มาดูผลงานย้อนหลังของ “The Doctors” 46 Valentino Rossi กัน
ใกล้เปิดฉากฤดูกาลใหม่แล้วสำหรับ Moto GP 2017 วันนี้จะขอพาเพื่อนไปดูผลงานของ “The Doctors” Valentino Rossi ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการใหม่กันครับ
Valentino Rossi นักบิดสัญชาติอิตาลีเจ้าของหมายเลข 46 เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1979 เริ่มต้นการเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่ปี 1996 ซึ่งตอนนั้นเค้ามีอายุเพียง 17 ปี
โดยสังกัดทีม Aprilia และลงแข่งในรุ่น 125 โดยการลงแข่งในฤดูกาลแรกนั้น Rossi เองทำผลงานได้ไม่สู้ดีนัก ลงแข่งทั้งหมด 15 สนาม ได้ตำแหน่ง Pole position เพียง 1 ครั้ง ขึ้นโพเดียม 2 ครั้ง และ 1 ในนั้นคือการคว้าอันดับที่ 1 จบอันดับที่ 9 แต่ในฤดูกาลต่อมา Roosi ยังคงสังกัดกับ Aprilia แต่ผลงานช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว โดย Roosi ได้ควบเจ้า Aprilia RS125 คว้าอันดับ 1 ไปทั้งสิ้น 11 จาก 15 สนาม ขึ้นไปเปิดแชมเปญบนโพเดียมถึง 13 ครั้ง นั้นหมายความเค้าพลาดไปเพียง 2 สนามเท่านั้น!!
และนั้นคือการฉายแววการเป็นยอดนักบิดของเค้า จนปีต่อมา Rossi ได้ขยับรุ่นไปสู่คลาส 250 กับสังกัดเดิม Aprilia และผลงานของเค้าในฤดูกาลแรกก็ไม่ทิ้งลายแชมป์โลกรุ่น 125 cc เค้าจบที่อันดับ 2 คว้าแชมป์ไป 5 จาก 14 สนามที่เค้าลงแข่ง ขึ้นโพเดียมไป 9 ครั้ง แต่ที่น่าแปลกใจคือ ในฤดูกาลนี้เค้าไม่เคยได้อันดับได้ Pole position เลยแม้แต่ครั้งเดียว! .
ในฤดูกาล 1999 เป็นอีก 1 ปีทองของ Rossi เค้าทำผลงานชนะไป 9 สนาม ขึ้นโพเดียมไป 12 ครั้ง ได้ Pole position 5 ครั้ง จบที่อันดับ 1 และดูเหมือนทีม Aprilia คงไม่อาจจะรั้นดาวรุ่งอนาคตไกลอย่างเค้าไว้ได้อีกต่อไป
ในปี 2000 Rossi ตัดสินใจย้ายเข้าสู่ทีมระดับใหญ่ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นในขณะนั้นอย่าง Nastro Azzurro Honda ในคลาส 500 cc ซึ่งการมาของเค้าก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง Rossi ควบเจ้า Honda NSR 500 ขึ้นโพเดียมไป 10 ครั้ง และคว้าแชมป์ไปทั้งสิ้น 2 สนาม จบที่อันดับรองแชมป์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปสู่ทีมอื่นๆว่า เจ้าหนูวัย 21 ขวบคนนี้พร้อมแล้วสู่การเป็นดาวดีงในอีกไม่ช้า 
และในปีถัดมา Rossi คว้าแชมป์ในระดับคลาส 500 cc สำเร็จสร้างปรากฏการณ์ด้วยการ คว้าแชมป์ไปทั้งสิ้น 11 จาก 16 สนาม ขึ้นโพเดียมไป 13 ครั้ง จบอันดับที่ 1 ชนิดที่เรียกว่าทิ้งรองแชมป์ห่างเกิน 100 คะแนน ได้แชมป์โลกตั้งแต่ยังแข่งไม่จบเลยก็ว่าได้
ปี 2002 Rossi ได้สังกัดอีกครั้งแต่ยังคงอยู่ภายใต้แบรนด์ Honda ซึ่งทีมที่เค้าสังกัดก็คือ Repsol Honda Team กับการลงแข่งขันระดับโลกใน MotoGP ซึ่งปีแรกในฐานะ Newbie ใน MotoGP ก็ทำให้ Rossi กลายเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลก ด้วยการขับเจ้า Honda RC211V คว้าแชมป์ไป 11 จาก 16 สนาม ขึ้นโพเดียมไป 15 ครั้ง!!!! จบอันดับที่ 1 และเหมือนหนังฉายซ้ำ Rossi ทำคะแนนทิ้งห่าง Max Biaggi นักแข่งหน้าใหม่เพื่อนร่วมชาติ ผู้ที่เคยขับด้วยกันมาตั้งแต่คลาส 500 cc ชนิดไม่เห็นฝุ่นถึง 145 คะแนน และเพื่อนร่วมทีมชาวญี่ปุ่น Tohru Ukawa ที่จบอันดับที่ 3 ถึง 157 คะแนน เรียกได้ว่าแค่เดบิวต์ก็คว้าแชมป์โลกแล้ว !!
