สัมพันธ์กัน หากล้อหลังเกิดอาการหมุนฟรีระบบจะลดการส่งกำลังของเครื่องยนต์อัตโนมัติ ช่วยลดอาการลื่นไถลในสภาพพื้นถนนผิดปกติ สามารถเปิดปิดได้
โหมดต่างๆ ในการขับขี่
All New YAMAHA NMAX TECH MAX มาพร้อมการขับขี่ 2 รูปแบบได้แก่
T Mode (Town Mode)เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและชีวิตประจำวันพร้อมช่วยประหยัดน้ำมัน ขับขี่ง่าย นุ่มนวล (ใช้รอบต่ำกว่า)
S Mode (Sport Mode)ให้สมรรถนะการเร่งที่ดีเยี่ยมพร้อมความสนุก สไตล์สปอร์ต อัตราเร่งดี เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ (ใช้รอบสูงกว่า)
ระบบ YECVT ทำงานผ่านชิปดาวฟังก์ชันสำหรับปรับอัตราทดชุดส่งกำลังมี 2 รูปแบบการทำงาน
1.ทำงานอัตโนมัติเมื่อบิดคันเร่งแบบทันที
2.ทำงานมาบิดคันเร่งพร้อมกดปุ่ม Shift Down Function
อัตราเร่ง ในรุ่น TECH MAX
อัตราเร่งทำได้ดีโดยเฉพาะเวลาเร่งแซงเมื่อเราเติมคันเร่งหรือกระแทกคันเร่งโดยใช้ T Mode (Town Mode)แต่อาจจะไม่ได้แรงขนาดที่ทำให้รู้สึกได้มากนัก ในทางชันก็เช่นเดียวกัน แต่หากปรับโหมดเป็นS Mode (Sport Mode) ความแตกต่างจะเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อต้องการเร่งแซง S Mode (Sport Mode)จะมีการเพิ่มรอบกว่าปกติอีก 1,000 รอบ ทำให้ขี่ได้สนุกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ต้องใช้ความคุ้นชินในการขับขี่อยู่บ้าง เช่นเมื่อเราขับมาด้วยความเร็วสูงสุด รอบเครื่องยนต์อยู่ที่7,000รอบแล้ว เราไม่สามารถเรียกรอบให้สูงไปกว่านี้ได้นั่นเอง
อัตราทดรอบในระบบ YECVT
ปรับอัตราทดได้ 3 ระดับเพิ่มพลังในการเร่งแซงหรือสร้างเอนจิ้นเบรคคือการชะลอความเร็วทุกการกดปุ่ม Shift คือการยกระดับประสบการณ์ขับขี่ Shift Down Function จะควบคุมการเคลื่อนที่ของสายพานผ่านกล่องควบคุมชุดส่งกำลัง YECVT ปรับอัตราทดได้โดยการขับเคลื่อนเฟืองในชุดขับสายพานหน้าแทนการใช้ตุ้มแรงเหวี่ยงระบบนี้เพิ่มความแม่นยำในการปรับอัตราทดมอบประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาวะการขับขี่โดยระบบ YECVT มีคุณภาพสูง
หลักการทำงานของ YECVT หลังจากกล่องควบคุมชุดส่งกำลัง YECVT รับคำสั่งจากการเลือกฟังก์ชันโดยผู้ขับขี่แล้วจะทำการประมวลผลและส่งสัญญาณไปยังมอเตอร์ YECVT เพื่อทำการขับเฟืองชุดสายพานหน้าแทนที่ตุ้มแรงเหวี่ยง(ของเดิมในรุ่นก่อนหน้า) ทำให้สายพานเคลื่อนที่ตามความเหมาะสมจากการตรวจจับเซนเซอร์จับตำแหน่งล้อขับสายพานหน้าและเซ็นเซอร์วัดความเร็วล้อขับสายพานหลังโดยจะส่งข้อมูลส่งให้ ECU ประมวลผลเพื่อปรับการทำงานของชุดส่งกำลังให้มีอัตราทดสอดคล้องกับการขับขี่มากขึ้น
การทำงานของรอบเครื่องยนต์ระหว่าง 2 โหมดจะมีความเร็วรอบที่ไม่เท่ากันตัวอย่างเช่นเมื่อใช้ความเร็วที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่ากัน
ใน T Mode รอบเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 รอบต่อนาที
ใน S Mode รอบเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 รอบต่อนาที
ในส่วนชั้นในส่วนการชะลอความเร็วเพื่อสร้าง Engine Break นั้นการเลือกใช้โหมดยังส่งผลถึงความแตกต่างในกรณีเลือกใช้ S Mode ผู้ขับขี่จะรับรู้ถึงแรงกระชากที่มีมากกว่าในT Modeเนื่องจากรอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่าทำให้รอบเครื่องยนต์ลดลงมากกว่า
ระบบเบรก
ดิสก์เบรก ABS ทั้งล้อหน้า-หลัง มั่นใจได้มากกว่าควบคุมแรงดันเบรกอัตโนมัติ ลดอาการล้อล็อกทั้งหน้าและหลัง กรณีเบรกกะทันหัน แต่ในตัวรุ่น TECH MAX Engine Break ก็จะช่วยในการลดภาระในการใช้เบรกเมื่อเทียบกับการขับขี่แบบทั่วไปที่เราต้องใช้เบรก 70-80% ก็จะลดเหลือ 20-30%ในการขับขี่ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ความเร็วไม่ต่ำกว่า15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากต่ำกว่านี้ YECVT จะไม่ทำงาน
