Banner Yamaha FINN SP 2024 1150x250
Banner Yamaha FINN SP 2024 400x300

เผยโฉม MV AGUSTA RVS#1

unnamed-3

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์มอเตอร์ไซค์ที่นิยมทรงแรงบันดาลในจากงานศิลปะสู่รถมอเตอร์ไซค์ และครั้งนี้กับการเผยโฉมชุดแต่งที่มีความพิเศษเป็นอย่างมากด้วยอุปกรณ์ตกแต่งที่เป็นงาน Handmade กว่า 80%

ซึ่งชิ้นงานสุดพิเศษนี้ถูกพัฒนาและออกแบบโดยแผนก CRC (Castigilion Research Center ) ที่มีส่วนดูแลงานผลิตอุปกรณ์สำหรับเหล่าบรรดารถมอเตอร์ไซค์ที่มีความพิเศษแบบ Limited ของทางค่าย MV Agusta โดยเฉพาะ โดยเครื่องยนต์ของเจ้า RVS#1 นั้นได้รับการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกและระบบภายในของเครื่องยนต์จนผ่านมาตรฐาน Euro4 เป็นที่เรียบร้อย และด้วยการออกแบบใหม่นี้ทำให้ได้น้ำหนักของเครื่องยนต์ที่ลดลงไปเหลือเพียง 160 กิโลกรัม ซึ่งเท่ากับน้ำหนักของเครื่องยนต์ที่ถูกบรรจุอยู่ใน Honda CBR250RR แต่เครื่องยนต์นี้มี 3 ลูกสูบเท่าเดิม และได้แรงม้าอยู่ที่ 150 ตัว ซึ่งมันส่งผลให้ทางค่าย MV Agusta ได้มาตรฐานในการผลิตเครื่องยนต์แบบใหม่ที่จะนำสู่โมเดลอื่นที่จะลงสู่ท้องตลาดในเร็วๆ นี้

แน่นอนว่าเข้า RVS#1 คันนี้มาพร้อมกับระบบคันเร่งไฟฟ้าและมีโหมดในการขับขี่ที่ให้เลือกได้อย่างหลากหลาย โดยในโหมดขับขี่ของเจ้า RVS#1 นี้จะมีโหมดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันบรรจุอยู่ ซึ่งเราจะไม่สามารถหาโหมดนี้ได้จากโมเดลอื่นๆในค่าย MV Agusta ด้วยความที่เป็นรุ่นพิเศษและไม่ต้องการที่จะซ้ำกับใครนั้นเอง

ด้วยน้ำหนักตัวของเครื่องยนต์ที่เบามากขึ้นนั้นทางทีมงานต้องทำการวิจัยและพัฒนากันอย่างหนักและต้องใช้ต้นทุนในการผลิตที่สูงตามมาด้วย เช่นเดียวกับโครงสร้างหลัก เจ้า RVS#1 นั้นได้เลือกใช้วัสดุในการนำมาทำผลิตเป็นโครงสร้างหลักโดยเลือกใช้วัสดุเดียวกับการผลิตโครงสร้างของเครื่องบิน ที่มีน้ำหนักที่เบาและคงทนกว่าวัสดุเกรดอื่นๆ ที่เคยผลิตกันมา และได้เลือก ไทเทเนียม ในการผลิตเป็นถังเชื้อเพลิง ปลายท่อ SC Project แบบไทเทเนียม และวงล้อที่มีน้ำหนักที่เบาแต่แข็งแรงจาก Kineo

นอกจากจะผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่เน้นน้ำหนักที่เบา เครื่องยนต์ที่ให้อารมณ์ที่ดุดันแล้ว MV Agusta เองก็ไม่ลืมที่จะใส่ลูกเล่นพิเศษที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยลงไปในตัว RVS#1 คันนี้ ด้วยระบบไฟส่องสว่างแบบ LED ที่เปลี่ยนรูปแบบได้ เพิ่มและปรับลดความสว่างได้ ปรับขนาดขององศาในการส่องสว่าง และรูปแบบของการส่องสว่างได้ รวมไปถึงไฟท้ายแบบ LED ที่สามารถมองเห็นได้ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่ดูเหมือนงานศิลปะติดเครื่องยนต์จริงๆ สำหรับค่าย MV Agusta และทางค่ายก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดมอเตอร์ไซค์ และยังคงพัฒนาแบรนด์ของตนต่อไปสู่ตลาดโลกที่กำลังเปิดรอพวกเค้าอยู่ ณ ตอนนี้

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก tmcblog.com