รีวิว Kawasaki Z800 (First Ride)
หลังจากที่เราได้ทำการรีวิวเกี่ยวกับสเปคของเจ้า Kawasaki Z800 กันไปแล้วนั้น (อ่านได้ที่นี่) วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับรีวิวการขับขี่ของเจ้ายักษ์เขียว ตัวกำลังพอดีมือกันสักหน่อย ไม่พูดพร่ำทำเพลง อย่างที่เกรินไปแล้วว่าเจ้า Kawasaki Z800 เป็นรถที่มีความโดดเด่นดุดัน ให้สไตล์ความเป็นรถที่ดูสวยงาม แต่ด้วยรูปลักษณ์ของมันในเบื้องต้นอาจจะดูกระปอมสำหรับแว๊บแรกที่เห็น แต่พอได้ขึ้นคร่อมอยู่บนเจ้า Z800 คันนี้เท่านั้นแหละ !! มันทำให้รู้สึกได้ถึงความสูงที่เรียกว่า คนที่ตัวสูงร้อยเจ็บสิบกว่าๆ ยังต้องร้องโอ้ !!! สูงเหมือนกันนะเนี่ย !!! เพราะดูจากสภาพการเหยียบยังไม่สามารถเหยียบได้เต็มเท้ามากนัก ซึ่งถ้าเป็นมือใหม่ที่คิดว่ากำลังจะถอยรุ่นนี้เป็นรุ่นแรก อาจจะต้องระวังนิดหนึ่ง เกี่ยวกับ ความมั่นใจในการขับขี่ บวกกับตัวรถที่ค่อนข้างจะหนักเอาเรื่อง ทำให้การขยับหรือเคลื่อนย้ายรถ อาจจะทำได้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไร ดูแล้วรถคันนี้น่าจะเหมาะกับคนที่มีส่วนสูงเกือบๆ 180 เซนติเมตรเลยทีเดียว และอาจจะต้องมีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมากนิดหนึ่ง ถึงจะดูสมดุลกับเจ้า Kawasaki Z800 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นเพียงแค่คำนิยาม ทั้งหมดทั้งมวลมันอยู่ที่ใจและอารมณ์ล้วนๆ นะ(แอดมินคิดว่าอย่างนั้น…)
หลังจากที่เราได้ขึ้นคร่อมเจ้า Kawasaki Z800 ด้วยตัวของมันที่ดูใหญ่อ้วน จากถังน้ำมันด้านหน้าที่มีความจุของถังน้ำมันได้มากถึง 17 ลิตร การออกแบบหน้าถังให้ดูเหมือนจะเป็นเนินภูเขาย่อมๆ กว่าจะเอื้อมมือไปจับที่แฮนด์ของมัน แต่ด้วยสรีระการจัดวางก็ถือว่ายังทำได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี อย่างที่บอกไปว่าถ้าเป็นคนตัวเล็ก ตำแหน่งของลำตัวและท่อนแขนขา อาจจะไม่ค่อยกระชับสักเท่าไร
มานั่งเม้าท์กับเจ้า Kawasaki Z800 ในเรื่องของสมรรถะการขับขี่
หลังจากที่ได้กดปุ่มสตาร์ทเครื่องเพื่ออุ่นเครื่องรอที่จะพุ่งทะยานไปกับความเร้าใจ Kawasaki Z800 น้ำเสียงของท่อปลายกระสุน ถือว่าเป็นน้ำเสียงที่นุ่ม ฟังเพราะๆ เงียบๆ แต่แฝงซึ่งความแรงที่อาจจะเรียกได้ทุกใจสั่งทุกครั้งที่เปิดคันเร่ง พร้อมที่จะออกตัว ฟิลลิ่งการบีบคลัช ตบเกียร์ 1 รู้สึกได้ถึงคลัชที่ให้น้ำหนักได้พอประมาณ เพราะถือได้ว่า ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป สำหรับในช่วงแรกนั้นเราทดสอบการขับขี่ตามสไตล์คนเมือง ใช้ชีวิตแบบทั่วๆ ไป ก็ถือได้ว่าเอาเรื่องพอสมควร นึกถึงสภาพที่ขับขี่ได้สักนิดสักหน่อย ก็ต้องจอดติดไฟแดง หรือจอดตามสภาพของการจราจรที่ติดขัด เพราะถือว่าต้องบีบคลัชค่อนข้างมากนั่นเอง แต่ถือว่าการออกตัวของเจ้า Kawasaki Z800 ก็ทำได้ราบรื่นดีไม่น้อย ดูขัดกับรูปลักษณ์ที่ดูดุดัน นึกว่าจะให้อารมณ์เหมือนม้าพยศที่พร้อมจะยกล้อ โดยภาพรวมเรื่องของการออกตัวทำได้ดี ไม่มีอาการกระตุกของรอบเครื่องด้วยซีซีที่สูงๆ ให้เห็น และเมื่อเปิดคันเร่งไปตามสเตป การไต่ระดับของรอบเครื่องยนต์ ในรอบที่สูงๆ ก็ยังคงมีเสียงของท่อเดิมที่ฟังแล้วยังคงรื่นหู นุ่มๆ การเร่งแซงต่างๆ ก็สามารถทำได้ทันที เรียกได้ว่าจะขับขี่แบบสุภาพ หรือถ้าเจอคู่แข่งขี่มาเทียบ ก็สามารถโชว์สมรรถนะการขบขี่ที่ไม่อายใครเลยทีเดียว เปรียบเหมือนผู้ชายสุภาพที่อยู่ในคราบของคาวบอย
