มอเตอร์ไซค์บินได้ ครั้งแรกของโลก Jetpack Speeder พรีออเดอร์แล้ว ท็อปสปีด 240 กม./ชม.!!
และความฝันที่จะขี่รถมอเตอร์ไซค์บินได้ก็ไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป เมื่อทางบริษัท Jetpack Aviation จากทางแคลิฟอร์เนีย เพิ่งจะเปิดรับพรีออเดอร์รถมอเตอร์ไซค์บินได้คันแรกในโลก ที่ใช้เครื่อง Jet ไอพ่นในการขับเคลื่อน โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Speeder” ซึ่งข่าวนี้ก็ได้สร้างความฮือฮากันไปทั่วโลก เพราะว่ามันมันไม่ได้เป็นแค่เพียงรถคอนเซ็ปท์หรือว่าต้นแบบแต่อย่างใด แต่มันเป็นรถเวอร์ชั่นที่รับพรีออเดอร์กันจริงๆ แล้ว!!!
แม้บางคนอาจจะมองว่ามันไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ แต่เป็นเครื่องบินขนาดเล็กมากกว่า แต่ทางบริษัทผู้ผลิตอย่าง Jetpack Aviation นั้นก็ได้ระบุว่ามันคือมอเตอร์ไซค์อย่างชัดเจน จากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเองนั้นได้เคยวางจำหน่ายอุปกรณ์การบินอย่าง JB10 backpack ซึ่งเป็นลักษณะเหมือนกับกระเป๋าสะพายหลังและมีไอพ่นด้านล่าง เพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถบินได้มาแล้ว และครั้งนี้ก็ได้พัฒนามาถึงขีดสุด กับรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถบินได้จริงๆ แล้ว โดยรูปร่างของมันและลักษณะการขับขี่นั้น ก็มีความใกล้เคียงกับการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ทางผู้ผลิตระบุว่ามันจะมีฟีลลิ่งเหมือนกับได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์บนท้องฟ้ากัน
ซึ่งทางค่ายเองนั้นยังได้ระบุว่า มันคือรถมอเตอร์ไซค์บินได้ครั้งแรกในโลก แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการเปิดตัวโดรนขนาดใหญ่ที่มีคนสามารถขับขี่และบินได้อย่าง Hoverbike กันมาแล้ว แต่ก็เป็นการขับเคลื่อนโดยใช้ใบพัดทั้ง 4 ฝั่งแบบหลักการเดียวกับโดรนมากกว่า แต่ครั้งนี้เจ้า Jetpack Speeder นั้นขับเคลื่อนด้วยระบบไอพ่น ที่ใกล้เคียงกับเครื่องบินจริงๆ โดยมีส่วนประกอบหลักๆ ไปด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ท จำนวน 4 เครื่องด้วยกันโดยจะมีแรงขับมากถึง 320 กก. ด้วยกัน ซึ่งตัวของเจ้า Speeder นั้นหลังจากสตาร์ทเครื่องแล้ว ก็จะขับเคลื่อนขึ้นไปในแนวตั้งได้เลย ไม่ต้องอาศัยรันเวย์เพื่อการเทคออฟหรือว่าแลนดิ้ง (ขึ้นและลงจอด) แต่อย่างใด และวิธีการบังคับก็ถือว่าง่ายเอามากๆ เพราะตัว Speeder คันนี้นั้น มีระบบช่วยในการทรงตัวและจัดสมดุลย์ความเสถียรติดตั้งมาให้
โดยน้ำหนักตัวของเจ้า Jetpack Speeder คันนี้อยู่ที่เพียง 105 กก. เท่านั้น ซึ่งนับว่าเบากว่ารถมอเตอร์ไซค์ขนาด 125cc เสียอีก และสามารถรองรับน้ำหนักตัวผู้ขับขี่ได้สูงสุดถึง 109 กก. โดยทางบริษัทผู้ผลิตได้เคลมว่ามันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 240 กม. ต่อชม. ซึ่งนับว่าเร็วมากทีเดียว โดยในเบื้องต้นนั้นเจ้า Speeder สามารถบินได้ที่ประมาณ 22 นาทีในการใช้พลังงานเชื้อเพลิงแบบเต็มความจุ 1 ครั้ง โดยมอเตอร์ไซค์บินได้คันนี้นั้น ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแบบดีเซล และ เคโรซีน หรือว่าน้ำมันก็าดที่เป็นเชื้อเพลิงปกติของเครื่องยนต์ไอพ่นอยู่แล้ว โดยที่เจ้า Speeder นั้นสามารถไต่ความสูงสูงสุดได้อยู่ที่ประมาณ 4,600 เมตร หรือ 4.6 กม. ซึ่งมันก็สูงมากพอที่จะเห็นมุมมองที่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ปกติไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน แต่ทางผู้ผลิตก็ได้ออกตัวไว้ว่า พวกเขาหวังว่าจะไม่มีลูกค้าคนไหนที่บินด้วยระดับเพดานบินสูงสุดขนาดนั้น
ทางบริษัท Jetpack Aviation ได้เปิดตัว Speeder ออกมาทั้งหมด 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน เวอร์ชั่นแรกก็คือแบบ Ultrla-Light หรือเวอร์ชั่นเริ่มต้น ที่มีการจำกัดความเร็วประมาณครึ่งหนึ่งของความเร็วสูงสุด หรือที่ประมาณ 120 กม. ต่อ ชม. โดยเวอร์ชั่นนี้จะไม่บังคับในการใช้ใบขับขี่นักบินสำหรับการซื้อ และอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่เป็นตัวท็อปก็คือแบบ Experimental โดยเวอร์ชั่นนี้จะมีการบังคับใบขับขี่นักบินในการซื้อด้วย ซึ่งก็ถือว่าสมเหตุสมผล กับระดับของความเร็วสูงสุดในการบังคับ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับทั้ง 2 เวอร์ชั่นนั้น จะต้องผ่านการอบรมจากทางบริษัทผู้จำหน่าย Jetpack Aviation หรือตัวแทนกันเสียก่อน
โดยราคาค่าตัวของมันนั้นก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ 380,000 USD หรือประมาณ 12 ล้านบาท ซึ่งอาจจะดูราคาสูง แต่เมื่อเทียบกับนวัตกรรมที่ได้มาก็ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมอยู่ และแน่นอนว่าเพราะมันเป็นครั้งแรกในโลก ที่มีการผลิตรถมอเตอร์ไซค์บินได้แบบเครื่องไอพ่นเพื่อวางขายแบบสาธารณะ ไม่แน่ว่าในรุ่นต่อๆ ไป มันอาจจะมีราคาที่ถูกลงกว่านี้ก็เป็นได้ หากได้รับความนิยมและมีการผลิตออกมาในจำนวนมากๆ หรือแม้แต่จะมีคู่แข่งจากทางบริษัทอื่นผลิตออกมาบ้าง โดยอยากให้จับตามองไปที่ประเทศจีนให้ดี เพราะเรื่องเทคโนโลยีแบบนี้พวกเขามักจะมีอะไรให้เซอร์ไพร์สอยู่เสมอ แถมราคาเอื้อมถึงได้ง่ายด้วย ไม่แน่ว่าวันหนึ่งเหล่าไบค์เกอร์ชาวไทยอาจจะได้มีโอกาสสัมผัสกับมอเตอร์ไซค์บินได้แบบนี้บ้างก็เป็นได้
ชมมอเตอร์ไซค์บินได้ในรูปแบบคลิป VDO
ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบจาก jetpackaviation.com
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience
