Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

YAMAHA THAILAND RACING TEAM ฟอร์มแกร่ง คว้าโพเดี้ยมจากรายการแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่นกลับมาได้

ก่อนอื่นเลยต้องขอแสดงความยินดีกับทาง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม กันก่อนเลยเมื่อเดินทางไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศถึงญี่ปุ่น กับรายการ 2016 MFJ SUPER BIKE ALL JAPAN ROAD RACE CHAMPIONSHIP หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ALL JAPAN โดยนักบิดตัวแทนชาวไทยทั้ง 3 คนอย่าง เดชา ไกรศาสตร์, เฉลิมพล ผลไม้ และ อนุภาพ ซามูล ก็ทำผลงานได้เป็นอย่างดีและสมศักดิ์ศรี เราไปติดตามรายงานบรรยากาศการแข่งขัน และสรุปผลงานของเหล่าทัพนักบิดไทยในศึกครั้งนี้ด้วยกันเลยครับ

yamaha-1-550x33030

นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล (คนที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายสนับสนุนการขาย และการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด นำทัพนักกีฬาไทย สังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม กลับสู่มาตุภูมิ หลังจากที่ออกไปทำศึกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ 2016 MFJ SUPER BIKE ALL JAPAN ROAD RACE CHAMPIONSHIP สนามที่ 4 ณ สนาม โอกายาม่า เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น โดย เดชา ไกรศาสตร์ #2 สามารถคว้าอันดับที่ 2 มาครองได้อย่างยอดเยี่ยม และเฉลิมพล ผลไม้ #65 คว้าอันดับที่ 4 มาครองพร้อมเก็บคะแนนสะสมขยับขึ้นเป็นอันดับ 2 มีลุ้นแชมป์สนามสุดท้าย สำหรับดาวรุ่งอย่างอนุภาพ ซามูล #500 ที่ได้รับโอกาสลงทำการแข่งขันในรุ่น J-GP3 ได้เดินทางกลับมาพร้อมกันอีกด้วย โดยมีสื่อมวลชน และแฟนๆ ชาวไทย ร่วมให้การต้อนรับ และมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดี ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเร็วๆ นี้

กลับมาระเบิดความมันส์กันอีกครั้งกับเกมการชิงชัยความเป็นเจ้าความเร็วสองล้อที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นอย่างรายการ 2016 MFJ SUPERBIKE ALL JAPAN ROAD RACE CHAMPIONSHIP โดยครั้งนี้ถือเป็นสนามที่ 8 ของรายการ แต่เป็นสนามที่ 4 ของรุ่น ST600 ซึ่งเป็นรุ่นที่ 2 นักบิดไทยสังกัด YAMAHA THAILAND RACING TEAM อย่าง “เดชา ไกรศาสตร์” และ “เฉลิมพล ผลไม้” ที่ได้ลงทำการแข่งขัน นอกจากนี้ “เจ้าตี-อนุภาพซามูล” ก็ได้โอกาสลงเกี่ยวกับประสบการณ์ในรุ่น J-GP3 เป็นครั้งแรก!!! โดยการแข่งขันสนามนี้จัดขึ้น ณ สนาม โอกายาม่า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23-25 กันยายน 2559

สำหรับการชิงชัยที่ สนาม โอกายาม่า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แห่งนี้ ในปี 2015 ที่ผ่านมา “เดชา ไกรศาสตร์” สามารถคว้าชัยชนะอันดับ 1 นำธงชาติไทยโบกสะบัดบนโพเดี้ยมสูงสุดได้สำเร็จ ส่วนเพื่อนร่วมทีมอย่าง “เฉลิมพล ผลไม้” ก็เป็นเจ้าของสถิติเร็วที่สุดในรุ่น ST600 ที่สนามแข่งนี้ซึ่งมีระยะทาง 3,703 เมตร ด้วยเวลา 1’32.523 นาทีต่อรอบ โดยครองสถิติมาตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งถือได้ว่า 2 นักบิดไทย YAMAHA THAILAND RACING TEAM มีผลงานที่ดี และมีลุ้นยืนโพเดี้ยมในการแข่งขันสนามนี้เป็นอย่างมาก