สำหรับการทดสอบการขับขี่ในเมืองครั้งนี้ ด้วยการจราจรที่ไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยเท่าไร ทำให้การทดสอบไม่สามารถที่รีดสมรรถนะความแรงของมันออกมาได้มากนัก แต่ในเรื่องของระบบส่งกำลัง และระบบการปรับเปลี่ยนของตำแหน่งเกียร์ต่างๆ ถือว่าทำได้ดี ไม่มีอาการกระตุกหรือติดขัดให้เห็นแต่อย่างไร
หลีกหนีจากการขับขี่ในเมืองไปสู่เส้นทางที่ค่อยข้างโล่ง เพื่อต้องการจะดูสมรรถนะของมันสักหน่อย ถือว่าเป็นรถที่สามารถขับขี่ในเส้นทางยาวๆ ได้อย่างสบายๆ เชิงธรรมชาติ สามารถที่จะตอบสนองได้อย่างทันใจไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของเครื่องยนต์รอบต่ำๆ ไต่ระดับไปจนถึงรอบสูงๆ การเข้าโค้งกว้างๆ ก็สามารถที่จะเติมคันเร่งเดินได้อย่างต่อเนื่อง แม้อยู่ในตำแหน่งของเกียร์ที่สูง เกียร์ 5 เกียร์ 6 รอบเครื่องยนต์ 4000 หรือ 5000 ก็ไม่มีอาการกำลังเครื่องที่ตกลงให้เห็นแต่อย่างใด
ตัวหน้าจอบอกข้อมูลการวัดรอบเป็นแบบ Digital ทำให้ไม่ค่อยชินเท่าไรกับการใช้งานในครั้งแรก ๆ แต่ก็ถือว่าได้ความแปลกใหม่ ดูเท่ไปอีกแบบ สำหรับในเรื่องของระบบกันสะเทือนนั้น ด้วยสเปคที่ให้มาจากโรงงาน โช้คอัพคู่หน้าแบบหัวกลับ(Upsidedown) ขนาดแกน 41mm จาก KYB หน้าปรับ Preload และ Rebound ได้ ทำให้รู้สึกถึงการขับขี่ที่นิ่มนวลในทุกสภาพการทดสอบ ส่วนโช้คอัพหลังเดี่ยวเป็นแบบแก๊ส Uni-Trak ปรับ Preload และ Rebound ได้ ทำให้สามารถดูซับแรงกระแทกต่างๆ ได้ดี สบายๆ ไม่เมื่อยก้นหรือมีอาการเมื่อยล้าของร่างกายแต่อย่างใด ทำให้รู้สึกว่าสนุกเร้าใจได้ไม่น้อย หากได้ขับขี่ในแบบทัวร์ริ่งระยะทางไกลๆ ลักษณะของแฮนด์บาร์ที่ดูกว้าง ตามสไตล์ของรถ Sport Naked ซึ่ง Kawasaki Z800 คันนี้มีรัศมีวงเลี้ยวที่ 31 องศาทำให้การหักเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ถือว่าทำได้ค่อนข้างกว้างพอสมควร
ถัดมาในเรื่องของระบบเบรก ให้มาเป็นแบบจานดิสก์เบรกคู่ สำหรับล้อหน้าให้จานดิสก์ขนาด 310mm พร้อมปั๊มเบรกแบบ 4 ลูกสูบจาก Nissin และเบรกดิสก์หลังเดี่ยวขนาดจาน 250mm แบบ 1 ลูกสูบจาก Nissin เช่นกัน แต่ไม่มีระบบเบรก ABS มาให้ถ้าในมุมมองของการใช้งานจริงแล้ว เบรกอาจจะดูไม่ค่อยอยู่มือเท่าไรนัก ถ้าเทียบกับพละกำลังที่ค่อนข้างมาก แต่ก็อาจจะต้องย้ำเบรกบ่อยๆ หรืออาจจะต้องพึ่งระบบ Engine Break ช่วยในการลดกำลังเครื่องยนต์หน่วงตัวรถเอาไว้อีกทางหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นทางเลือกในการควบคุมรถที่ดีและปลอดภัย สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 12-15 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งในมุมมองส่วนตัวแล้วก็คิดว่า ด้วยเครื่องยนต์ขนาดนี้ กับการบริโภคน้ำมันระดับนี้ก็คือว่า สมน้ำสมเนื้อเลยทีเดียว
สรุปโดยภาพรวมแล้ว เจ้า Kawasaki Z800 ถือว่าเป็นรถ Naked Bike 4 สูบเรียงในราคาที่จับต้องได้ กับฟิลลิ่งการขับขี่ที่คุ้มค่ากับราคาค่าตัว แต่ถ้าใครที่จะต้องการซื้อมาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวันแบบคนเมือง อาจจะต้องคิดให้หนักอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าซื้อมาเพื่อออกทริปหรือขับขี่ออกงานเฉพาะ ที่เรียกความสนใจ โดดเด่นแล้วละก็…..ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : bikescatalog.com