เปิดตัว BMW 30 Years GS Series
ความเคลื่อนไหวกับค่าย BMW ล่าสุด ที่ทางค่ายใบพัดฟ้าขาวได้ทำการประกาศเปิดตัว เจ้าตระกูล GS ที่เป็นรุ่นพิเศษ ’30 Years GS’ 4 รุ่น ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบความสำเร็จ 30 ปี ของ BMW GS ซึ่งใน 4 รุ่นที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะประกอบไปด้วย BMW R 1200 GS “30 Years GS”, BMW R 1200 GS Adventure “30 Years GS”, BMW F 800 GS “30 Years GS” และ BMW F 650 GS “30 Years GS” ซึ่งความโดดเด่นพิเศษในแต่ละรุ่นนั้นจะได้รับการตกแต่งด้วยสีแบบพิเศษ Alpine White, เบาะสีแดงพร้อมลัญลักษณ์ GS ในรุ่น F800 GS และ R1200 GS Adventure และสัญลักษณ์ครบรอบ 30 ปีด้วยสีของ BMW Motorrad Motorsport สีแดง-น้ำเงิน-ฟ้า
จากประวัติความเป็นมาถ้ามองย้อนไปจากอดีต ในปี 1980 ทางค่าย BMW ได้นำเสนอคอนเซปใหม่ของความเป็นมอเตอร์ไซค์ ในรุ่น R80 G/S ซึ่งมีการนำเอาสมรรถนะทั้งในด้าน On-road, Touring และ Off-road ที่ผสมผสานกันเข้าไว้ได้อย่างลงตัว อีกทั้งในเรื่องของความปลอดภัยและความสะดวกสบายเรียกว่าให้มาแบบจัดเต็มแบบว่า สามารถใช้งานได้ทุกวัน นั่นก็คืออีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญ ที่ทำให้ได้รับแรงขับเคลื่อนฃฃความนิยมสำหรับ BMW GS มาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ เจ้าตระกูล GS ยังสร้างชื่อเสียงในรายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ระดับโลกต่างๆ ไว้อีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น รายการแรลลี่ปารีส-ดาร์ก้า ซึ่งเป็นรายการสุดหฤโหด ต้องการความพร้อมทั้งในด้านของผู้ขับขี่และมอเตอร์ไซค์เป็นอย่างยิ่ง ในปีนี้ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 30 ปีของ BMW GS เราจึงได้จัดทำรุ่นพิเศษ ’30 Years GS’ ขึ้นมา เพื่อรำลึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่และยาวนานของมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์บ๊อกเซอร์รุ่นนี้
เรามาเริ่มดูกันเลยที่ตัวแรกนั่นคือเจ้า BMW R 1200 GS / GS Adventure “30 Years GS”
BMW R 1200 GS / GS Adventure ถูกพัฒนาขึ้นบนคอนเซป Grand Touring Enduro ที่มีสมรรถนะสูงทั้งในการวิ่งแบบ Off-road, On-road และการวิ่งทางไกล ใช้เครื่องยนต์ Boxer 2 สูบ ซึ่งตัวนี้มีการใช้ตัวถังแบบ Tubular space frame พร้อมระบบเกียร์ 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยระบบเพลา BMW R 1200 GS / GS Adventure ให้เสถียรภาพการขับ ความปราดเปรียว และความเฉียบคมในการบังคับอย่างเหนือชั้น
นอกจากนั้น BMW R 1200 GS ยังได้รับการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆ แบบครบครันไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ABS ที่สามารถเลือกเปิด-ปิดระบบได้ และระบบรักษาเสถียรภาพ ASC Automatic Stability Control เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์
BMW R 1200 GS / GS Adventure ใช้เครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 2 สูบ 1,170 ซีซี แบบเพลาราวลิ้นคู่ (DOHC-type) ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดได้ถึง 110 แรงม้าที่ 7,750 รอบ และแรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตรที่ 6,000 รอบ มีน้ำหนักเพียง 229 กิโลกรัม พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรภายใน 3.7 และความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ความพิเศษที่ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ฟิลลิ่งและความรู้สึกถึงตำนานความสำเร็จตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น สี Alpine White, ตัวเบาะเป็นสีแดงพร้อมลายพิมพ์ GS แบบสามมิติที่ด้านข้างตัวเบาะในรุ่น R1200 GS Adventure และสัญลักษณ์ครบรอบ 30 ปีด้วยสีของ BMW Motorrad Motorsport สีแดง-น้ำเงิน-ฟ้า ฯลฯ
เรามาดูกันต่อในรุ่นที่สามสำหรับเจ้า BMW F 800 GS “30 Years GS”
