Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

All New Yamaha YZF-R15 VS All New Suzuki GSX-R150 ศึกนี้ช่างใหญ่หลวงนัก

r-v-g

ตอนนี้เหล่าไบค์เกอร์ชาวไทยเอง ต่างก็นับวันตั้งตารอกับการเปิดตัวและราคาอย่างเป็นทางการของ 2 รถสปอร์ตแฟร์ริ่งในระบเอนทรี่คลาสจาก สองค่ายรถจากแดนปลาดิบนั่นก็คือ All New Yamaha YZF-R15 และ All New Suzuki GSX-R150 และแน่นอนว่าหลายๆ คนกำลังตัดสินใจระหว่าง 2 คันนี้อยู่ว่าจะสอยคันไหนดี วันนี้ทาง GreatBiker จะนำการเปรียบเทียบในรายละเอียดและสเปกกันแบบจุดต่อจุดมาฝากกัน เพื่อช่วยในการตัดสินใจก่อนโค้งสุดท้ายอีกครั้ง

เรื่องของขุมกำลัง

2017_Yamaha_R15_025

ตรงนี้เชื่อว่าจะเป็นประเด็นแรกๆ เลยก็ได้ ที่เพื่อนๆ เหล่าไบค์เกอร์จะให้ความสำคัญกัน โดยเฉพาะกับรถทรงสปอร์ตแบบนี้ ขอเริ่มจากเจ้า R15 2017 กันก่อน ตัวรถนั้นมีเครื่องยนต์ขนาด 155.1 cc แบบ SOHC จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด มีขนาดความจุกระบอกสูบ x ช่วงชักเท่ากับ 58 x 58.7 mm 1 ลูกสูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ มีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11.6: 1 ให้แรงม้ามาอยู่สูงสุดที่ 19 ตัวที่ 10,000 รอบต่อนาที และทอร์คหรือว่าแรงบิดนั้นอยู่ที่ 14.7 นิวตันเมตรที่ 8,500 รอบต่อนาที โดยเครื่องยนต์นั้นมีจุดเด่นที่สำคัญก็คือการทำงานร่วมกันกับระบบวาล์วแปรผัน VVA (Variable Valve Actuation) ที่จะช่วยแปรผันการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับรอบให้มากที่สุดนั่นเอง

https://i2.wp.com/iwanbanaran.com/wp-content/uploads/2017/01/suzuki-new-GSX-R150-46.jpg

ต่อมาสำหรับ GSX-R150 2017 ใช้เครื่องยนต์ตัวที่มีความจุกระบอกสูบ 147cc แบบ 1 ลูกสูบ DOHC 4 วาวล์ว 4 จังหวะ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด Fuel System Fuel Injection (Fi) ปริมาตรกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 62.0 x 48.8 mm ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ให้แรงม้ามาอยู่ที่ 18.6bhp และทอร์คหรือว่าแรงบิดสูงสุดนั้นอยู่ที่ 14 นิวตันเมตร

หากมองจากตรงนี้แล้วภาพรวมก็ดูเหมือนว่า R15 เองจะมีตัวเลขที่ดีกว่าในหลายๆ ด้าน บวกกับในเรื่องของการใช้ VVA มาช่วยด้วย แต่ GSX-R150 นั้นใช้เครื่องยนต์แบบ DOHC ที่มีข้อแตกต่างกับ SOHC อยู่ ซึ่งเมื่อเราพิจารณาจากผลการทดสอบบน Dyno แล้วจะได้ค่าของขุมกำลังที่เทียบกันออกมาดังนี้

Yamaha YZF-R15

ให้แรงม้า  14,17 hp @ 8.900 rpm

แรงบิด  12,76 Nm @ 7.000 rpm

Suzuki GSX-R150

ให้แรงม้า  15,82 hp @ 10.000 rpm

แรงบิด  12,04 Nm @ 8.800 rpm

นั่นเท่ากับว่าในย่านความเร็วช่วงกลางนั้น GSX-R150 จะรีดแรงม้าออกมาได้มากกว่า แต่ก็ต้องใช้รอบการทำงานของเครื่องยนต์ที่สูงกว่า ดังนั้นแล้วจังหวะหลังจากนี้ดูเหมือนทาง R15 ก็น่าจะทำได้ดีกว่าแล้ว อย่างไรก็ตามเราจะมาสรุปกันอีกครั้งจากการทดสอบลงวิ่งในสนามจริงๆ กัน