โปรแกรมการแข่งขันวันแรก (23 ก.ย.) เป็นช่วงของการซ้อม Practice 1 และ 2 โดยในช่วงเช้าแทร็คเปียกเนื่องจากมีฝนตกลงมา ส่วนช่วงบ่ายนั้นท้องฟ้าปลอดโปร่งแต่พื้นแทร็คมีความชื้นอยู่เล็กน้อย ซึ่งในการซ้อมของรุ่น ST600 นั้น ทัพนักบิดของไทย YAMAHA THAILAND RACING TEAM ทั้งเจ้า
เดชา ไกรศาสตร์ และ เฉลิมพล ผลไม้ ลงทำการซ้อมโดยมุ่งเน้นในเรื่องของการปรับเซ็ทรถแข่งให้มีความพร้อมสมบูรณ์ที่สุด ทั้งในเรื่องของเครื่องยนต์ และระบบกันสะเทือน ซึ่งเวลาต่อรอบที่ดีที่สุดในการซ้อมของทั้งคู่เกิดขึ้นในการซ้อมครั้งที่ 2 โดยเจ้า เดชา ไกรศาสตร์ สามารถรั้งอันดับที่ 1 ของเวลาในการซ้อมวันนี้ด้วยเวลา 1’34.523 นาที ส่วน เฉลิมพล ผลไม้ ทำดีที่สุดด้วยเวลา 1’34.821 นาที รั้งอยู่ในอันดับที่ 4 และการซ้อมในรุ่น J-GP3 ของ อนุภาพ ซามูล ที่เน้นในเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับรถแข่งนั้น ผลการซ้อมปรากฎว่าสามารถทำเวลาห่างจากหัวแถวที่เร็วที่สุดอยู่เพียง 0.024 วินาที โดยทำเวลา ดีที่สุดในการซ้อมวันแรกนี้อยู่ที่ 1’40.210 นาที จากการซ้อมในครั้งที่ 2

ส่วนในวันที่สองตามโปรแกรมการแข่งขัน (24 ก.ย.) เป็นวันของรอบควอลิฟายหาตำแหน่งสตาร์ท โดยนักบิดไทย YAMAHA THAILAND RACING TEAM ที่ลงสนามเป็นคิวแรกก็คือ อนุภาพ ซามูล ที่ลงชิงชัยในรุ่น J-GP3 ซึ่งตลอดเวลา 35 นาที ที่เปิดให้นักแข่งลงสนามขับขี่จับเวลานั้น “เจ้าตี อนุภาพ” ถึงแม้จะเสียเปรียบนักบิดเจ้าถิ่นในเรื่องความคุ้นเคยสนาม แต่ก็มุ่งมั่นในการขี่เพื่อกดเวลาให้ได้ดีที่สุด โดยเจ้าตัวสามารถทำเวลาดีที่สุดอยู่ที่ 1’38.958 นาที ในรอบที่ 17 จากการลงขับขี่จับเวลารวมทั้งหมด 19 รอบ มีเวลาห่างจากหัวแถวอยู่ประมาณ 2 วินาที และจะได้ออกสตาร์ทจากกริดสตาร์ทที่ 14 ในวันแข่งขันจริง