BMW F 800 GS “30 Years GS” เป็นอีกหนึ่งรุ่นของบิ๊กไบค์ Enduroที่ปราดเปรียวอย่างเหนือชั้น ซึ่งทางค่าย BMW ได้ขึ้นไลน์การผลิตรุ่นนี้เมื่อปี 2007 ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการขับขี่รถแนว Off-road เป็นพิเศษ ด้วยตัวถังน้ำหนักเบาและระบบช่วงล่างที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับการขับขี่แบบลุยๆ โหดๆ ดิบๆ จึงทำให้มันมีความยืดหยุ่นสูง บวกกับการขับขี่ไม่ว่าจะทางใกล้หรือไกล ก็ขับขี่ใช้งานได้อย่างสบายๆ
สำหรับเจ้า BMW F 800 GS “30 Years GS” สามารถสร้างน้ำหนักตัวได้ดีอยู่ที่ 207 กิโลกรัมเท่านั้น และมันยังถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยต่างๆ แบบครบครัน ทั้งระบบเบรก ABS ที่สามารถเลือกเปิด-ปิดระบบได้ และระบบรักษาเสถียรภาพ ASC Automatic Stability Control เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์
สำหรับบล็อคเครื่องยนต์ของเจ้า BMW F 800 GS ใช้บล็อคเครื่องเยนต์แบบ 2 สูบ 798 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ สามารถทำกำลังแรงม้าสูงสุดได้ถึง 85 แรงม้าที่ 7,500 รอบ และแรงบิดสูงสุด 83 นิวตัน-เมตรที่ 5,750 รอบ และสำหรับเจ้ารุ่นพิเศษนี้ BMW F 800 GS “30 Years GS” มีการตกแต่งพิเศษต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นสี Alpine White, เบาะสีแดงพร้อมลายพิมพ์ ‘GS’ สามมิติที่ด้านข้างตัวเบาะ และสัญลักษณ์ครบรอบ 30 ปีด้วยสีของ BMW Motorrad Motorsport สีแดง-น้ำเงิน-ฟ้า, สนับป้องกันมือ และแผ่นป้องกันเครื่องยนต์อลูมิเนียม ฯลฯ
ส่วนของคันที่สี่เป็นคิวของ BMW F 650 GS “30 Years GS”
สืบเนื่องจากความสำเร็จของรุ่น BMW F 800 GS ทำให้ค่ายใบพัดฟ้าขาวอย่าง BMW อยากจะเพิ่มไลน์การผลิตสำหรับรุ่นเล็ก รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นมาเอาใจมือใหม่ที่อาจจะไม่ค่อยชอบรุ่นใหญ่ๆ อย่างรุ่นพี่ก่อนหน้านี้แต่ก็ยังได้ฟิลลิ่งการขับขี่แบบลุยๆ BMW F 650 GS คันนี้มีการปรับตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งที่ต่ำลงมาเพื่อความสะดวกในการขึ้น-ลงและการขับขี่สำหรับผู้ขับที่มีความสูงไม่มาก อีกทั้งยังมีการเซตระบบช่วงล่างให้เหมาะสมสำหรับการขับขี่แบบ Off-road ที่ไม่วิบากมากนัก แต่คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพการขับขี่ที่สนุกสนานใช้งานได้ทุกวัน
BMW F 650 GS ใช้บล็อคเครื่องยนต์แบบ 2 สูบแถวเรียง 798 ซีซี พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเครื่องยนต์บล็อคนี้สามารถทำกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 71 แรงม้าที่ 7,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 75 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ BMW F 650 GS มีน้ำหนักตัวเพียง 199 กิโลกรัมเท่านั้น
BMW F 650 GS “30 Years GS” รุ่นพิเศษนี้ได้รับการตกแต่งพิเศษที่โดดเด่นคงจะเป็นในเรื่องของสีและลวดลาย Alpine White และสัญลักษณ์ครบรอบ 30 ปีด้วยสีของ BMW Motorrad Motorsport สีแดง-น้ำเงิน-ฟ้า, สนับป้องกันมือ และล้ออัลลอยด์พิเศษสีแม๊กนีเซียม
เรียกว่างานนี้ฉลองครอบรอบ 30 ปีในตระกูล GS ได้แบบเต็มเครื่องเต็มสูบเอาใจแฟนๆ ขาลุยได้แบบถึงพริกถึงขิงกันไป เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายที่คอยวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพป้อนเข้าสู่ตลาดมอเตอร์ไซค์บี๊กไบค์อย่างต่อเนื่อง
BMW F 650 GS “30 Years GS” สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 720,000 บาท
BMW F 800 GS “30 Years GS” สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 805,000 บาท
BMW R 1200 GS “30 Years GS” สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,055,000 บาท
BMW R 1200 GS Adventure “30 Years GS” สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,160,000 บาท
* จำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 5 คัน
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : bmw.co.th