Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 1150x250
Banner Yamaha Grand Filano Hybrid Connected 2024 400x300

เปิดตัว All New KTM Duke 250 / 390 ที่อินโดฯ แล้ว ส่วนประเทศไทยรอกันอีกไม่นาน

KTM-Duke-250-2017-70

เมื่อเร็วๆ นี้ทางค่าย KTM ได้เปิดตัวรถแนวสปอร์ตเนกเกตในระดับเอนทรี่คลาสคันใหม่ล่าสุดทั้ง 2 ซีรี่ย์อย่าง All New KTM Duke 250 และ Duke 390 กันที่ประเทศอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งก็ได้เรียกกระแสเป็นอย่างมากให้กับเหล่าไบค์เกอร์ที่นั่น เพราะว่าคันนี้ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ จุดที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เราไปชมภาพในการเปิดตัวทั้งหมดโดยเป็นภาพจากทาง iwanbanaran.com และรายละเอียดด้วยกันเลยครับ

All New KTM Duke 250

https://i2.wp.com/iwanbanaran.com/wp-content/uploads/2017/06/KTM-Duke-250-2017-18.jpg

ใช้พื้นฐานการออกแบบเดียวกับ 2017 KTM Duke 390 และมีการเปลี่ยนแปลงระบบหน้าจอแสดงผลใหม่ที่เป็นแบบ  TFT Display ที่ทันสมัย ถังน้ำมันขนาดใหญ่ ระบบไฟ LED รอบคัน ตัวถังของ Duke 250 มีความเหมือนกับ Duke 390 ทุกประการ ด้วยรูปแบบของ trellis frame หรือเฟรมถักที่ให้ความคงทนแข็งแรง สวิงอาร์มหลังได้รับการปรับแก้จากตัวต้นแบบโดยการปรับพื้นฐานมาจากสวิงอาร์มของ Duke 690 ที่เป็นอัลลอยด์เบาแบบหล่อขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งทานร่วมกับโช้คอัพของ WP ที่จะช่วยในการซับแรงในการเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น

https://i1.wp.com/iwanbanaran.com/wp-content/uploads/2017/06/KTM-Duke-250-2017-26.jpg

ตัวเครื่องยนต์ของ Duke 250 เวอร์ชั่นนี้นั้นจะมีขนาดความจุกระบอกสูบอยู่ที่ 248.8 cc และให้แรงม้ามาสูงสุดถึง 29.58 BHP ที่ 9,000 รอบต่อนาที และทอร์คหรือว่าแรงบิดสูงสุดนั้นเท่ากับ 24 NM ที่ 7,500 รอบต่อนาที เป็นแบบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ 4 วาล์ว DOHC 1 สูบ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด มีขนาดกระบอกสูบอยู่ที่ 72 mm และช่วงชักเท่ากับ 61.1 mm จากตรงนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าเจ้า Duke 250 คันนี้นั้นเน้นแรงบิดอันมหาศาลในรอบเครื่องยนต์ต้นถึงกลางนั่นเอง มันจึงค่อนข้างที่จะเหมาะสมเอามากๆ สำหรับการใช้งานในเมือง และในชีวิตประจำวันเป็นหลัก

https://i1.wp.com/iwanbanaran.com/wp-content/uploads/2017/06/KTM-Duke-250-2017-67.jpg

ขยับมาดูกันต่อในเรื่องของช่วงล่าง ระบบบเบรกหน้านั้นเป็นแบบดิสก์เบรกขนาด 300 mm ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์แบบ 4 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นแบบดิสก์เดียวเช่นกัน แต่ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์แบบ 1 ลูกสูบ สำหรับระบบกันสะเทือนด้านหน้านั้น เป็นแบบ Upsdie Down ขนาด 43 mm ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Mono Shock ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม มีขนาดยางหน้าเท่ากับ 110/70-R17 และยางหลังเท่ากับ 150/60-R17 ล้อเป็นแม็กส์อัลลอย และยางเป็นแบบทูบเลส (ไม่มียางใน)