ซึ่งในฤดูกาลต่อๆ มาเค้าก็วนเวียนอยู่กับการขข้นโพเดียมอยู่เสมอๆ ฤดูกาล 2003 เค้าจบอันดับ 1 คว้าแชมป์โลกอีก 1 สมัยให้กับทีม Repsol Honda Team ฤดูกาล2004 Rossi ย้ายทีมไปสังกัดคู่แข่งตลอดการของ Honda อย่าง Gauloises Fortuna Yamaha และนำพาความสำเร็จให้กับทีมด้วยการคว้าแชมป์โลก ทำคะแนนทึ้งห่าง Sete Gibernau อันดับ 2 อยู่ 47 คะแนน และอีกเช่นเคยในฤดูกาล 2005 Rossi คว้าแชมป์โลกอีกครั้งให้กับทีม Gauloises Fortuna Yamaha นั้นหมายความว่า Rossi คือแชมป์โลก 4 สมัยติด ซึ่ง Rossi เองก็ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะไม่ได้แชมป์โลกในฤดูกาล 2006 2007 แต่เค้าก็ยังวนเวียนอยู่บนโพเดียมแทบจะทุกสนาม โดยฤกูกาล 2006 Rossi จบอันดับรองแชมป์ ฤดูกาล 2007 จบอันดับรองชนะเลิศอันดับ 1 หรือที่ 3 นั้นเอง
ในฤดูกาล 2008 Valentino Rossu กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งด้วยการควบเจ้า Yamaha YZR-M1 คว้าแชป์โลกได้อีกสมัย ลบคำสบประมาทของสื่อที่ตีข่าวโจมตีตัว Rossi หลังจาก 2 ฤดูกาลที่แล้วเค้าไม่ได้แชมป์โลก และในปี 2009 ก็เป็นอีกครั้งที่ Valentino Rossi ทำสำเร็จคว้าแชมป์โลกอีก 1 สมัยให้กับทีม Fiat Yamaha Team แต่เมื่อมีรุ่งก็ต้องมีร่วง ในฤดูกาล 2010 ภายใต้สังกัดทีม Fiat Yamaha Team ดูเหมือนปีนี้จะเป็นปีที่ Rossi เองผิดหวังมากที่สุดตลอดการร่วงานกับทีมนี้ หลังจากมีปัญหากับทีมช่าง เพื่อนร่วมทีม หรือนักข่าว ที่คอยขุดคุ้ย เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเค้า ทำให้ฤดูกาลนี้ Rossi จบอันดับที่ 3 กลายเป็นกระสอบทรายให้บรรดาสื่อรุมกินโต๊ะชุดใหญ่ และแล่ว Rossi ก็ตัดสินใจโบกมือลา Fiat Yamaha Team กลับสู่ทีมบ้านเกิด Ducati Team
ดูเหมือนทุกอย่างจะเลวร้ายสำหรับจัวของ Rossi แล้ว แต่การย้ายหนีปัญหาของเค้าคราวนี้เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ฤดูกาล 2011 และ 2012 ตลอด 2 ปีของการย้ายมาอยู่กับ Ducati team ทำให้อดีตแชมป์โลก 6 สมัย ไม่เคยสัมผัสชัยชนะในการแข่งขันแม้แต่ครั้งเดียว ในฤดูกาล 2011 ผลงานที่ดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 3 ที่ ฝรั่งเศส และเป็นครั้งเดียวที่เค้าได้ขึ้นโพเดียมในฤดูกาลนั้น โดยจบที่อันดับ 7 ในฤดูกาล 2012 Rossi จบอันดับที่ 6 ในฤดูกาลต่อมา ฤดูดสล 2013 Rossi กลับสู่อ้อมอกของ Yamaha อีกครั้งด้วยการต้นรับที่อบอุ่มจากทีม Yamaha Factory Racing และทำผลงานได้ดีขึ้นด้วยการจบที่ 4 ซี่งฤดูกาลนี้เป็นปีทองของนักบิดชาวสเปน เพราะ 3 อันดับ ไล่ลงมาตั้งแต่แชป์โลกอย่าง Marc Marquez รองแชมป์ Jorge Lorenzo และที่สาม Dani Pedrosa ล้วนแล้วแต่เป็นนักแข่งชาวสเปน และดูเหมือนว่าจะหมดยุดของนักแข่งอย่าง Valentino Rossi ไปซะแล้ว
“ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” คงจะเป็นเครื่องบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนสำหรับ Valentino Rossi นักบิดมากประสบการณ์ที่ถูกปรามาส จากสื่อสำนักต่างๆว่าแก่เกินแกง ยุคนี้คือยุดของเด็กใหม่หมดยุคของชายคนนี้ไปแล้ว …. เหมือน Rossi ได้เอาคำสบประมาทเหล่านี้มาเป็นแรงผลัดกันและพิสูจน์ตัวเองจนสำเร็จ ฤดูกาล 2014 2015 2016 ถึงแม้เค้าจะไม่ได้แชมป์ แต่ถ้าหากใครได้ติดตามมาโดยตลอดจะพบว่า Valentino Rossi ได้พยายามจนสุดความสามารถในการไล่ล่าแชมป์โลกสมัยที่ 7 ของเค้า โดย Rossi เองจบที่อันดับ 2 ทั้ง 3 ฤดูกาลสร้างผลงานได้เป็นอย่างดีไม่เสียชื่ออดีตแชมป์โลก 6 สมัย ถ้าหากเราจะนับ ฤดูกาล 2017 ที่กำลังจะมาถึงนี้ Rossi จะอยู่ในวงการ Moto GP ในฐานะนักแข่งครบ 16 ปี ซึ่งนี้อาจจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเค้าในฐานะนักแข่งของเค้าแล้วก็เป็นได้ ใครๆเป็นแฟนของ The DOCTORS เตรียมตัวให้กำลังใจกันให้ดี แล้วเจอกันที่ Losail International Circuit, ประเทศกาตาร์ ในวันที่ 26 มีนาคม 2017 แฟนๆ Moro GP ห้ามพลาดกันนะครับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพ www.google.com
ขอบคุณภาพจาก www.motorsport.com
Keattisak Ngamkham – Writer, automotive journalist with experience The whole motorcycle industry and the motorsport industry Expert in doing reviews of all types of motorcycles.
