Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

All New Kawasaki Z900 และ Z650 คาดว่าจะเปิดตัวกันในประเทศไทยช่วงสัปดาห์หน้า

zz

หลังจากเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางค่าย Kawasaki ประเทศไทยนั้นได้จัดงานเปิดตัวรถตระกูล Ninja กันอย่างยิ่งใหญ่อันประกอบไปด้วย ZX-10RR, Ninja 650, Z1000SX (Ninja 1000) ตอนนี้ก็เตรียมที่จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่กันอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นของฝั่งเนกเกตตระกูล Z สุดดังนั่นเอง และแน่นอนว่ารถที่จะเปิดตัวกันนั้นถูกคาดหมายว่าเป็นเจ้า All New Z900 และ All New Z650 หลังจากที่เปิดเผยข้อมูลกันครั้งแรกของตัวรถในงาน Intermot ที่ผ่านมานั่นเอง

All New Kawasaki Z900 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 948cc ซึ่งถือว่าเซอร์ไพร์สเลยทีเดียว เพราะขนาดเครื่องยนต์นั้นใหญ่กว่าชื่อรุ่น 900 ไปถึง 48cc เลยทีเดียว ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ 4 จังหวะแบบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนว่าจะให้กำลังในการบิดที่ชัดเจนที่สุดตั้งแต่ในย่านความเร็วกลางถึงปลาย แต่การส่งกำลังนั้นจะเน้นความนุ่มนวลมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะสร้างความมั่นใจในการคอนโทรลรถกับผู้ขี่ ตัวท่อรถนั้นเป็นแบบ 4 สูบออก 1 ท่อ ที่มีหัวขนาด 35 mm

z900-z900-abs

ในการออกแบบนั้นเน้นความดุดัน (Aggressive) ตามแบบฉบับของรถในตระกูล Z อย่างเต็มตัว สร้างความสะดุดตาให้กับผู้พบเห็นในตอนแรกเป็นอย่างมาก ถ้าเราสังเกตกันดูจะพบว่าตัวรถนั้นใช้แฟร์ริ่งเป้นส่วนประกอบน้อยมากๆ แต่จะเน้นโชว์ความแข็งแกร่งของเครื่องยนต์และโครงสร้างมากกว่า โดยที่เฟรมรถนั้นเป็นแบบเฟรมถักสีเขียวอันเป็นสีประจำของทางค่าย ซึ่งเฟรมนั้นจะมีน้ำหนักค่อนข้างเบาอยู่ที่ 13.5 กก. เท่านั้น แต่ยังคงให้ความแข็งแกร่งสูง ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นจะเป็นแบบดิจิตอล แต่ตัววัดรอบจะอ้างอิงกับแบบ Analogue-style อยู๋ เพื่อเน้นอะดรีนาลีนของผู้ขับขี่ให้สูบฉีดมากที่สุด และแน่นอนว่ามันจะมีตำแหน่งเกียร์บอกมาด้วย

http://overdrive.in/wp-content/uploads/2016/10/kawsaki-ninja-Z900-teaser.jpg

ในส่วนของออพชั่นต่างๆ นั้นก็จะมีระบบ Assist & Slipper Clutch ที่จะช่วยให้ล้อหลังไม่สะบัดหรือล็อกเวลาเชนเกียร์ แล้วเอนจิ้นเบรกส่งผลการทำงานในย่านความเร็วสูง ส่วนโช้คอัพด้านหน้านั้นเป็นแบบหัวกลับขนาด 41 mm โดยสามารถปรับระยะยุบตัวและคืนตัว (พรีโหลดแอนด์รีบาวนด์)ได้อย่างละเอีนด ในขณะที่ด้านหลังเป็นโช้คแบบยูนิทลิงค์ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม ซึ่งแน่นอนว่าสามารถปรับระยะพรีโหลดได้เช่นกัน สำหรับดิสก์เบรกหน้านั้นเป็นดิสก์คู่ขนาดใหญ่ 300mm ทำงานร่วมกับระบบเบรก ABS ของ Nissin ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับการเบรกทุกระยะ ส่วนล้อแม็กส์นั้นเป็นแบบ 5 ก้านดีไซน์ใหม่ที่น่าสนใจทีเดียว และที่สำคัญในส่นวของไฟท้ายนั้นจะเป็นแบบ LED รูปทรง “Z” ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนอย่างชัดเจน

