2014-2015 BMW K 1600 GTL Exclusive กับแนวคิดแหวกๆ
ถ้าพูดถึงจุดขายหลักๆของค่ายใบพัดสีฟ้าขาว สำหรับแนวคิดที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือการออกแบบด้วยเครื่องยนต์แบบ In line 6 ที่ใช้ลูกสูบด้วยกัน 6 ชุด ในการสร้างขุมกำลังเครื่องยนต์ในยุคแรกๆ ซึ่งทำเอาผู้ที่เป็นสาวกติดตามข่าวนึกกันไปว่า ค่าย BMW อาจจะสร้างปรากฏการณ์รถสปอร์ตกำลังสูงออกมาโดยการใช้รถต้นแบบที่ให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตสุดๆ แต่พอมาถึงรถที่จะออกจำหน่ายกันในท้องตลาดอย่างจริงๆ จังๆ แล้วต้นสังกัดกลับพับเรื่องของสปอร์ตความเร็ว กำลังสูงไปเสียสิ้นเชิง โดยกลายเป็นรถสปอร์ตทัวริ่งที่มาพร้อมกับความเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแทน ภายใต้รหัส K 1600 GTL Exclusive
มันมีความแตกต่างจาก K 1600 GT และ K 1600 GTL ตรงที่สีของเจ้า Exclusive จะใช้สีโทนสีขาวสว่างผสานกับสีบรอนซ์เงินส่งผลให้มีมุมมองที่คล้ายๆ กับเรือยอท์สุดหรู ด้วยเครื่องยนต์กำลัง 6 สูบเรียง ที่สร้งกำลังแรงม้าได้มากเกินกว่าที่มันจะเป็นไปได้ มันก็จะกลายเป็นแต่โทษในการขับขี่ ซึ่งด้วยเหตุนี้เองแรงม้าของเจ้า Exclusive จึงมีให้มาสำหรับการใช้งานเพียง 160 ตัวที่ 7,750 รอบ/นาที เท่านั้น โดยวัดรอบความเร็วท็อปสปีดเหนือกว่า 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งถ้าหากผู้ขับขี่เองดูจากเรือนไมล์จะเห็นหลักตัวเลขสุดท้ายที่รายงานว่า 260 กิโลเมตร / ชั่วโมง ซึ่งในโลกของความเร็วแห่งความเป็นจริงแล้วจะมีความเร็วจริงสูงสุดอยู่ที่ 280 กิโลเมตร / ชั่วโมง
เป็นที่รู้ๆกันว่า ใครก็ตามที่เคยขับขี่รถ BMW จะได้รู้สึกทันทีว่ามันวิ่งได้เต็มๆ ไมล์ ถึงแม้แบบชนิดที่ว่าถึงไหนถึงกันเลยทีเดียว รถรุ่นนี้มันจะมีหน้าจอดิจิตอลที่แสดงผลเส้นทางแบบ GRS ชนิดที่บอกควบคู่ไปทั้งระดับความสูงชันและลักษณะของภูมิประเทศ ถัดลงมาจากหน้าจอก็จะเป็นชุดสำหรับวัดความเร็วรอบแบบเข็มชนิดไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับทั้งที่มีแผงหน้าจอเล็กๆ แนวยาวที่จะแสดงในส่วนของระดับเกียร์และตัวเลขอื่นๆ และที่จำเป็นต่อการขับขี่ มองมายังอีกฝั่ง ด้านขวาจะเป็นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ที่จะแสดงผลตั้งแต่ 0-10,000 รอบ/ นาที และมีการเซตเรดไลน์ตั้งแต่ 8,500 รอบ/นาที เป็นต้นไป มีแผงลำโพง ไว้สำหรับการใช้งานในส่วนของบลูทูธและบนชุดแฮนด์การขับขี่นั้นจะสามารถบังคับและจะมีปุ่มต่างๆ สำหรับการปรับโหมดการใช้งานหลักๆ จากทางด้านซ้าย และในส่วนของทางด้านขวาจะเป็นโหมดของการขับขี่และปุ่มสำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์ ถังน้ำมันสำหรับเจ้า