Yamaha FJ-09 Tracer รถแนวเอนกประสงค์ตัวแรง (Specs Review)

กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ สำหรับคอลั่มสเปครีวิวในวันนี้ ซึ่งขอหยิบยกเอาหนึ่งโมเดลที่ถือว่าเปิดตัวกันในบ้านเราไปไม่นานมานี้มาพูดคุยกัน นั่นก็คือเจ้า Yamaha FJ-09 Tracer นั่นเอง ก็สร้างกระแสตื่นตัวให้กับวงการบิ๊กไบค์บ้านเราได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ที่เราตามๆ ข่าวกันมาก่อนเปิดตัวจริงๆ ด้วยซ้ำ เพราะว่ารถในแนวนี้ถือว่าใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเมือง นอกเมือง ก็ทำได้ดีทั้งนั้น ลองไปพบกับรายละเอียดแบบเต็มๆ ของมันด้วยกันเลยครับ

เล่ากันสักเล็กน้อยว่าเจ้า FJ-09 คันนี้เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกันกับ FZ-09 หรือว่า MT-09 ที่เป็นรถในแนวสปอร์ตเนกเกตนั่นเอง แต่นอกจากนั้นแล้วเรียกได้ว่าทำการยกระดับกันทั้งหมด ให้เหมาะสมกับการใช้งานที่แอดวานซ์มากกว่า  เจ้า FJ-09 คันนี้มันเกิดมาเพื่อการเดินทางไกลเป็นหลัก ถังน้ำมันก็เลยมีเพิ่มความจุขึ้นมาเป็นที่ 18 ลิตร (จากเดิมแค่ 14 ลิตรในรุ่น MT-09 ธรรมดา) เบาะนั่งสามารถปรับได้ โดยที่หัวใจสำคัญยังคงเป็นเรื่องของขุมกำลัง 3 สูบที่ใช้ระบบ Crossplane อันเป็นเอกลักษณ์ของทางค่าย Yamaha เหมือนเดิม ที่เป็นการรวมเอาข้อดีของรถ 2 สูบ และ 4 สูบไว้ด้วยกัน ขนาดเครื่องยนต์นั้นอยู่ที่ 847 cc 4 จังหวะ และมีแรงม้าเท่ากับ 115 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ ในขณะที่ทอร์คหรือแรงบิดนั้นให้มาที่ 87.5 นิวตันเมตร ที่ 8,500 รอบ และยังคงสามารถเลือกโหมดในการขับขี่ได้เหมือนเดิม (มี 3 โหมดคือ ธรรมดา, ทัวร์ริ่ง และ สปอร์ต ที่อัดกันหน้าหงายล้อยกเลยทีเดียว) ในเรื่องไฟหน้านั้นใช้แบบ LED ไฟคู่

ในเรื่องของช่วงล่างนั้น นอกเหนือไปจากโช๊คอัพหน้าแบบ upside down อย่างที่เราเห็นกันแล้ว ก็จะมีระบบป้องกันล้อล็อกฉุกเฉินหรือว่า ABS นั่นเอง รวมไปถึงระบบป้องกันล้อหมุนฟรีอย่าง Traction Control ด้วย และด้วยความที่กลายร่างเป็นรถทรงทัวร์ริ่งแล้วเลยออกแบบแฟริ่งหน้ามาครอบ พร้อมด้วยชิลด์กันลมขนาดใหญ่ด้านหน้า และเอกลักษณ์อย่างหนึ่งสำหรับรถแนวนี้ที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือแฮนด์บาร์ที่ยก สูงขึ้นทำให้ท่านั่งในการขับขี่นั้นวางหลังได้ตรง ไม่เมื่อยในการเดินทางไกล

ในส่วนของการดีไซน์แล้ว ถือว่าเป็นรถแนวทัวร์ริ่งที่หน้าตาออกมาค่อนข้างทันสมัยมากๆ ทีเดียว เมื่อเทียบกับแนวทัวร์ริ่งรุ่นอื่นๆ จากทางค่ายเดียวกันเอง เส้นสายนั้นมีความเฉียบคม และโฉบเฉี่ยว ให้อารมณ์สปอร์ตแฝงเข้ามาอยู่เต็มๆ ซึ่งนอกจากตัวเครื่องยนต์และโครงรถที่หยิบยืมของ MT-09 มาใช้แล้ว ส่วนที่เหลือนั้นถูกออกแบบมาใหม่ทั้งหมดเลย

หากใครกำลังมองหารถที่เอาไว้ใช้วิ่งออกทริปกันแบบยาวๆ ก็ต้องมองตัวนี้ไว้เป็นทางเลือก และอย่างที่เกริ่นไป ถึงแม้ว่ามันจะมีลักษณะเป็นรถทัวร์ริ่ง แต่ด้วยมิติของตัวรถที่ค่อนข้างเพรียว ทำให้ยังคงมีความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมืองได้อยู่ เรียกได้ว่าคันเดียวจบๆ เลยก็สามารถทำได้ สนนราคาที่วางจำหน่ายกันนั้นอยู่ที่ 479,000 บาท ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับรถนำเข้าทั้งคันอย่างนี้ ใครสนใจก็ลองไปสัมผัสตัวเป็นๆ กันได้ที่โชว์รูมของ Yamaha ใกล้บ้านท่านเลยครับ

ขอบคุณภาพจาก asphaltandrubber.com yamaha-motor.eu scigacz.pl hyperpro.com