เรื่องของออพชั่นต่างๆ

2017_Yamaha_R15_092
สำหรับในส่วนนี้ ทาง R15 2017 นั้นให้โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับหรือว่า USD มาซึ่งจะรองรับการกระแทกได้ดีกว่าแบบปกติ นับว่าเป็นครั้งแรกของรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นในคลาสนี้เลยก็ว่าได้  และน้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 137 กก. ตัวรถนั้นสตาร์ทมือไฟฟ้า และให้ความจุถังน้ำมันมา 11 ลิตรด้วยกัน ซึ่งถือว่ามากเพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวน cc ของรถ หรือเรียกได้ว่าวิ่งกันไกลๆ อย่างสบาย ส่วนของคลัทช์นั้นเป็นแบบคลัทช์เปียกซ้อนกันหลายแผ่น ขนาดยางนั้นให้มาอยู่ที่ 100/80-17 (ด้านหน้า) 140/70-17 (ด้านหลัง) ซึ่งถือว่าเป็นขนาดหน้ายางที่ใหญ่โตมากทีเดียว และในส่วนของแฮนด์รถนั้นเป็นแบบจับโช้คใต้แผงคอ ระบบไฟนั้นเป็นแบบ LED อีกทั้งยังมีระบบ Assist & Slipper Clucths ที่จะช่วยป้องกันท้ายรถไม่ให้ปัด และล้อรถไม่ให้ล็อกขณะที่เรากำลังทำการเปลี่ยนเกียร์นั่นเอง ลองนึกภาพในปกติแล้วเวลาที่เราลดเกียร์เกียร์ในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงๆ จะมีอาการกระตุกเกิดขึ้น จนบางครั้งอาจจะทำให้เสียจังหวะในการเข้าโค้งหรือทรงตัวได้ เจ้า Slipper Clutch นี่แหล่ะที่จะช่วยให้การจับตัวของแผ่นคลัทช์นั้นไม่สนิท 100% ทุกแผ่น แต่จะจับตัวแค่ประมาณสักครึ่งหนึ่งเท่านั้น หน้าจอแสดงผลก็ถือว่าครบครัน และมีไฟบอกตำแหน่งเกียร์มาด้วย

https://i2.wp.com/iwanbanaran.com/wp-content/uploads/2017/01/suzuki-new-GSX-R150-27.jpg

ในส่วนของทาง GSX-R150 2017 นั้นโช้คอัพด้านหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิก ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบสวิงอาร์ม ส่วนถังน้ำมันนั้นจุมาให้อยู่ที่ 11 ลิตร ซึ่งก็ถือว่าพอดีกับรถในคลาสนี้ ในส่วนของระบบกันสะเทือนนั้นด้านหน้าเป็นแบบเทเลสโคปิกและด้านหลังเป็นแบบโมโน ในส่วนของขนาดยางนั้นยางหน้าจะมีขนาด 90/80-17 และยางหลังขนาด 130/70-17 ล้อแม็กนั้นมีขนาด 17 นิ้ว จุดขายที่สำคัญมากๆ ของเจ้าเหยี่ยวน้อยคันนี้ก็คือระบบ Suzuki Easy Start System หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นแบบ Keyless ที่ไม่ต้องเสียบกุญแจเข้ากับเบ้าก็สามารถสตาร์ทได้ แค่มีกุญแจอยู่กับตัวในรัศมีที่กำหนดไว้ ระบบไฟของตัวรถนั้นเป็นแบบ LED ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นเป็นแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ มีการบอกรายละเอียดที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นทั้งวัดความเร็วและวัดรอบที่เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ยังมีการแสดงตำแหน่งเกียร์ให้เราเห็นอีกด้วย รวมไปถึงพวกนาฬิกา วัดทริป แจ้งเตือนระยะที่ต้องเข้าต้องเช็คเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ฯลฯ ซึ่งดูแล้วทันสมัยมากๆ ทีเดียว

หากจะนับจำนวนของออพชั่นแบบเป็นชิ้นต่อชิ้น แน่นอนว่าทาง R15 นั้นจะมีมากกว่า แต่ทาง GSX-R150 นั้นก็ถือว่าไม่ได้น้อยหน้าแบบสู้ไม่ได้ เพราะเจ้าระบบที่ทันสมัยอย่าง Suzuki Easy Start System นั้นก็ถือว่าอินเทรนด์กับยุคปัจจุบันเอามากๆ ช่วยในเรื่องของความปลอดภัยของตัวรถและความสะดวกสบายของผู้ขับขี่

http://i1.wp.com/tmcblog.com/wp-content/uploads/2017/01/Yamaha_R15_2017_011.jpg

https://i2.wp.com/iwanbanaran.com/wp-content/uploads/2017/01/suzuki-new-GSX-R150-1.jpg

ดังนั้นแล้วด้วยส่วนต่างของราคาระหว่างทั้งสองรุ่น ที่แม้จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการออกมา แต่คาดการณ์ว่าจะมีส่วนต่างอยู่ที่ราวๆ 15,000 – 20,000 บาทด้วยกัน ตรงนี้ก็เชื่อว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งต่อการตัดสินใจ ตามสไตล์ที่แต่ละคนต้องการว่าจะเน้นออพชั่นแบบครับครันในราคาที่สูงกว่าไปประมาณหนึ่ง หรือไม่เน้นออพชั่นอะไรมากมายนัก เน้นการขับขี่เป็นหลักและราคาสบายกระเป๋ากว่า ก็ต้องไปชั่งใจกันดูอีกที รวมไปถึงในเรืองของการออกแบบดีไซน์อีกที่ว่าคันไหนจะถูกจริตของเรามากกว่ากัน รอพบกับข้อมูลเปิดขายจริงและราคากันได้ที่งาน Motor Show 2017 นี้ และการถ่ายทอดสดจากทาง GreatBiker เช่นเคย

ขอบคุณภาพจาก tmcblog.com iwanbanaran.com