จากนั้นช่วงก่อนเที่ยงก็เป็นคิวการควอลิฟายของรุ่น ST600 ที่มีเวลาให้นักแข่งลงทำการควอลิฟาย เพียงแค่ 40 นาที ซึ่งในวันนี้มีรถแข่งลงทำการควอลิฟายจำนวนมาก ส่งผลให้ 2 นักบิดไทยตัดสินใจว่าช่วง 15 นาทีแรกนั้น จะยังไม่ลงวิ่งจับเวลา รอจังหวะให้แทร็คเบาบางก่อนจึงค่อนลงวิ่ง ซึ่งหลังจากที่ลงแทร็คแล้วเพียงแค่ 2 รอบนักแข่งไทยทั้งคู่ก็ทำเวลาดีที่สุดของตัวเองได้ โดยเดชา ไกรศาสตร์ อยู่ที่ 1’33.823 นาทีส่วน เฉลิมพล ผลไม้ อยู่ที่ 1’34.233 นาที แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เจอปัญหาติดรถช้า ทำให้ไม่สามารถกดเวลาลงได้อีก โดย 2 นักบิดไทย YAMAHA THAILAND RACING TEAM จะได้ออกสตาร์ทในรอบแข่งขันจริงรุ่น ST600 ในกริดสตาร์ทที่ 4 และ 5 ตามลำดับ

สำหรับในรอบการแข่งขันจริง (Race Day / 25 ก.ย.) ของรายการ 2016 MFJ SUPERBIKE ALL JAPAN ROAD RACE CHAMPIONSHIP นั้น โปรแกรมในช่วงเช้าเปิดโอกาสให้นักแข่งทุกรุ่นได้ลงทำการวอร์มอัพเพื่อเช็คความพร้อมรอบสุดท้ายกันอีกครั้ง นักบิดไทย YAMAHA THAILAND RACING TEAM ทั้ง 3 คน ต่างก็ลงทำการวอร์มอัพเช่นกัน โดยในรุ่น ST600 เดชา ไกรศาสตร์ และ เฉลิมพล ผลไม้ ต่างรู้สึกพอใจกับรถแข่งที่มีการปรับเซ็ทใหม่จากรอบควอลิฟายเป็นอย่างมาก ส่งผลให้เกิดความมั่นใจ และมั่นใจว่าจะทำเกมได้อย่างสนุกในการแข่งขันแน่นอน
ส่วน อนุภาพ ซามูล ที่ลงในรุ่น J-GP3 นั้น ลงวอร์มอัพพร้อมกับรถที่ได้มีการปรับเซ็ทใหม่เช่นกัน ซึ่งก็รู้สึกพอใจและมั่นใจว่าจะขับเคี่ยวกับนักบิดเจ้าถิ่นได้อย่างแน่นอน

โดยเริ่มประเดิมความมันส์ด้วยรุ่น J-GP3 ซึ่ง อนุภาพ ซามูล นักบิดไทย YAMAHA THAILAND RACING TEAM ที่มีโอกาสลงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการขี่ Race Bike เป็นครั้งแรกนั้น ออกสตาร์ทในกริดที่ 14 ซึ่งทันทีที่เริ่มการแข่งขัน นักบิดไทยที่ขี่รถแข่งหมาย 500 ก็บิดออกตัวได้ดีและสามารถเกาะกลุ่มนักบิดเจ้าถิ่นได้อย่างรวดเร็ว

จากนั้นเกมการขับเคี่ยวในรุ่นนี้ก็เป็นไปอย่างสนุก ตื่นเต้น เนื่องจากนักแข่งในรุ่นนี้เกาะกลุ่มไล่บี้กันเป็นกลุ่มใหญ่ ซึ่ง “เจ้าตี 500” ของไทยก็พยายามกดคันเร่งเบียดสู้กับเจ้าถิ่นแบบไม่ยอมลดละ โดยมีโอกาสแซงขยับตำแหน่งขึ้นมาอยู่ในอันดับ 6 ซึ่งเป็นหัวนำในกลุ่มที่ 2 ได้สำเร็จ ก่อนที่ในรอบที่ 11 รถแข่งจะมีอาการสะบัดในขณะเปิดคันเร่งทำให้พลาดท่าล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็ถือว่านักแข่งไทยสามารถทำผลงานได้ดีในการลงแข่งขันด้วยรถแข่ง Race Bike เป็นครั้งแรก

