Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

Ducati XDiavel 2016 คว้ารางวัล Design ยอดเยี่ยม

2016-Ducati-XDiavel-S-20

ถือว่าเริ่มต้นกันได้สวยเลยทีเดียว หลังจากที่เปิดตัวกันมาไม่นาน แต่ว่ารถบิ๊กไบค์จากทางค่าย Ducato อย่างเจ้า XDiavel 2016 ก็คว้ารางวัล Red Dot Award 2016: Best of the Best ในสาขาการออกแบบยอดเยี่ยม ซึ่งทาง Red Dot นั้นเป็นสื่อที่ให้รางวัลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลายๆ หมวดหมู่ด้วยกัน (คล้ายๆ กับรางวัลออสการ์สำหรับสินค้านั่นเอง)

โดยปัจจัยหลักๆ ที่เจ้า XDiavel นั้นคว้ารางวัลนี้ก็คือ การออกแบบที่มีการปรับปรุงและพัฒนาไปจากเดิมอย่างมาก ซึ่งแต่เดิมมันมีความเป็นครูเซอร์อย่างเต็มตัว แต่ขาดความคล่องตัวไป ซึ่งเมื่อมันมาเป็นโมเดลใหม่นี้ มันใส่ความเป็นสปอร์ตเข้าไปอย่างชัดเจนด้วยมากๆ จนทำให้ชนะใจกรรมการและคว้ารางวัลนี้ไปในที่สุด และแน่นอนว่าทางค่าย Ducati นั้นก็ดีใจกับรางวัลนี้มากๆ ซึ่งรางวัลนี้การันตีได้ว่าทางค่ายเองนั้นสามารถสร้างรถมอเตอร์ไซค์ที่มีสไตล์, มีการพัฒนาและมีประสิทธิภาพได้ในคันเดียวกันนั่นเอง

http://i2.wp.com/www.asphaltandrubber.com/wp-content/uploads/2015/11/2016-Ducati-XDiavel-04.jpg

ซึ่งวันนี้เราเลยถือโอกาสนี้จะพาไปรู้จักกันกับเจ้าโมเดลนี้ให้มากขึ้นด้วย อย่างแรกเลยที่เราอยากจะให้โฟกัสกันไปก็คือ จากเดิมที่รถ Diavel นั้นเป็นรถที่เน้นการเดินทางในแบบฉบับของครูเซอร์เป็นหลัก แต่ว่าเจ้า X Diavel 2016 คันนี้จะผสมผสานอารมณ์ของรถสปอร์ตลงไปด้วยอย่างชัดเจน จึงทำให้มันสามารถใช้งานได้ดีไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกทริป หรือว่าใช้งานในเมืองที่ต้องการความคล่องตัวตามแบบฉบับรถสปอร์ตก็ตาม (สังเกตได้ว่าตัว X ในชื่อรุ่นนั้นมาจากคำว่า Cross ที่บ่งชี้ถึงการใช้งานแบบเอนกประสงค์นั่นเอง)

http://i1.wp.com/www.asphaltandrubber.com/wp-content/uploads/2015/11/2016-Ducati-XDiavel-03.jpg

ในขณะที่ขุมกำลังของตัวรถนั้นให้มาที่ 1,262 cc ขนาดช่วงชักและกระบอกสูบเท่ากับ 106 x 71,5 mm โดยแน่นอนว่าใช้สูบแบบ L-Twin (2 สูบ) 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ตรงนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่ามันยังคงเป็นรถที่มาพร้อมกับพลังอันมหาศาล และการวางสูบแบบ L-Twin นั้นยังช่วยให้อัตราเร่งมีความดุดันตั้งแต่ในรอบเครื่องยนต์ที่ไม่สูงมาก โดยอัตราส่วนกำลังอัดเท่ากับ 13:1 ให้แรงม้ามาสูงสุด 156 hp ที่ 9,500 รอบต่อนาที และทอร์คที่ 128.9 นิวตันเมตรที่เพียง 5,000 รอบต่อนาทีเท่านั้น ตรงนี้ทำให้การบิดในรอบต่ำนั้นหน้าหงายเอาง่ายๆ

http://i2.wp.com/www.asphaltandrubber.com/wp-content/uploads/2015/11/2016-Ducati-XDiavel-S-14.jpg

ในระบบการจ่ายน้ำมันนั้นจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด, คันเร่งนั้นเป็นไฟฟ้า ride-by-wire system ในขณะที่ท่อรถเป็นแบบสแตนเสลสตีลแบบท่อคู่ ตัวรถใช้ระบบเกียร์แบบ 6 สปีดด้วยกัน และขับเคลื่อนด้วยระบบสายพาน และโครงรถนั้นเป็นแบบ Tubular steel Trellis frame มาดูกันต่อที่ส่วนของระบบช่วงล่างกันบ้าง โช๊คอัพหน้านั้นเป็นแบบ USD ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 mm ในชณะที่ด้านหลังนั้นเป็นแบบ single shock absorber ที่สามารถปรับระยะยุบตัวหรือคืนตัวได้ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม ล้อเป็นแบบแม็กส์อัลลอยทั้งหน้าและหลัง โดยยางรถนั้นใช้บริการของ Pirelli Diablo Rosso II ในเรื่องของระบบความปลอดภัยนั้นด้านหน้าเป็นเบรกของ Brembo แบบเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ ดิสก์คู่ขนาด 320 mm ส่วนเบรกหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 265 mm แบบคาลิปเปอร์อิสระ 2 ลูกสูบ โดยทำงานร่วมกับระบบ ABS ทั้งหน้าและหลัง และน้ำหนักตัวของรถนั้นค่อนข้างเยอะทีเดียว อยู่ที่ 220 กก. แต่ด้วยการดีไซน์ที่ตัวรถนั้นมีความสูงไม่มากนัก และช่วงฐานยาวออกไป ทำให้การคอนโทรลรถนั้นค่อนข้างจะง่ายทีเดียว และถังน้ำมันนั้นจุมาให้ที่ 18 ลิตร (อาจจะดูน้อยไปนิดสำหรับขาทัวร์ริ่ง เมื่อเทียบกับขนาด cc ของรถ)

http://i2.wp.com/www.asphaltandrubber.com/wp-content/uploads/2015/11/2016-Ducati-XDiavel-02.jpg

และโมเดลนี้ก็วางจำหน่ายกันไปในบ้านเราอย่างเป็นทางการแล้ว ก็เชื่อว่าแฟนๆ รถแนวนี้ หรือโดยเฉพาะสาวกค่ายดูคาติคงจะให้ความสนใจมันไม่น้อยเลยทีเดียว ก็ลองไปดูตัวเป็นๆ กันได้ที่โชว์รูม หากอยากจะคว้ามันมาครองสักคัน ก็จะถือว่าคิดไม่ผิด เพราะได้รับรางวัลการันตีมาหมาดๆ นี่เอง

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก visordown.com
ขอบคุณภาพจาก asphaltandrubber.com