Harley ขยับตลาด “รถเล็ก” แล้ว หรือคิวต่อไปจะเป็นทางฝั่ง Ducati บ้าง?!!
จากที่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ทางยักษ์ใหญ่จากฝั่งอเมริกาอย่าง Harley-Davidson ได้ทำการประกาศถึงความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับทาง Qiang Jiang ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์รายใหญ่จากทางประเทศจีน เจ้าของแบรนด์ Benelli ในปัจจุบัน ในการเดินหน้าพัฒนารถคลาสเล็กจากทางค่ายในพิกัด 338 cc ซึ่งตอนนี้ยังเหลืออีก 2 แบรนด์ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ว่าจะโดดลงมาแจมในคลาสเริ่มต้นบ้างอย่าง Triumph และ Ducati
สำหรับความเคลื่อนไหวในประเด็นนี้ของทาง Ducati เองนั้น พวกเขาได้มีการวิจัยและเก็บข้อมูลในเรื่องยอดขาย ของรถมอเตอร์ไซค์ในระดับเอนทรี่คลาส ที่ต่ำกว่า 400cc กันอย่างจริงจังตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตรงนี้เองก็สอดคล้องกับกระแสข่าวในเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะทางค่ายอย่าง KTM และ BMW ก็ได้โดดลงมาแจมในตลาดนี้กันเรียบร้อยแล้ว โดยการร่วมมือกับพันธมิตรในฝั่งอินเดีย เช่นเดียวกับข่าวที่ว่าทาง Ducati ก็จะร่วมมือกับแบรนด์ Hero MotoCorp จากทางประเทศอินเดียนี้
Hero MotoCrop ค่ายรถมอเตอร์ไซค์จากประเทศอินเดีย ผู้เคยตกเป็นหนึ่งในผู้ขอยื่นซื้อแบรนด์ Ducati จาก VW Group เจ้าของธุรกิจสัญชาติเยอรมัน แต่ดีลนี้ก็ปิดไปหลังจากทาง Hero MotoCrop เองไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับทางคณะกรรมการได้ ทำให้ทาง Ducati เองยังถูกครอบครองโดยกลุ่มเดิม ซึ่งคาดหวังผลกำไรจากตราสินค้านี้เป็นอย่างมาก ซึ่งการร่วมมือกันระหว่างสองค่ายยักษ์ใหญ่จากสองทวีปนั้น เกิดขึ้นจากกรณีศึกษาของทาง BMW ที่เป็นหนึ่งในตราสินค้าที่มี Head Quarter อยู่ในประเทศเยอรมัน โดยเป้าหมายหลักของการร่วมมือของ BMW และ Bajaj นั้นก็คือการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กเป็นหลัก
ดังนั้นแล้ว Ducati อาจจะเอา Road Maps ของ BMW มาใช้งานในการร่วมมือกับค่ายผู้ผลิตจากต่างทวีปในการพัฒนา ซึ่งสองทางเลือกที่น่าสนใจที่สุดในตลาดปัจจุบันคือผู้ผลิตจาก ประเทศจีน และ ประเทศอินเดีย ซึ่งมีฐานของการขายภายในประเทศที่สูงเป็นอันดับ 1 และ 2 ในทวีปเอเชีย และยังสามารถกระจายผลิตภัณฑ์ ไปยังภูมิภาคอื่นๆได้ง่ายกว่าตั้งต้นจากยุโรป และยังสามารถลดต้นทุนในการผลิตรวมไปถึงการพัฒนาและวิจัยโมเดลใหม่ๆได้เป็นอย่างมาก
ย้อนกลับมาดูรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ที่เล็กที่สุดที่ Ducati เป็นผู้ผลิตในตลาดปัจจุบัน ก็คงไม่พ้น Ducati Scrambler Sixty2 ที่ยังเป็นเครื่องยนต์ขนาด 399 ซีซี 2 ลูกสูบ L-Twin และเป็นเพียงโมเดลเดียวที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่ถึง 500 ซีซีในท้องตลาดปัจจุบันของ Ducati ซึ่งหากเราพิจารณาแล้วการร่วมมือกับ Hero นั่นจะส่งผลดีมากกว่าด้วยการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 300 – 400 ซีซี ในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของเครื่องยนต์ขนาดนี้เป็นกลุ่มที่ใหญ่และมีพลังในการซื้อที่สูงมากกว่ากลุ่มรถที่ Ducati วางจำหน่ายในตลาดปัจจุบันอีกด้วย ตรงนี้จะต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้ว Ducati จะตัดสินใจใช้เครื่องยนต์แบบไหน 1 สูบ, 2 สูบเรียง หรือว่า L-Twin ในรถกลุ่มนี้ของพวกเขา
อย่างไรก็ดี ทาง Hero MotoCrop เคยเป็นพันธมิตรกับค่ายรถมอเตอร์ไซค์จากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Honda มาก่อนและหลังจากหมดสัญญาไปในปี 2010 Hero ก็กลายเป็นเบอร์หนึ่งในการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศอินเดีย และก็ตกเป็นข่าวกับค่ายรถมอเตอร์ไซค์จากฝั่งอเมริกันอย่าง Harley-Davidson ในการร่วมมือกันผลิตรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กอยู่เหมือนกัน แต่ดูแล้วแนวโน้มที่ Hero จะปฏิเสธนั่นมีค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่า H-D จะแสดงเจตนาและให้ความสนใจตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กทั้งในอินเดียและเอเชียมากขนาดไหนก็ตาม
ไม่แน่ว่าเร็วๆ นี้เราอาจจะเป็นรูปแบบความร่วมมืออย่างเป็นทางการมากกว่านี้ จากทางฝั่ง Ducati และ Hero MotoCor เองก็เป็นได้ เพราะบอกเลยว่าตลาดรถระดับเอนทรี่คลาสนั้น เม็ดเงินมหาศาลกำลังหมุนเวียนอยู่อย่างแท้จริง!!!
Sakon Supapornopas – Website founder greatbiker.com I like all types of motorcycles. Working in the automotive industry for more than 10 years, in-depth analysis of new motorcycle models. that will be launched in Thailand and abroad Review from actual use experience