All New KTM Duke 390

https://i1.wp.com/iwanbanaran.com/wp-content/uploads/2017/06/KTM-Duke-250-2017-70.jpg

ในส่วนของการดีไซน์นั้น KTM Duke 390 2017 เปลี่ยนมาใช้ไฟหน้าแบบ LED เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลแบบใหม่กันด้วย ซึ่งยังคงเป็นแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ ในขณะที่ถังน้ำมันนั้นมีความคมและใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม จุอยู่ที่ 13.4 ลิตร (ในขณะที่โมเดลเก่านั้นอยู่ที่ 11 ลิตรเท่านั้น) ตัวเฟรมก็มีการเปลี่ยนแปลงกันใหม่ โดยใช้เฟรมถักที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น และท่อก็มีการรื้อระบบกันใหม่เลย รวมไปถึงการออกแบบเบาะคนซ้อนที่มีรางเอาไว้จับได้ด้วย เรียกได้ว่าแทบจะทุกจุดทีเ่ปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม

https://i0.wp.com/iwanbanaran.com/wp-content/uploads/2017/06/KTM-Duke-250-2017-69.jpg

ในส่วนของเครื่องยนต์เองนั้นได้มีการปรับจูนให้ตอบสนองต่อการบิดของมือได้ดีขึ้น โดยใช้คันเร่งแบบไฟฟ้า (ride-by-wire) ส่วนออพชั่นอย่างสลิปเปอร์คลัทช์เองนั้นก็ยังคงให้มาในรุ่นนี้ ส่วนปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ที่ร้อนง่ายในรุ่นเก่านั้น ทาง KTM เองก็ได้ปรับแก้ตรงนี้ ทำให้เครื่องยนต์ใหม่ของเจ้า Duke 390 คันนี้สามารถปรับตัวให้เย็นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้หมดปัญหาตรงนี้ไป มาพร้อมกับความจุเครื่องยนต์ขนาด 373cc 1 ลูกสูบที่โดดเด่นมากเป็นพิเศษในการออกตัวและการเร่งแซง แบบบิดเป็นมาๆ ระบายความร้อมด้วยหม้อน้ำ แรงม้านั้นอยู่ที่ 44 PS และทอร์คเพิ่มขึ้นมากว่าโมเดลเก่าอีก 2 Nm เท่ากับอยู่ที่ 37 Nm ในส่วนของออพชั่นเสริมต่างๆ อย่าง ABS แบรนด์ Bosch ที่คราวนี้ทำงานร่วมกับปั้มเบรกของ Brembo ให้ความมั่นใจถึงที่สุดในการเบรก, โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ (USD) ยังคงมีมาให้ แต่ที่น่าสนใจมากเป็นพิเศษก็คือโมเดล 2017 นี้มีโหมดในการขับขี่มาให้เลือกด้วย และแน่นอนว่าตัวรถนั้นสามารถเชื่อมตัวกับสมาร์ทโฟนได้โดยง่ายดาย

https://i1.wp.com/iwanbanaran.com/wp-content/uploads/2017/06/KTM-Duke-250-2017-64.jpg

และแน่นอนว่าภายในปีนี้เชื่อเหลือเกินว่า ในประเทศไทยเรานั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงของโมเดลทั้ง 2 ที่ว่ามานี้อย่างเช่นกัน โดยจะยังคงเป็นการนำเข้าจากประเทศมาเลเซียเช่นเดิม ก็มาลุ้นในเรื่องของราคากันว่าจะมีการเปิดตัวมาอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะมันเป็นรถในแนวเนกเกตที่น่าสนใจเอามากๆ รออัพเดทข่าวการเปิดตัวในบ้านเราได้ทาง GreatBiker เช่นเดิมครับ

ขอบคุณภาพจาก iwanbanaran.com