มาต่อกันที่ All New Kawasaki Z650โดยคอนเซ็ปท์หลักของรถบิ๊กไบค์คันนี้ก็คือเน้นรถที่มีน้ำหนักเบา มีความคล่องตัวสูง เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก กับเครื่องยนต์ขนาด 649cc 2 สูบเรียง DOHC ที่เป็นเครื่องยนต์บล็อกใหม่เอี่ยมเลย (ไม่ใช่เป็นการนำเอาเครื่องเดิมในตระกูล ER 650 มาใช้) ให้พละกำลังที่ดีเยี่ยมในย่านความเร็วต้นถึงกลาง มาพร้อมกับโครงสร้างรถแบบใหม่ ไลท์เวท แชสซี สลิม ตัวแฮนด์จับนั้นเซ็ทองศามาให้กระชับ สามารถกะวงเลี้ยวได้ง่าย การคอนโทรลคันเร่งจะเชื่องมือแบบสั่งได้ ทั้งหมดถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรต่อผู้ขับขี่มากที่สุด ผสมผสานระหว่างความรู้สึกสปอร์ตและการใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงเหมาะสมกับไบค์เกอร์ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงมือเก๋า

z650-z650-abs-1

ในด้านการออกแบบนั้นยังคงเอกลักษณ์ของทางตระกูล Z เอาไว้ โดยเส้นสายนั้นมีความเฉียบคม แต่เฟรมนั้นเป็นแบบ tubelar สีเขียวที่ถอดแบบมาจากตัวใหญ่อย่าง H2 โดยผลงานการออกแบบ All New Z650 คันนี้เป็นของทีม Sugomi ที่เป็นผู้ออกแบบ Z1000 คันล่าสุดนั่นเอง ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปในอดีตรถ Kawasaki Z650 ก็เคยออกมาทำตลาดกันแล้วในปี ค.ศ. 1976 ที่เป็นรถเน้นแรงบิดอันหนักหน่วงเป็นหลัก ในสมัยนั้นก็ถือว่าโดดเด่นมากๆ ทีเดียว

ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบอนาล็อกผสมกับดิจิตอล บนจอ LCD ขนาดใหญ่ ซึ่งคราวนี้มีการบอกตำแหน่งเกียร์ด้วย และไฟท้ายถูกออกแบบเป็นรูปทรง Z แบบ LED ที่โดดเด่นมากๆ เวลามองจากด้านหลัง เป็นการบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของตระกูล Z อย่างชัดเจน และตัวรถนั้นมีออพชั่นอย่าง สลิปเปอร์ คลัทช์ ติดมาให้จากโรงงานเลย และระบบเบรก ABS (มีให้เลือกทั้งรุ่นที่มีและไม่มี) แต่บ้านเราน่าจะทำตลาดแต่รุ่นที่มี ABS เท่านั้น

โดยคาดการณ์กันว่าราคาของ All New Kawasaki Z900 นั้นจะอยู่ที่ประมาณสามแสนปลายๆ ส่วน  All New Kawasaki Z650 นั้นจะอยู่ที่ประมาณสองแสนปลายๆ และทางเราจะนำเสนอข่าวการเปิดตัวกันต่อไปในช่วงอาทิตย์หน้า อย่าลืมติดตามชมได้ทาง GreatBiker.com เช่นเคยครับ

ขอบคุณภาพจาก morebikes.co.uk overdrive.in morebikes.co.uk motomag.com