อนุภาพ ซามูล #500 กล่าวหลังจากจบการแข่งขันรุ่น J-GP3 ว่า “วันนี้หลังจากออกสตาร์ทไปก็พยายามเกาะกลุ่มหน้าให้ติด ซึ่งก็สามารถทำตามแผนได้ที่วางไว้ได้ โดยติดอยู่ในอันดับที่ 12 จากนั้นก็พยายามไล่แซงขยับขึ้นมาทีละคันจนสามารถขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มที่ 2 ก่อนที่ในรอบที่ 11 รถเกิดอาการสะบัดทำให้ล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไป แต่สำหรับการที่ได้โอกาสเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เยอะมาก ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาการแข่งขันได้ต่อไป ต้องขอขอบคุณไทยยามาฮ่าที่ให้การสนับสนุน ขอบคุณแฟนๆ กองเชียร์ที่ส่งกำลังใจให้ผมด้วยครับ ขอบคุณครับ”

ส่วนรุ่นที่เป็นไฮไลท์ของนักบิดไทย YAMAHA THAILAND RACING TEAM ในรุ่น ST600 ที่มีโปรแกรมการแข่งขันเป็นรุ่นสุดท้ายของรายการนั้น ปรากฎว่าฝนได้ตกลงมาก่อนหน้าที่จะแข่งอย่างหนักทำให้กรรมการประกาศเป็น Wet Race พร้อมทั้งเลื่อนการสตาร์ทออกไปประมาณ 15 นาที และลดรอบการแข่งขันจาก 19 รอบ เหลือแค่ 16 รอบเท่านั้น เมื่อถึงเวลาแข่งขันนักแข่งเข้าประจำกริดสตาร์ทในเวลาประมาณ 16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) โดย เดชา ไกรศาสตร์ #2 อยู่ในกริดที่ 4 ส่วนเพื่อนร่วมทีม เฉลิมพล ผลไม้ #65 อยู่กริดสตาร์ทที่ 5 ทันทีที่สัญญาณไฟแดงสตาร์ทดับลงนักบิดไทยทั้งคู่ก็พุ่งทะยานฝ่าสายฝนออกตัวไปอย่างรวดเร็ว และสามารถเกาะกลุ่มผู้นำได้สำเร็จตั้งแต่เข้าโค้งแรก โดยนักบิดไทย เดชา#2 และ เฉลิมพล นั้นอยู่ในอันดับ 3 และ 5 ตามลำดับ ก่อนที่ เฉลิมพล #65 จะกดคันเร่งพุ่งแซงขึ้นมานำหน้าเพื่อนร่วมทีมได้หลังจากผ่านรอบแรกไป จากนั้นกลุ่มหน้าที่มีนักแข่งอยู่ 5-6 คัน ก็เริ่มทิ้งระยะห่างกลุ่มหลังออกไป โดยที่ เดชา #2 นั้นขยับแซงเพื่อนร่วมทีมได้ในรอบที่ 6 และพยายามไล่บี้นักบิดเจ้าถิ่นที่อยู่ด้านหน้าอีก 2 ซึ่ง เดชา #2 ก็สามารถขยับแซงเจ้าถิ่นหมายเลข 9 ขึ้นมารั้งในอันดับที่ 2 ได้สำเร็จในช่วงกลางเกมของการชิงชัย โดยมีผู้นำคือนักบิดหมายเลข 46 ส่วน เฉลิมพล #65 นั้นยังคงรั้งอันดับ 4 โดยขี่ประคองเพื่อเก็บแต้มเพราะนักแข่งที่มีคะแนนสะสมนำนั้นตามหลังนักบิดไทยอยู่หลายอันดับด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ เฉลิมพล#65 คะแนนไล่จี้เพื่อสามารถไปลุ้นแชมป์ในสนามสุดท้ายได้ ในช่วงท้ายเกม 2 นักบิดไทยเริ่มขี่แบบประคองตัวเพื่อรักษาอันดับ โดย เดชา #2 ยังคงรั้งอยู่อันดับ 2 และ เฉลิมพล #65 ก็ยังอยู่ในอันดับ 4 เช่นเดิม ซึ่งในช่วง 3 รอบสุดท้าย นักแข่งในกลุ่มนำต้องเจอกับรถช้าที่ถูกน็อครอบทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังกันมากขึ้น จนกระทั้งครบรอบการแข่งขันทั้ง 16 รอบ ผลปรากฎว่านักบิดไทย YAMAHA THAILAND RACING TEAM เดชา ไกรศาสตร์ #2 ก็สามารถทะยานฝ่าสายฝนรับธงตราหมากรุกคว้าอันดับ 2 มาครองพร้อมกับนำธงชาติไทยขึ้นโพเดี้ยมได้สำเร็จ โดยเพื่อนร่วมทีม เฉลิมพล ผลไม้ #65 ตามเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 4 เก็บคะแนนสะสมขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 2 ตามหลังผู้นำอยู่เพียง 10 แต้มเท่านั้น ทำให้มีลุ้นแชมป์ประจำปีรุ่นST600 ในปีนี้ในสนามสุดท้าย

นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของนักบิดไทย YAMAHA THAILAND RACING TEAM ที่สามารถแสดงศักยภาพเบียดสู้กับนักบิดเจ้าถิ่นได้แบบสุดมันส์เลยทีเดียว พร้อมทั้งยังมีโอกาสที่จะนำแชมป์ประจำปีกลับสู่เมืองไทยได้อีกครั้ง!!!

YAMAHA THAILAND RACING TEAM :

เดชา ไกรศาสตร์ #2 กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “วันนี้ดีใจมากครับ จบที่ 2 รู้สึกมีความสุขกับโพเดี้ยมครับ เรียกความมั่นใจให้ผมได้เยอะ วันนี้เป็นการแข่งในเรซฝนครับ นักแข่งทุกคนรู้ดีครับว่าสนามที่นี่ลื่น การออกตัวช่วง 3 รอบแรก ค่อนข้างยากที่จะทำความเร็ว ช่วงนั้นผมอยู่ที่ 3 และให้เบียร์นำขึ้นไป แต่พอผ่านไป 6 รอบ ผมเริ่มมั่นใจมากขึ้น พยายามไล่หมายเลข 9 ให้ทัน พอแซงได้ก็พยายามหนีครับ แต่สนามลื่นมากเลยประคองไปเรื่อยๆโดยเฉพาะ 3 รอบสุดท้ายเจอรถน็อครอบเยอะมาก คิดว่าไม่เสี่ยงดีกว่า วันนี้เป็นเรซที่ยาก แต่เชื่อว่าด้วยประสบการณ์และทีมงานที่ร่วมมือกันเต็มที่ ทำให้ผมได้ขึ้นโพเดี้ยมขอบคุณแฟนคลับและสปอนเซอร์ โดยเฉพาะ YAMAHA THAILAND RACING TEAM นะครับ ช่วยติดตามผลงาน และเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ”

เฉลิมพล ผลไม้ #65 กล่าวหลังจบการแข่งขันในอันดับที่ 4 ว่า “วันนี้อากาศแปรปรวนมากมากครับ ฝนตกๆ หยุดๆ ทั้งวัน ทำให้การเลือกยาง และการเซ็ทรถค่อนข้างยาก แต่ในที่สุดช่วงที่ลงแข่งก็เป็นช่วงฝนตกครับ ครั้งนี้เนื่องจากฝนตกสนามค่อนข้างลื่น และกลุ่มนำไม่ได้เร็วกว่าเรา ผมเลือกที่จะขี่ตามเกม เพราะคนนำที่ 1 ไม่มีคะแนนอยู่เลยไม่ค่อยห่วง ก่อนลงแข่งคะแนนผมห่างจากผู้นำถึง 19แต้ม แต่พอผมเข้าที่ 4 สนามนี้ เก็บแต้มได้ทำให้คะแนนห่างจากผู้นำแค่ 10 คะแนน สนามสุดท้ายที่ซูซูก้า มีลุ้น สนุกแน่ครับ…ขอขอบคุณแฟนคลับ สปอนเซอร์ และ YAMAHA THAILAND RACING TEAM มากๆ ครับ สนามสุดท้ายผมว่ามีลุ้นแน่นอน ช่วยเชียร์ด้วยนะครับ”

อนุภาพ ซามูล #500 กล่าวหลังจากจบการแข่งขันรุ่น J-GP3 ว่า “วันนี้หลังจากออกสตาร์ทไปก็พยายามเกาะกลุ่มหน้าให้ติด ซึ่งก็สามารถทำตามแผนได้ที่วางไว้ได้ โดยติดอยู่ในอันดับที่ 12 จากนั้นก็พยายามไล่แซงขยับขึ้นมาทีละคันจนสามารถขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 6 ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มที่ 2 ก่อนที่ในรอบที่ 11 รถเกิดอาการสะบัดทำให้ล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไป…แต่สำหรับการที่ได้โอกาสเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เยอะมาก ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาการแข่งขันได้ต่อไป ต้องขอขอบคุณไทยยามาฮ่าที่ให้การสนับสนุน ขอบคุณแฟนๆ กองเชียร์ที่ส่งกำลังใจให้ผมด้วยครับ ขอบคุณครับ”

คุณธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้อำนวยการ YAMAHA THAILAND RACING TEAM กล่าวถึงผลงานของนักแข่งในทีมหลังจากจบการแข่งขันว่า “การแข่งขันในวันนี้ถือเป็นเกมที่ยากสำหรับทุกคนเพราะเป็น wet race ซึ่งฝนตกมาตลอดตั้งแต่ก่อนเริ่มการแข่งขัน ซึ่งต้องยอมรับว่านักแข่งของเราทั้ง ตั้น-เดชา และ เบียร์-เฉลิมพล ใช้ประสบการณ์และความเก๋าที่สะสมมานานและนำมาใช้ในสนามนี้ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งคู่ได้ขับขี่ไปจามแผนในการเกาะกลุ่มหน้าให้ได้ในช่วงออกสตาร์ท ซึ่งต้องยอมรับว่าเบอร์ 46 เขาเร็วในสนามฝนมากและทิ้งห่างออกไปไกล แต่ เดชา ก็สามารถขยับแซงรถด้านหน้าจนขึ้นมารั้งที่ 2 ได้สำเร็จก่อนที่จะอาศัยประสบการณ์รักษาตำแหน่งไว้ได้จนจบการแข่งขัน

ส่วนเจ้า เฉลิมพล เองก็ขับขี่ตามจังหวะแม้อยู่ในอันดับ 4 แต่ก็ยังอยู่ด้านหน้าของคนที่มีคะแนนสะสมนำอยู่หลายอันดับ จึงพยายามขี่ประคองตำแหน่งเพื่อเก็บแต้มเพื่อไปลุ้นแชมป์ในสนามสุดท้าย โดยตอนนี้ เฉลิมพล รั้งอยู่ในอันดับ 2 ตามผู้นำอยู่เพียง 10 คะแนนเท่านั้น…ในส่วนของ อนุภาพ นั้น ก็ถือว่าขับขี่ได้ดีมากในวันนี้ เพราะจากที่รั้งอยู่ในอันดับที่ 12 ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ 2 ก็พยายามไล่แซงขึ้นมาจนอยู่อันดับ 6 ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่ม 2 แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยังใหม่มากๆกับการแข่งรถแข่งในแบบเรซไบค์จึงทำให้พลาดล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถึงอย่างไรต้องถือว่า อนุภาพ ได้ประสบการณ์จากการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้เยอะมาก ได้เรียนรู้เกี่ยวกับรถแข่งที่ แตกต่างจากที่เคยแข่งในรายการอื่น ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดและพัฒนาการขับขี่ได้ต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอนครับ”

แฟนๆ ชาวไทยก็สามารถส่งแรงใจไปเชียร์กันได้และทาง GreatBiker เองนั้นจะรายงานผลการแข่งขันรายการนี้ให้ทราบกันอย่างแน่นอน สามารถติดตามกันได้เช่นเคย