BMW K 1600 GTL Exclusive ออกแบบมาให้ลดระยะห่างจากแฮนด์ด้วยเส้นโค้งสโลปลงมาจนถึงส่วนของเบาะนั่ง จึงทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลว่านักขี่พุงโตๆ จะมีความลำบากในการขับขี่ ถัดต่อมาที่ขนาดของความจุดของถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีขนาดถึง 26.5 ลิตร และแน่นอนว่าค่าอ๊อคเทนที่จะใช้นั้นจะต้องมีการเติมมากว่า อ๊อคเทน 95 ขึ้นไปนั่นเอง
เบาะนั่งเป็นแบบใบเดียวที่มีการตัดแต่งฟองน้ำให้มีการยกระดับระหว่างคนขี่และผู้โดยสารได้อย่างสวยงามและชัดเจน ในส่วนของคนขี่นั้นเบาะจะลดระดับความสูงลงมาเพื่อลดปัญหาสำหรับนักขี่ที่ตัวไม่สูงมากนัก ที่นั่งของผู้โดยสารจะยกระดับขึ้นไปมีพนักพิงให้ด้านหลังและพนักสำหรับวางแขน จุดวางขาจะคล้ายกับการวางท่านั่งให้สบายๆ บนเก้าอี้ ซึ่งกล่องกระเป๋าข้างก็ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ที่มันจะถูกยกถอยไปทางด้านหลังเพื่อความสะดวกในการวางเท้า ชุดไฟหน้าก็ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนร่วมตระกลู เพียงแต่จะเสริมตัวแผงบังลมให้มีขนาดที่สูงขึ้น และอีกทั้งยังปรับตัวได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีชุดไฟหรีวางเป็นระดับแนวตั้งด้านข้างตัวรถเสริมมาให้เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย
สำหรับชุดกันสะเทือนนั้น ด้านหน้ายังคงใช้แบบที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของค่าย BMW เพราะนอกจากมันจะให้ความนุ่มนวลที่มากที่สุดแล้ว บวกกับระบบการห้ามล้อที่เป็นที่สุดอย่าง ABS ชุดจานเบรกหน้าที่มาแบบยกคู่ขนานกับขนาบข้างดุมล้อทางด้านขวาและซ้าย ไฟท้ายยังเป็นเลนส์ใส่หลอดในเป็นสี ๆ ซึ่งยังคงเป็นข้อเสียที่ดูแล้วจะต้องปรับปรุงก็คือ เมื่อเรามองจากทางด้านท้าย ความสว่างของหลอดไฟแม้จะมีมากก็ตามแต่ แต่ด้วยสรีระขนาด ไซส์ XL ของตัวรถมันเอง มันก็น่าจะมีการเพิ่มไฟหรือแถบสะท้อนแสงลงไปเพิ่มให้อีกนิด สำหรับชุดพนักวางแขนด้านหลังสามารถพับเก็บได้หากเราไม่ต้องการที่จะใช้งาน ปลายท่อไอเสียนี่ถือว่าเป็นอีกจุดขายอีกจุดหนึ่งของรุ่น โดยปลายท่อนั้นจะมาแบบ 2 ใบ แยกกันระหว่าง ซ้ายกับขวา แต่ละปลายท่อจะมีรูสำหรับระบายไอเสียฝั่งละ 3 รู
สำหรับ มิติ K 1600 GTL Exclusive กว้าง/ยาว/สูง เท่ากับ 1,000/2,489/1,465 มม. ความสูงของเบาะนั่งปรับตั้งได้ตั้งแต่ 750-800 มม. น้ำหนักรวมพร้อมขี่ 360 กิโลกรัม ขนาดยางหน้า/หลังเท่ากับ 120/70 ZR 17 นิ้ว และ 190/55 ZR 17 นิ้ว สำหรับราคาค่าตัวนั้น สนนราคาอยู่ที่ 1,825,000 บาท ซึ่งก็สูงใช่เล่นเหมือนกันนะเนี่ย…..
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : newcar2thai.com