ช่วงล่าง
โช้คอัพ หน้าหลังถูกออกแบบขึ้นมาใหม่ ทำให้ช่วงล่างเฟิร์มขึ้นมาก เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจโดยโช้คอัพหลังสามารถปรับค่าได้1ระดับตามความต้องการในการใช้งาน
อัตราสิ้นเปลือง
แน่นอนว่าเป็นรถที่ถูกออกแบบมาให้เลือกฟังชั่นการใช้งาน ซึ่งเป็นธรรมดาที่ S Mode (Sport Mode)ต้องสิ้นเปลืองพลังงานกว่าโหมด T Mode (Town Mode) อย่างแน่นอน แต่การที่จะใช้ S Mode (Sport Mode) ตลอดเวลานั้นเป็นไปได้น้อย เพราะยังไงก็ตามแต่ทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ ทุกอย่างจะรีเซ็ตกลับมาเป็น T Mode (Town Mode) เสมอ
โดยรวมแล้ว
เป็นรถที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่ ผู้ชายวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน ที่ต้องการความเป็นผู้นำเทรนหรือลองสิ่งใหม่ ซึ่งตัวAll New YAMAHA NMAX TECH MAX ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์ที่ดูดุดัน สีสันที่ดูลึกลับน่าค้นหา เรื่องเครื่องยนต์ไม่ต้องพูดถึงจะขี่แบบประหยัดน้ำมันหรือจะซิ่งก็สามารถเลือกได้แค่ปลายนิ้ว ทำให้สนุกในการขับขี่ไม่ว่าจะเร่งหรือลดความเร็ว ก็สามารถทำได้ดังใจ ที่สำคัญการรับประกันที่ยาวนาน นานถึง 5 ปีหรือ 50,000กิโลเมตรเพื่อการขับขี่ที่ราบรื่นและไร้กังวลตลอดการใช้งาน
ส่วนตัวแล้วชอบเทคโนโลยี YECVT หรือ YAMAHA Electric Continuously Variable Transmission มาก มันเป็นการพัฒนาต่อยอดและสร้างความเปลี่ยนแปลงในรถออโตเมติก ที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นในรุ่นเล็ก ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นการช่วยในเรื่องของการทดรอบก็ตาม แต่หากเทคโนโลยีนี้ไปอยู่ในคลาสที่สูงขึ้นอย่างตัวXMAX ก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไปอีก
สำหรับใครก็ตามที่มองว่าถึงมีก็ไม่ได้ใช้ ตัวผู้ทดสอบมองว่า มีแล้วไม่ได้ใช้ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี น่าจะดีกว่า
ถ้าเทียบกับตัวโมเดลแรกจนถึงโมเดลปัจจุบัน ทางแบรนด์ได้แก้ไขปรับปรุงในหลายๆด้านให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อาการรถร่อนเมื่อขี่ความเร็วสูง การอัพเกรดสายพานให้มีความทนทานสูงขึ้น อัพเกรดเครื่องยนต์ใหม่จากตัวดันโซ่ที่เป็นสปริงเป็นปั๊มไฮดรอลิก ชามไฟฟ้าชุดใหม่จากของเดิมเป็นตุ้มเหวี่ยง มีความเป็นพรีเมี่ยมสปอร์ตมากขึ้น
ข้อสังเกตุที่พบ
ในส่วนของปุ่มการใช้งานต่างๆด้านซ้ายมือ ต้องใช้ความคุ้นชินอยู่พอสมควร เพราะปุ่มไฟเลี้ยวปุ่มแตรกับปุ่มShift Down Function จะอยู่ถัดกัน จากแต่ก่อนที่ต้องระวังการกดไฟเลี้ยวเป็นบีบแตร แต่ตอนนี้ จากจะใช้Shift Down Function ก็อาจจะบีบแตรลั่นได้ (ซึ่งผู้ทดสอบเองก็ลั่นไปหลายครั้งเหมือนกัน)
ส่วนตัวผู้ทดสอบมองว่า All New Yamaha Nmax โฉมใหม่ในราคา
รุ่น Standard ราคา 98,500 บาท
รุ่น TECH MAX ราคา 113,500 บาท
ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคาเลยทีเดียว โดยเฉพาะในรุ่นท็อปอย่าง TECH MAX ที่จัดฟีเจอร์มาแบบเต็มๆ แบบสามารถใช้งานกันยาวๆ ได้เลย ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเอามากๆ เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจก็สามารถไปสัมผัสตัวเป็นๆ ได้ที่โชว์รูมของทาง Yamaha ทั่วประเทศ
![](https://www.greatbiker.com/wp-content/uploads/2024/10/464499569_8858441034206787_6744137520812343531_n.jpg)
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience