Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

เช็กอาการบาดเจ็บของ Valentino Rossi

image

หลังจากเกิดอุบัติเหตุในสนาม Motorcross ที่ Valentino Rossi ได้ใช้ในการฝึกซ้อมเมื่อวันอังคารสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลังจากเกิดเหตุแล้วทางทีมงานได้ส่งตัวของ Rossi ไปที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล Rimini ในทันที

ซึ่งในตอนแรกนั้น Valentino Rossi ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณ หัวไหล่ หน้าอก และได้รับแรงกระแทกที่บริเวณหน้าท้อง โดยหลังจากการส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินไปนั้นก็ไม่มีการออกมายืนยันถึงความรุนแรงจากเหตุการณ์นี้อย่างเป็นทางการ  โดยล่าสุดทางโรงพยาบาลอนุญาตให้เจ้าตัวสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว ซึ่งทางเราก็คาดหวังว่าอาการจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

โดยล่าสุดทาง Rossi ได้ทำการบอกเลิกการไปออกอีเว้นท์ร่วมกับบรรดานักแข่ง MotoGP โดยให้เหตุผลว่ายังคงมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณท้องและหน้าอก ไม่สามารถมาร่วมงานได้ ซึ่งก็ทำให้ทางสื่อสำนักต่างๆ พากันตีข่าวถึงความน่าเป็นห่วงของอาการบาดเจ็บนี้ ซึ่งก็ทำให้เจ้าตัวต้องออกโรงพยาบาลมาแถลงข่าวอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยได้บอกแต่เพียงว่า อาการที่หัวไหล่นั้นไม่มีอะไรต้องกังวล แต่บริเวณหน้าอกและท้องนั้น ยังคงรู้สึกเจ็บปวดอยู่ ยังไม่ถึงกับหายขาด ซึ่งดูเหมือนว่าอวัยวะภายในอย่าง ปอดและไต นั้นมีอาการบวมอักเสบจากแรงกระแทกที่เค้าได้รับ

Rossi ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรู้สึกเจ็บแน่น บริเวณหน้าอกและท้อง ทุกๆ ครั้งก่อนที่ผมจะเข้านอน และในทุกๆ เช้าตอนที่ผมตื่น มันเจ็บนะแต่ไม่ถึงกับทรมาน มันแค่มีอาการแน่นขึ้นมา ซึ่งผมค่อนข้างโชดดีที่ทางโรงพยาบาลสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที ถ้าผมดื้อไม่ยอมไปโรงพยาบาลผมอาจจะอาการหนักกว่านี้”

โดยทางต้นสังกัด Movistar Yamaha MotoGP ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสภาพของทีมที่จะต้องลงทำการแข่งขันในสนาม Mugello Circuit สนามหลังบ้านของ Rossi ที่คว้าชัยชนะล่าสุดได้ในปี 2008 ซึ่งนับรวมในทุกระดับการแข่งขันนั้น Valentino Rossi นั้นสามารถเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 1 ได้ถึง 10 ครั้ง

ในการแข่งขันสนามที่ 6 Migello Circuit นั้นจะเริ่มต้นทำการฝึกซ้อมกันในวันที่ พฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน และจะทำการ Qualify กันในวันที่ 3 มิถุนายน และทำการแข่งขันจริงในวันที่ 4 มิถุนายน 2017 เวลาประมาณ 19.00 น ตามเวลาประเทศไทย ต้องมาลุ้นให้กำลังใจ พ่อหมอ Valentino Rossi ว่าจะสามารถกลับมาทันลงแข่งได้หรือไม่

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.asphaltandrubber.com